ผลกระทบจากวิกฤติโรคโควิด 19
ส่งผลให้คนไทยตกงานหลายล้านชีวิต เนื่องจากสถานที่ทำงานหรือธุรกิจรายเล็กรายใหญ่ต้องปิดกิจการหรือปิดทำการชั่วคราว
ผลักดันให้ผู้ว่างงานต้องกลับไปตั้งตัวที่บ้านเกิด
หลายคนมีเวลาว่างเลือกทำธุรกิจส่วนตัว หรือทำการเกษตรเป็นอาชีพเสริมตามความถนัดของแต่ละบุคคล
โดย 1 ในนั้นคืออาชีพเลี้ยง “ไส้เดือนดิน” เทรนด์ใหม่ที่สร้างรายได้อย่างน่าทึ่งแถมยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เมื่อพูดถึง “ไส้เดือนดิน” ไม่เพียงใช้เป็นเหยื่อล่อปลามาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ยังเป็นสัตว์ประเภทที่มีคุณประโยชน์ต่อดิน และมีบทบาทสำคัญมากต่อระบบนิเวศน์ให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ต่อพืชเจริญงอกงาม ยังสามารถเลี้ยงไส้เดือนเพื่อทำเป็น “ปุ๋ยหมักมูลไส้เดือน” ใช้เองหรือจำหน่ายสร้างรายได้ จึงกลายเป็นธุรกิจใหม่ที่กำลังเฟื่องฟูเนื่องจากลงทุนต่ำ ดูแลง่าย แต่กำไรงาม บางรายสร้างรายได้หลายแสนบาทต่อปี เพราะไส้เดือนเป็นสัตว์ประเภทไม่มีกระดูกสันหลัง เป็นสัตว์ที่มีทั้งเพศผู้และเพศเมียอยู่ในตัวเดียวกันหรือสัตว์สองเพศนั่นเอง ลักษณะของไส้เดือนที่ใครก็รู้จักกันดี คือมีลักษณะลำตัวยาวๆ ลำตัวเป็นข้อหรือปล้องๆ มีสีดำบ้าง สีแดง และสีม่วงบ้างแล้วแต่สายพันธุ์ซึ่งพบไส้เดือนอยู่ทั่วประเทศ
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ปัจจุบันมีหลายหน่วยงาน หลายโครงการ
ได้ทำการค้นคว้าและวิจัยสนับสนุนให้เลี้ยงไส้เดือนดินทำเป็นปุ๋ยหมักมูลไส้เดือน เพื่อลดต้นทุนการผลิตและสร้างรายได้ให้เกษตรกร
เพราะลักษณะพิเศษของไส้เดือนดิน เป็นสัตว์ที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์ การชอนไชใต้ดินของไส้เดือน
ก็เหมือนกับการที่เกษตรกรพรวนดินพืชผักผลไม้นั่นเอง การเลี้ยงไส้เดือนดินมีหลายแบบหลายวิธี
ใช้กะละมังกลม บ่อซีเมนต์ หรือบ่อปูนกลมก็ได้
แต่ทำแบบให้ได้จำนวนและปริมาณเยอะก็นิยมเลี้ยงใส่บ่อซีเมนต์หรือบ่อกลมกันเป็นส่วนใหญ่
อุปกรณ์ก็ไม่ยุ่งยาก หาได้ง่ายและประหยัด ซึ่งทุกวันนี้มีเกษตรกรจำนวนมากหันมาเลี้ยงไส้เดือนดินเพื่อทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์
แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร
การเลี้ยงไส้เดือนดินเป็นอาชีพเสริมหรือเชิงพาณิชย์
โอกาสยังเปิดกว้างให้เกษตรกรหน้าใหม่ที่อยากยึดอาชีพอิสระแต่มีสร้างรายได้มั่นคง เช่นเดียวกับ
