มีคนเปรียบเปรยไว้ว่า “ยิ่งสูงยิ่งหนาว” หมายถึงยิ่งมีตำแหน่งสูง ยิ่งโดดเดี่ยว แต่ถ้าเอ่ยถึง “ยิ่งสูง ยิ่งสวย” คงต้องใช้กับที่นี่ได้เลย ...ปีนัง ฮิลล์ (Penang Hill)
ปีนัง ฮิลล์ (Penang Hill) หรือในชื่อภาษามาเลเซียว่า บูกิต เบนดีรา (Bukit Bendara) เป็นภูเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเล 830 เมตร ถือเป็นจุดสำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมาเยือนให้ได้เมื่อได้มาเที่ยวปีนัง เพราะยิ่งสูง ยิ่งสวย สามารถมองเห็นวิวเกาะปีนังได้แบบ 360 องศา ถ้าฟ้าเคลียร์จะเห็นทั้งเมืองในมุมสูงเลยทีเดียว
Slow life ไปชิลล์กันที่หลวงพระบาง วัด-วิว-วัง สวยไปหมด
ทัสคานี สัมผัสธรรมชาติที่สวยงามราวกับอยู่ในความฝัน
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
ถ้าใครไปเที่ยวปีนัง ฮิลล์ ขอแนะนำว่าควรจัดสรรเวลาไว้ 1 วันเต็ม ๆ เพื่อทำความรู้จักกับสถานที่ธรรมชาติแห่งนี้ให้เต็มอิ่ม และสามารถเก็บความรู้สึกได้ครบรสชาติตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ไปจนถึงพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ที่มาพร้อมกับแสงสียามราตรี ส่วนระหว่างช่วงกลางวันนั้นไม่ต้องกลัวเหงาเพราะนี่นั่นมีกิจกรรมเยอะแยะให้นักท่องเที่ยวได้เสพ
ในเมืองมีแต่ตึกรามบ้านช่อง แม้จะไม่ใช่ตึกสูงแต่ก็หนาแน่นพอสมควร โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่แทบจะนับต้นได้เลย แต่ถ้าได้ไปสัมผัสปีนัง ฮิลล์จะเหมือนอยู่ในโลกธรรมชาติที่เป็นป่ามีโอโซนในสูดได้เต็มปอด
การเดินทางขึ้นปีนัง ฮิลล์ มีให้เลือกตามใจชอบ ที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวคือขึ้นรถรางเหาะเพราะสะดวกสบายใช้เวลาเพียง 20 นาที ซึ่งถือว่าเป็นรถรางสายแรกในเอเชียที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1923โดยบริษัทรถรางสัญชาติสวิส หรือ 96 ปีมาแล้ว แต่คงได้รับการปรับปรุงมาตลอด เพราะดูใหม่ทันสมัย ตัวโบกี้ออกแบบให้เป็นกระจกล้อมรอบเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวสองข้างทางระหว่างที่รถรางวิ่ง และยังมีป้ายบอกความสูง เป็นระยะ ๆ ให้ลุ้นด้วย
นอกจากนี้ยังมีถนนลัดเลาะไปตามเขาสำหรับนักท่องเที่ยวแนว อเวนเจอร์สต้องการพิสูจน์กำลังเท้าด้วยการเดินหรือปั่นจักรยาน ก็จะได้ความสุนทรีย์จากป่าสองข้างทางไปอีกแบบ ซึ่งกว่าจะไปถึงยอดเขาคงใช้เวลาหลายชั่วโมง
เมื่อไปถึงด้านบนของปีนัง ฮิลล์ จะได้พบกับเมืองเล็ก ๆ ที่มีลานโล่ง ๆ นั่งเล่น พิพิธภัณฑ์นกฮูก ร้านอาหาร มัสยิด สนามเด็กเล่น สวนนก และสวนดอกไม้ และลาน LOVE ให้คู่รักหรือคนมีความรักนำกุญแจรูปหัวใจมาคล้อง เพื่อประกาศรักต่อสาธารณะว่าฉันมีคนรักแล้วนะ ก็ไม่รู้ว่าระหว่างเกาหลีกับปีนังใครเลียนแบบใครกันแน่ ส่วนใครสนใจอะไรก็เชิญได้ตามอัธยาศัย
ไฮไลต์หนึ่งที่ไม่ควรพลาดคือการเดินชมสวนป่าร่มรื่น ซึ่งจะมีถนนให้เดินตามเส้นทาง ส่วนใครไม่ชอบเดินแต่ชอบดูก็มีรถบริการพานักท่องเที่ยวนั่งรถชมแล้วแวะตามจุดสำคัญต่าง ๆ ประมาณครึ่งชั่วโมง ก็สามารถทำความรู้จักกับสถานที่ต่าง ๆ บนปีนัง ฮิลล์ได้พอสมควร ระหว่างทางที่นั่งรถได้เห็นบ้านสวย ๆ ซึ่งเป็นบ้านที่ใช้อาศัยจริง ๆ โดยลุงคนขับบอกว่าบนปีนัง ฮิลล์ อนุญาตให้สร้างบ้านได้ แต่ต้องรวยจริง ๆ เพราะที่แพงมาก ไม่แปลกใจเลยที่บ้านแต่ละหลังออกแบบสวยงามมาก
วันที่ไปเยือนปีนัง ฮิลล์ เป็นช่วงใกล้เข้าหน้าฝน พอรถรางวิ่งขึ้นไปแตะสถานีปลายทางปั๊บ ฝนก็เทลงมาเลย ตกหนักจนมองแทบไม่เห็นอะไรเลย ทำเอานักท่องเที่ยววิ่งหาที่หลบฝนกันกระเจิง แต่สักพักพอฝนหยุดตก สายหมอกเหมือนมังกรยักษ์ก็เลื้อยตามลงปกคลุมยอดเขาปีนังฮิลล์ สายหมอกยามเที่ยงวันจึงเป็นความมหัศจรรย์และงดงามสำหรับนกท่องเที่ยวที่มาเยือน
ปิดท้ายก่อนอำลาปีนัง ฮิลล์ จบลงด้วยอาหารมื้อเที่ยง (แต่เลยเวลาไปเป็นชั่วโมง) ที่แสนจะโรแมนติกเพราะผู้เขียนเลือกกินร้าน David Brown’s ร้านอาหารค่อนข้างหรูหนึ่งเดียวบนนั้นแทนการกินในแคนทีนด้วยเหตุผลคือไม่อยากเบียดกับนักท่องเที่ยวเยอะ ๆ แต่ก็คุ้มค่าแม้ราคาจะสูงหน่อย การได้กิน สเต็กเนื้อชิ้นโต พาสต้าซีฟู้ดรสชาติเข้มข้น จบลงด้วยกาแฟกลิ่นหอม ๆ ในบรรยากาศสวนอังกฤษบนปีนัง ฮิลล์ ดูวิวสูงรอบ ๆ ตัว เป็นการอำลาปีนัง ฮิลล์ที่จะประทับใจไปอีกนาน
Leh Ladak สถานที่สวยงามที่อากาศเปลี่ยนจนตามไม่ทัน
หยุดโลกไว้ที่ฮอยอัน ในวันที่ชีวิตต้องการ slow life
Bangkok Bank SME เราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพ คลิก www.bangkokbanksme.com หรือ โทร call center 1333