สายปาร์ตี้ต้องรู้ ‘ยันหว่าง’ได้ไม่เสียงาน

เกิดเป็นคนไทยต่อให้ทำงานหนักแค่ไหนก็ต้องปาร์ตี้ การแฮงค์เอาท์ หรือออกไปหาอะไรกินกันยามค่ำคืน มันทั้งช่วยฟื้นฟูความสนุกให้ชีวิตมีสีสัน และที่สำคัญร้านสตรีทฟู้ด รวมถึงร้านนั่งเล่นเมืองไทยเนี่ยมีกันให้เลือกตามรสนิยม แต่อย่าลืมนะว่าจะเที่ยวยังไงก็ต้องห้ามเสียการเสียงาน ไม่งั้นจะถือว่าเราเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบ ดังนั้นเพื่อไม่ให้หัวหน้ามาว่าไม่รับผิดชอบ ก็ต้องจัดระเบียบเตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปชมเทคนิคแฮงค์เอาท์แบบไม่ให้เสียงานเหล่านี้กันเลย

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme 

วางแผนเนิ่นๆ เพิ่มเวลาเที่ยว

ถ้าการแฮงค์เอาท์ครั้งนี้ได้มีการนัดกันล่วงหน้ามายิ่งนานเท่าไหร่ยิ่งดี(แต่ส่วนใหญ่ก็ปุ๊บปั๊บ) เพราะเราจะมีเวลาเคลียร์งานให้เสร็จได้ไวขึ้น เผลอๆ บางบริษัทนี่ชิลล์มากถึงขนาดว่าถ้าเสร็จก่อนก็กลับก่อนได้ อันนี้ก็สบายกันไป การวางแผนที่ดีไม่เพียงแต่จะช่วยให้สบายใจว่าไม่มีงานตกค้างเท่านั้น แต่มันยังช่วยให้เช้าวันต่อไปเราสามารถทำงานที่เบาลงได้ ไม่ต้องเค้นสมองคิดงานหนักให้เครียด เพราะแน่นอนว่าหลังจากเที่ยวมาทั้งคืน บวกกับการพักผ่อนไม่เพียงพอ สมองคงไม่พร้อมสำหรับงานอะไรยากๆ แน่ๆ การจัดเตรียมตารางงานให้ดี เคลียร์สิ่งที่ต้องทำให้หมดก่อนเป็นดีที่สุด   

เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน

ถึงแม้เราจะตรวจทานงานแบบละเอียดมากแค่ไหน แต่ด้วยความรีบร้อน และใจลอยเหม่อไปถึงช่วงเวลาแห่งความสุขมื้อเย็น ก็อาจทำให้เราทำงานแบบขาดตกบกพร่องเอาได้ ซึ่งแน่นอนว่าถ้ามันไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นก็ดีไป แต่ถ้ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมตลอดเวลา

พกอุปกรณ์จำเป็นที่สามารถแก้ไขงานติดตัวไว้ ไม่ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊ก หรือพาวเวอร์แบงค์ เพราะบางทีเราอาจจะต้องแก้งานผ่านมือถือ พาวเวอร์แบงค์นี่แหละจะช่วยยืดชีวิตสมาร์ตโฟนของเราให้อยู่รอดได้จนถึงเช้าเลย 

แฮงค์เอาท์น่ะได้ แต่ต้องให้ร่างกายได้พักด้วย

ถ้าถึงขนาดต้องแฮงค์เอาท์แล้วไม่มีเวลาพักผ่อน ได้นอน 10 นาทีแล้วตื่นมาทำงานเลย รับรองว่าวันนั้นทั้งวันงานไม่เดินแน่ เพราะจะทั้งง่วง ทั้งสะลึมสะลือและไม่มีกะจิตกะใจทำงาน ลำพังแค่ลุกมาทำงานในวันปกติก็ยากแล้ว ยิ่งถ้าเหนื่อยเพลียจากคืนก่อนหน้านี่อย่าหวังว่าจะลุก

เพราะฉะนั้นจัดเตรียมเวลานอนให้ร่างกายดีๆ ด้วย อย่างน้อยๆ ก็ต้องนอนให้ได้ 4  ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ จำไว้ว่าการออกไปกินดื่มนอกบ้านคือการผ่อนคลาย แต่ก็อย่าสุดมากนักหากพรุ่งนี้ยังเป็นวันทำงาน 

ติดต่อได้แม้จะกำลังสนุกแค่ไหนก็ตาม

อย่างที่บอกไปว่าบางครั้งบางที การแก้งานอาจจะมาในช่วงเวลาที่เรากำลังสนุกอยู่ แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพ เราต้องมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ตรงนั้นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งนี่คือยุค 4.0 ที่เราต้องออนไลน์ทุกอย่างตลอดเวลา เพื่อติดต่อรับข่าวสารที่สำคัญ ดังนั้นห้ามปิดเครื่องเด็ดขาดแม้จะเลิกงานแล้วก็ตาม

การที่เราหนีเข้ากลีบเมฆไปเลยไม่สามารถตามตัวได้ แม้จะนอกเวลางานก็ตาม โดยอ้างเหตุผลว่ามาแฮงค์เอาท์ ก็คงได้ แต่บางครั้ง งานเร่ง งานรีบ งานด่วนที่สุด ก็ต้องเผื่อใจให้งานบ้าง เพราะนั่นมันคือแหล่งรายได้หลัก

รักษาคำพูดตัวเอง รู้ลิมิตว่าเมื่อไหร่ควรพอ

ถึงแม้เราจะรู้ว่าต้องนอนพักผ่อนให้เพียงพอ แต่การหักห้ามใจในช่วงเวลาที่แสนสนุกเมื่อแฮงค์เอาท์มันก็ยากซะเหลือเกิน มีหลายครั้งที่เราอาจจะบอกตัวเองว่าจะกลับ 5 ทุ่ม แต่สุดท้ายก็ลากยาวยันตี 1 ตี 2 ซึ่งเข้าใจว่าปาร์ตี้แบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ แต่การรักษามาตรฐานในการทำงานนั้นก็สำคัญเช่นกัน

เราคงไม่อยากให้ความสนุกแค่เพียงข้ามคืน มาทำให้ผลงานการทำดีของเราตลอดหลายปีต้องเสื่อมเสียใช่มั้ยล่ะ เพราะฉะนั้นนัดแนะกับเพื่อนให้ดีครับว่า เราจะกลับกันตอนกี่ทุ่ม หรือตีอะไรกันแน่ รู้ลิมิตว่าเมื่อไหร่ควรพอ และช่วยกันเตือนช่วยกันปราม เมื่อถึงเวลากลับก็ต้องรักษาคำพูด และโบกมือลาเพื่อให้ไม่เสียงานในวันต่อไป

สุดท้าย ไม่ส่งเสริมให้ดื่ม แต่ถ้าดื่มก็ดื่มแต่พองาม ดื่มเพื่อผ่อนคลายและความรู้สึกแปลกใหม่ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและหน้าที่ และสำคัญเลย ดื่ม ต้องไม่ขับ