คุณสมชาย เชี่ยวชาญศิลป์ ประธานผู้เลี้ยงไส้เดือนเบตง
อำเภอเบตง จังหวัดยะลา อีก 1
เกษตรกรที่ประสบความสำเร็จจากเลี้ยงไส้เดือนดินทำเป็นปุ๋ยหมักมูลไส้เดือน เพื่อลดต้นทุนการผลิตจากที่เคยใช้ปุ๋ยเคมีในการเกษตร
ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายหลายหมื่นบาทต่อปี แต่เมื่อหันมาใช้ปุ๋ยหมักมูลไส้เดือนกลับถูกลงหลายสิบเท่าตัว
หรือตกปีละไม่กี่พันบาทเท่านั้นเอง
ขณะเดียวกันจากเคยติดหนี้สินแต่ทุกวันนี้ไม่มีแล้ว
“ปัจจุบันได้ร่วมกลุ่มโครงการพัฒนาศักยภาพกลุ่มวิสาหกิจชุมชนสู่การประกอบอาชีพเกษตรกรมีรายได้ยั่งยืน
ด้วยการทำกิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบอาชีพ เพื่อยกระดับรายได้ของครอบครัวผู้ด้อยโอกาสระดับชุมชนให้พลิกชีวิตกลับมาลืมตาอ้าปากได้
ภายใต้การสนับสนุนของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)
เพื่อสร้างกลุ่มอาชีพจากกลุ่มที่สามารถพึ่งพาตนเองได้แล้ว มาช่วยกลุ่มผู้ด้อยโอกาสให้สามารถมีอาชีพ
มีรายได้ และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยทางกลุ่มได้คัดเลือกกลุ่มเยาวชนที่มีฐานะยากจนและมีความสนใจมาร่วมงาน
เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในกิจกรรมดังกล่าว”
คุณสมชาย บอกว่า สาเหตุที่ตัดสินใจให้กลุ่มมาเลี้ยงไส้เดือนดินที่มีอยู่หลากหลายพันธุ์
โดยสายพันธุ์ที่ดีที่สุดคือ “แอฟริกันไนท์ครอเลอร์” (African night crawler) หรือที่เรียกกันติดปากว่า AF
เนื่องจากพันธุ์นี้มีคุณสมบัติคือกินง่าย อยู่ง่าย ไม่ต้องดูแลเยอะ กินตลอด
24 ชั่วโมง ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ขยายพันธุ์รวดเร็ว
และเหมาะที่จะผลิตปุ๋ยคุณภาพดี ส่วนวัสดุที่ใช้เลี้ยงประยุกต์ได้หลากหลาย เช่น กะละมัง
บ่อซีเมนต์ ลังไม้ ฯลฯ หรือชั้นกล่องพลาสติกลิ้นชัก ซึ่งทางกลุ่มใช้การเลี้ยงแบบกล่องคอนโดซึ่งเหมาะกับผู้มีพื้นที่น้อยในการเลี้ยง
เป็นการเลี้ยงไส้เดือนแนวใหม่ ประหยัดทั้งพื้นที่ ประหยัดทั้งเงิน ใช้ง่าย
สะดวกสำหรับมือใหม่ และฟาร์มไส้เดือน คอนโดไส้เดือนนี้สามารถเลี้ยงไส้เดือนได้ทุกประเภท
เช่น ไส้เดือน AF ไส้เดือนเสือ ไส้เดือนแดง
สามารถจุได้มากกว่ากะละมังปกติถึง 8 เท่า ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ได้มากกว่า 1
พันตันต่อเดือน
แนะเคล็ดลับวิธีการเลี้ยงไส้เดือนคอนโด
1. นำขี้วัวนมที่แช่น้ำแล้วอย่างน้อย 7
วันขึ้นจากบ่อให้สะเด็ดน้ำ
จนได้ความชื้นที่เหมาะสมเรียกว่าเป็นที่อยู่สำหรับไส้เดือน
