เชื่อว่าหลายตลาดตอนนี้เริ่มจะออกอาการเหมือนเจอทางตัน เพราะเจอผลิตภัณฑ์ซ้ำจนต้องมาแข่งกันเองภายในตลาดบ้าง ส่งผลให้ต้องทำการตลาดหนักขึ้นเพื่อให้ผู้คนต้องจดจำ แต่วันนี้เรามีตัวอย่างธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีสินค้าและบริการรักษ์โลกสุดแหวกแนว เพราะธรรมดาโลกไม่จำ แต่ผู้บริโภคเห็นสตาร์ทอัพรักษ์โลกเหล่านี้ปุ๊บ จดจำได้ทันที จะมีอะไรบ้าง มาดูกัน
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1. หลอดกินได้ ภาชนะกินได้
ปกติเราจะเคยชินกับอาหารกินได้
แต่ปัจจุบันมีนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สไตล์รักษ์โลก อย่างหลอดกินได้และภาชนะกินได้
จากการที่หนึ่งประเทศอาจมีขยะที่เป็นหลอดใช้แล้วกว่า 5-600 ล้านชิ้นต่อวัน
นับว่าเป็นหนึ่งในประเภทขยะที่พบได้บ่อยติดอันดับ จนกระทั่งมีสตาร์ทอัพแนวใหม่หยิบปัญหาเหล่านี้มาทำหลอดกินได้
ตัวอย่างแบรนด์ที่ทำหลอดกินได้ เช่น Lolistraw ทำหลอดมาจากสาหร่ายทะเล แล้วใช้สีสันจากพืชผักผลไม้อย่างมะม่วง ส้ม วนิลา
กุหลาบ หรือของประเทศไทยจากบริษัท กัญจนาพร (สยาม) จำกัด ที่ทำมาจากมันสำปะหลัง
ข้าว ข้าวโพด บุก และพืชอีกหลายชนิด ฯลฯ
ในส่วนของภาชนะกินได้
เริ่มมีการทำอย่างแพร่หลายมากขึ้น แต่วัสดุที่ถูกหยิบมาใช้แตกต่างไปตามแต่ละแบรนด์
เช่น นักวิทยาศาสตร์ด้านเทคโนโลยีชีวภาพจากมหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งรัฐซามารา ทดลองทำภาชนะจากแอปเปิล,
Biotrem ภาชนะจากรำข้าวสาลี ประเทศโปแลนด์ ฯลฯ
2. บรรจุภัณฑ์ที่นำไปใช้ประโยชน์อื่นได้
การออกแบบบรรจุภัณฑ์นอกจากจะต้องออกแบบให้หน้าตามีความโดดเด่นเป็นที่จดจำแล้ว
ในยุคนี้ยังต้องสามารถนำไปใช้ประโยชน์อื่นต่อได้ด้วย เช่น
บรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำไปปลูกได้อย่าง Pangea Organics
ซึ่งเป็นแบรนด์สกินแคร์ได้จัดทำร่วมกับ Seed of Change หรือการนำผลิตภัณฑ์เดิมไปทำเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง Preserve แบรนด์แปรงสีฟันที่ยินดีรับแปรงสีฟันพลาสติกอันเดิม
ไปทำเป็นแปรงสีฟันอันใหม่ให้ลูกค้า พร้อมบรรจุภัณฑ์เป็นกล่องที่มีความแข็งแรง
สามารถเก็บแปรงสีฟันพกเดินทางไปข้างนอกได้ ไม่ใช่แบบฉีกออกแล้วทิ้ง
3. รองเท้าจากของเหลือใช้
เชื่อว่าหลายคนอาจจะต้องเคยเห็นรองเท้าจากของเหลือใช้กันมาบ้าง
เพราะแม้แต่แบรนด์รองเท้ายักษ์ใหญ่ก็ยังเคยทำโปรเจ็กต์เหล่านี้
เพื่อรณรงค์เกี่ยวกับการจัดการขยะ เช่น Converse Renew, Christopher Raeburn brand X Timberland, Nike
Space Hippie, Terrex Free Hiker Parley และ Terrex
Two Ultra Parley ฯลฯ ส่วนแบรนด์ของประเทศไทยเราเองก็ไม่ได้น้อยหน้า
เพราะแบรนด์รองเท้าที่อยู่คู่กับคนไทยมาตั้งแต่วัยเด็กอย่าง นันยาง
ก็ได้จัดทำรองเท้าชื่อว่า KHYA ร่วมกับทะเลจร และ TRASH
HERO จากวัสดุเหลือใช้ที่กลายเป็นขยะในท้องทะเลประมาณ 5 กิโลกรัมต่อ
1 คู่
4. ถ่านชาร์จ USB
ถึงเราจะอยากหลีกเลี่ยงพวกถ่านก้อนขนาดไหน
ก็คงจะต้องมีบางสิ่งในบ้านที่จำเป็นต้องใช้ถ่านก้อนเหล่านั้น เช่น รีโมต,
นาฬิกาติดบ้าน, เครื่องคิดเลข ฯลฯ แต่ถ่านที่มีวางจำหน่ายทั่วไปกลับเป็นถ่านที่บรรจุพลังงานไว้แบบใช้แล้วหมดไป
ในปัจจุบันจึงได้มีธุรกิจสตาร์ทอัพหลายรายมีการคิดถ่านก้อนแบบชาร์จผ่าน USB ได้เพื่อความสะดวก มีทั้งขนาดแบบ AA / AAA ซึ่งราคาต่างกันเพียงเล็กน้อย
5. บริการสไตล์รักษ์โลก
ในปัจจุบันได้มีบริการเกี่ยวกับรักษ์โลกมากมาย
เช่น บริการจำหน่ายสินค้าแบบเติมรีฟิล, ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์,
คาเฟ่ที่ลดการใช้พลาสติกย่อยสลายยาก แต่หันมาใช้แบบไบโอพลาสติก ฯลฯ หรือแม้แต่ในธุรกิจขนส่ง
ซึ่งโดยปกติรถเหล่านี้จะมีการขับขี่และใช้พลังงานตลอดเวลา แต่ที่นี่ใส่ใจตั้งแต่ผลิตรถให้คนได้ใช้
บริการขนส่งที่ดี ประหยัดพลังงาน และไม่สร้างมลพิษ
ต่างจากบ้านเราที่ยังคงใช้รถโดยสารรุ่นเก่าที่แอบปล่อยควันดำจนแสบจมูก
ความจริงแล้ว บนโลกใบนี้ยังคงมีสตาร์ทอัพหน้าใหม่ไฟแรงที่มีสินค้าและบริการรักษ์โลกสุดแหวกแนวที่เห็นแล้วจดจำ แถมยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนอยากที่จะต่อยอด เพื่อมาตอบโจทย์ตัวเองพร้อมรักษ์โลกไปได้พร้อมกัน คงจะต้องจับตามองกันต่อไปว่า สตาร์ทอัพสายรักษ์โลกในอนาคตจะมีอะไรใหม่ๆ ที่เราคาดไม่ถึงออกมาอีกบ้าง