7 เทคนิค ทริคสร้าง Passive Income ฉบับ Salaryman

การเป็นมนุษย์เงินเดือนนั้นไม่ใช่มีรายได้จากเงินเดือนเพียงอย่างเดียว เราสามารถสร้างความมั่งคั่งได้มากกว่าที่เป็นอยู่ ทั้งจากการหารายได้พิเศษ ทำอาชีพเสริม ฯลฯ ซึ่งเราสามารถสร้าง Passive income ได้ด้วยตัวเอง

ก่อนจะทราบวิธีการสร้าง Passive Income มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า Salaryman อย่างเรามีรายได้โดยแบ่งออกเป็น 2 ข้อหลัก ดังนี้

Active Income : คือรายได้ที่เกิดขึ้นจากการทำงาน ใช้ทั้งแรง เวลา สุขภาพในการแลกมา และถ้าต้องการจะเพิ่มรายได้ให้มีมากก็จำเป็นต้องเพิ่มเวลาในการทำงาน หรือเพิ่มความสามารถด้านการทำงานเพื่อแลกรายได้ที่สูงขึ้น

Passive Income : คือการที่เราลงทุนลงแรงในช่วงแรก จากนั้นก็จะเกิดดอกผลให้ได้เก็บกินไปตลอด โดยที่ไม่ต้องใช้เวลาหรือลงแรงมากมายเหมือนครั้งแรกอีก ซึ่งผลนั้นจะมาในรูปแบบ เงินปันผล กำไร และค่าเช่า เป็นต้น

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

7 เทคนิค ทริคสร้าง Passive Income ฉบับ Salaryman

1. ทำเว็บไซต์ ให้เช่าพื้นที่โฆษณา

สำหรับคนที่มีเว็บไซต์ของตัวเองอยู่แล้ว สามารถหารายได้เสริมจากการให้เช่าพื้นที่โฆษณาบนเว็บไซต์ ที่นิยมกันทั่วไปก็จะเป็นระบบ Google AdSense ที่ Google จะเช่าพื้นที่หน้าเว็บไซต์เพื่อเผยแพร่โฆษณาแบนเนอร์ต่างๆ เมื่อมีคนคลิกโฆษณานั้น ก็จะแบ่งรายได้ให้เจ้าของเว็บไซต์ตามจำนวนยอดคลิก บางเว็บไซต์มีคนเข้าเยอะ ก็มีโอกาสทำเงินโดยไม่ต้องลงทุนลงแรงมาก เป็นรายได้เสริมเข้ามาค่อนข้างสม่ำเสมอตราบเท่าที่ยังมีคนเข้าชมเว็บของเราอยู่

2. ปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์

อสังหาริมทรัพย์เป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้ ทุกคนอยากเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโดก็ดี และหากเป็นเจ้าของจำนวนมากเกินกว่าสำหรับพักอาศัย ก็สามารถนำส่วนที่เหลือมาต่อยอดสร้างเงินเข้าบัญชีได้ทุกเดือนเช่นกัน

3. ขายสติกเกอร์ไลน์

หากใครมีฝีมือด้านกราฟิก ออกแบบตัวละคร ก็สามารถทำสติกเกอร์ขายบน Line Store ได้ สมัครลงขายฟรีใน Line Creators Market ไม่เกี่ยงอายุหรืออาชีพ เพียงลงทะเบียนด้วยบัญชี Line ที่เรามีอยู่ ออกแบบภาพสติกเกอร์ภาพนิ่ง แอนิเมชั่น อิโมจิ หรือธีมโพสต์ขาย ก็จะได้รับส่วนแบ่งสูงสุด 50% ของยอดขาย ทำครั้งเดียวขายได้เรื่อยๆ สร้าง Passive Income ได้จริง

4. ลงทุนทำธุรกิจแฟรนไชส์

โดยแฟรนไชส์ที่ว่านี้เป็นธุรกิจของเราเอง แล้วก็ขายแฟรนไชส์เพื่อขยายธุรกิจ แต่การที่จะทำแบบนี้ได้ธุรกิจต้องเป็นที่ยอมรับ มีผลงาน ประสบความสำเร็จ จึงจะมีผู้สนใจซื้อแฟรนไชส์ไปประกอบธุรกิจเป็นของตัวเอง

5. ขายภาพถ่ายออนไลน์

ปัจจุบันมีเว็บไซต์มากมายที่เปิดให้โพสต์ขายรูปถ่ายหรือรูปวาดฝีมือเราได้ เรียกว่าเว็บไซต์ Microstock โดยลูกค้าที่จะซื้อก็จะเป็นกลุ่มผู้ทำงานกราฟิกดีไซน์ บริษัทจัดทำสื่อ คนทำงานโฆษณา หรือเจ้าของธุรกิจที่ต้องการภาพถูกลิขสิทธิ์ เปิดรับรูปหลายประเภทหลายแนว มีลูกค้าอยู่ทั่วโลก เมื่อมีคนคลิกซื้อภาพ เราก็จะได้ส่วนแบ่งรายได้จากเว็บไซต์ เมื่อโพสต์รูปไว้แล้วก็สามารถขายได้เรื่อยๆ ถ้ารูปไหนฮิตติดตลาด เราลงขายครั้งเดียวก็สร้างรายได้เข้ามาตลอด ใครมีฝีมือถ่ายรูปหรือวาดรูปขอแนะนำวิธีนี้

6. YouTuber

ทุกวันนี้มีหลายสายให้เลือกทำมาก บางคนก็แคสเกม บางคนก็ทำคลิปรีวิวสิ่งต่างๆ พาเที่ยว หรือพาตะลุยคาเฟ่ ฯลฯ เลือกตามความถนัดได้เลย

โดยรายได้จากการทำคลิปลง YouTube จะมาจาก 3 ส่วนหลักๆ คือ

1. YouTube Partner Program, YouTube Adsense หรือโฆษณาของ YouTube ที่เด้งมาระหว่างเราชมคลิปนั่นเอง

2. ทำ Affiliate Marketing เอาลิงก์สินค้ามาแปะในคลิป หากมีคนคลิกซื้อผ่านลิงก์นี้เราก็จะได้เงินส่วนแบ่ง

3. ทำคลิปให้สปอนเซอร์

7. ขาย E-Book

หากใครชื่นชอบในงานเขียน ไม่ว่าจะเขียน การ์ตูน นิยาย ฮาวทู บทความต่างๆ ก็สามารถทำเป็น E-Book เพื่อวางขายบนเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์ม E-Book ต่างๆ ได้ โดยอุปกรณ์ที่ต้องใช้ก็ไม่มีอะไรมาก เช่น คอมพิวเตอร์สักเครื่อง โปรแกรมพิมพ์ โปรแกรมแต่งภาพสำหรับจัดหน้าหนังสือ แต่สิ่งที่สำคัญก็คือไอเดียในการเขียน และเมื่อมีคนดาวน์โหลดหนังสือของเราก็จะได้ส่วนแบ่งรายได้จากเว็บไซต์

ประเด็นสำคัญนอกเหนือจากการหารายได้ ก็คือการบริหารรายจ่ายและเก็บออม เพราะหากหาเงินได้มากแต่ใช้จ่ายมากกว่าย่อมทำงานติดลบ ดังนั้นทางที่ดีเมื่อหาเงินได้ควรแบ่งบางส่วนเก็บออม เพื่อให้อุ่นใจว่าเราจะมีเงินไว้สร้างอนาคตและสำรองในยามจำเป็น

แหล่งอ้างอิง :

https://www.ncb.co.th/