ด้วยการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด
19 ทำให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย ผู้คนทั่วโลกรวมถึงภาคธุรกิจต้องปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตมาเป็น
New Normal เพื่อให้อยู่ร่วมกับไวรัสได้ เมื่อการเปลี่ยนแปลงเข้ามาดิสรัปต์การดำเนินธุรกิจ
แผนระยะยาวที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี โมเดลธุรกิจแบบเดิมอาจไม่สามารถใช้ได้แล้ว
ซึ่งเกิดคำถามที่เกิดขึ้นก็คือเราจะปรับเปลี่ยนอย่างไร? เพื่อให้คนและธุรกิจยังเดินหน้าต่อไปได้ในโลกหลังโควิด 19
‘วิธีการตั้งเป้าหมาย’ ถือเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ธุรกิจเติบโต ซึ่งทุกวันนี้ SME ไม่สามารถพึ่งพาเป้าหมายระยะยาวและตัวชี้วัด KPIs ได้เหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะอาจไม่ทันการณ์ ไม่เหมาะกับความปกติใหม่ที่ความไม่แน่นอนเข้ามากระทบชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนวิธีการวัดผลในองค์กรให้เป็น OKR หรือ ‘Objective & Key Results’ ด้วย 3 คำถามชวนคิดก่อนสร้าง OKRs ให้กับธุรกิจ
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
คำถามที่ 1 : What?
เริ่มด้วยคำถามที่ว่า “เกิดอะไรขึ้นบ้างจากสถานการณ์นี้?” วิกฤตการระบาดโควิด 19 ส่งผลต่อพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไปหรือเปล่า? ชีวิตทำงาน-การเป็นอยู่ของลูกค้าเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง
และสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าและคนในสังคมอย่างไร
คำถามที่ 2 : So what?
เมื่อเข้าใจภาพสถานการณ์ มุมมองความคิดที่เปลี่ยนไปของลูกค้า
รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ขั้นต่อมาคือการถามถึงสิ่งที่ธุรกิจจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน
กิจการของเราจำเป็นต้องปรับโครงสร้างใหม่หรือเปล่า Business
Model ที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปีเป็นอย่างไร มีจุดไหนที่ต้องนำกลับมาทบทวน
เพื่อที่จะปรับเปลี่ยนให้เข้ากับพฤติกรรมการใช้ชีวิต การตัดสินใจ
และการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้า
คำถามที่ 3 : Now what?
คำถามสุดท้ายจะโยงถึงกระบวนการ Next Step ของธุรกิจ ว่าจะทำอย่างไรเพื่อที่จะ
Refocus เป้าหมาย ให้ตอบรับกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มใหม่
อะไรที่สามารถทำได้ทันทีเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายนั้น
ด้วย 3 คำถามข้างต้นจะช่วยนำพาความคิดให้เข้าใจสถานการณ์
เข้าใจลูกค้าได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังทำให้รู้ทิศทางที่จะก้าวเดินต่อไปได้เร็วขึ้นด้วย
เพราะในโลกการทำงานทุกวันนี้ว่าด้วยเรื่องของ ‘ปลาเร็วกินปลาช้า’ ที่ธุรกิจต้องวิ่งไปให้เร็ว-ให้ไว
จะมามัวรอทำแผนให้สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ก่อนแล้วค่อยเริ่มก้าวเดินเหมือนในอดีตไม่ได้แล้ว
ธุรกิจในปัจจุบันต้องมีความ Agile และ Resilience คือทำงานให้เร็วไม่ต้องรอให้แผนเพอร์เฟกต์
แต่อาศัยการทดสอบและประเมินว่าเวิร์คหรือเปล่า
หากไม่ก็ปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อล้มแล้วก็ต้องลุกได้เร็ว
ซึ่งตัววัดผลที่เหมาะสมสำหรับองค์กรที่ต้องปรับเปลี่ยนเร็วในยุคนี้นั่นก็คือ OKRs เพราะวัดผลได้จริง โดยสามารถเรียนรู้จาก 3 ขั้นตอนในการเริ่มต้นสร้าง OKRs อย่างมีประสิทธิภาพดังนี้
1. กำหนดเป้าหมายที่ต้องการทำให้สำเร็จให้ชัดเจน
โดยลดเป้าหมายลงมา จาก ‘O’ โอใหญ่ มาเป็น
‘o’ โอที่เล็กลง ในระยะเวลาการบรรลุเป้าหมายไม่เกิน 90 วัน เพราะสถานการณ์ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าพรุ่งนี้หน้าตาธุรกิจจะเปลี่ยนเป็นเช่นไร
โจทย์ธุรกิจอาจเปลี่ยนไป ดังนั้นองค์กรจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการทบทวนเป้าหมายทุก
3 เดือน
2. กำหนดสิ่งที่จะต้องทำระหว่างการดำเนินงาน
ทุกคนในบริษัทต้องเห็นและเข้าใจว่าบริษัทนั้นอยู่ยืนตรงไหน
ควรมีการตรวจเช็กเป้าหมายทุกเดือน การดำเนินงานรายอาทิตย์ รวมถึงการประชุมสั้นๆ 15 นาทีในทุกวัน เพื่ออัพเดตงานที่แต่ละคนจะต้องทำหรือสิ่งที่ทำไปแล้วนั้น
ได้ประสิทธิภาพตามเป้าหรือเปล่า เพื่อให้รับรู้ผลลัพธ์และมองเห็นปัญหาจะได้ปรับเปลี่ยนทันการณ์
3. กำหนดบุคคลเป็น Cross-functional team ย่อยๆ เพื่อดำเนินการโปรเจกต์เฉพาะ
ซึ่งทีมย่อยจะปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปได้ยืดหยุ่นกว่า
โดยพิจารณาว่ามีโอกาสอะไรบ้างและมีปัญหาอะไรที่ต้องการการแก้ไข
แล้วจึงพิจารณาบุคคลที่เหมาะสมลงไปทำโปรเจกต์นั้นๆ
การทำ OKRs โดยมีเป้าหมาย-วิธีการดำเนินการที่ชัดเจนและโปร่งใส
จะทำให้บริษัทสามารถวัดผลได้ตามที่คาดหวัง
ช่วยให้องค์กรปรับเปลี่ยนได้อย่างเท่าทันในสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
โดย Key Results จะเปลี่ยนจากการดำเนินการทำงานให้สำเร็จ
มาเป็นการทดลองสิ่งใหม่ๆ และปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ จนเข้าที่เข้าทาง ‘OKRs’ จึงเป็นตัวชี้นำการทำงาน ปรับเปลี่ยนเพื่อให้สำเร็จ เป็นอีกตัวช่วยผลักดันธุรกิจให้ก้าวสู่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การทำธุรกิจและความเสี่ยงเป็นของคู่กัน หน้าที่ของเจ้าของธุรกิจหรือผู้ประกอบการ
คือการวางแผนเพื่อรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ ที่จะเข้ามา
ยิ่งการทำธุรกิจภายใต้สถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเช่นในปัจจุบัน โดย SME อาจจะนำคำถาม 3 ข้อข้างต้นไปปรับใช้
เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดแม้ว่าจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ใดก็ตาม
แหล่งอ้างอิง :
https://www.thebangkokinsight.com/