2. เมื่อผสมที่อยู่ไส้เดือนเสร็จแล้ว
นำไปบรรจุลงในชั้นพลาสติกที่เตรียมไว้ ความสูงประมาณครึ่งหนึ่งของชั้นพลาสติก
และชั้นพลาสติกต้องมีการเจาะรูด้านล่างของชั้นเพื่อใช้ระบายน้ำมูลไส้เดือนให้ตกลงมาที่ชั้นล่างสุด
เช่น ใช้ชั้นพลาสติกแบบ 10 ชั้น ต้องเจาะรูด้านล่างกล่องพลาสติกตั้งแต่ชั้นที่ 1-9
เพื่อให้น้ำมูลไส้เดือนตกลงมาชั้นล่างสุด โดยนับจากด้างบนลงด้านล่าง
3. เมื่อบรรจุที่อยู่ไส้เดือนใส่ชั้นพลาสติกแล้ว
ทิ้งไว้อย่างน้อย 7 วัน แล้วจึงนำไส้เดือนลงเลี้ยงเฉลี่ยชั้นละ 500 ตัว
4. ให้อาหารไส้เดือนเป็นจำพวกเศษผัก
เศษผลไม้สด หรือลังกระดาษชุบน้ำ โดยให้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
5. เลี้ยงต่อเนื่องจนไส้เดือนอายุประมาณ
2 เดือน จะเริ่มเป็นหนุ่มสาว จะสังเกตเห็นถุงเก็บน้ำเชื้อสีขาว (ไคเทอรั่ม) บริเวณรอบคอ
พร้อมที่จะวางไข่ จากนั้นจะเริ่มสังเกตเห็นไข่ไส้เดือนเกาะกันเป็นกลุ่มๆ
มีลักษณะเหมือนเม็ดแมงลัก ออกสีน้ำตาล สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจน
หลังจากเห็นไข่ไส้เดือน 20 วัน
จะเริ่มเห็นลูกไส้เดือนตัวเล็กแรกเกิดจะมีลักษณะเหมือนเส้นด้ายสีขาว หลังจากนั้นอีก
7 วัน จะเริ่มออกเป็นสีน้ำตาลแดง
ช่วงนี้ก็สามารถคัดแยกไส้เดือนแม่พันธุ์ออกทั้งหมด
เหลือไว้แต่ลูกไส้เดือนเลี้ยงต่อไปตามปกติ
ผลผลิตที่ได้จากการเลี้ยงไส้เดือน คือ
ปุ๋ยหมักมูลไส้เดือน น้ำหมักมูลไส้เดือน และสร้างรายได้อย่างงามให้กับคุณธงชัย
ก้อนทอง นอกจากนั้นการเลี้ยงไส้เดือนก่อให้เกิดประโยชน์หลายด้าน เช่น
ด้านสิ่งแวดล้อม เปลี่ยนขยะอินทรีย์เป็นปุ๋ยหมัก ลดการฝั่งกลบขยะด้านการเกษตร
ผลิตปุ๋ยหมักจากไส้เดือนและน้ำสกัดชีวภาพใช้ในการเกษตรอินทรีย์ ด้านอาหารสัตว์
ใช้เป็นอาหารโปรตีนทั้งในรูปไส้เดือนเป็นและผง
ประโยชน์ของการเลี้ยงไส้เดือนพันธุ์ AF ทำปุ๋ย
1. ผลิต “ปุ๋ยอินทรีย์”
คุณภาพดีจากธรรมชาติ คือ “ปุ๋ยมูลไส้เดือนแท้” 100%
2. ปรับปรุงสภาพดินให้ร่วนซุย
เหมาะแก่การปลูกพืชผัก ผลไม้ ไม้ดอก ไม้ประดับ สนามหญ้าต่างๆ สนามกอล์ฟ ฯลฯ
3. กำจัดขยะอินทรีย์
4. เป็นอาหารสัตว์ เช่น อาหารปลา, อาหารนก, อาหารไก่ชน
เพราะอุดมไปด้วยโปรตีนและสารอาหารที่มีประโยชน์ต่างๆ มากมาย
5. เป็นเหยื่อสำหรับตกปลา
6. เหมาะสำหรับใช้ในงานประมง เช่น
ใส่ในบ่อเลี้ยงกุ้ง เพิ่มสารอาหารให้ลูกกุ้ง และรักษาคุณภาพของน้ำในบ่อกุ้ง
วิธีการเก็บปุ๋ยมูลไส้เดือนเพื่อผลิตเป็นปุ๋ย
ปุ๋ยมูลไส้เดือนจะอยู่บริเวณด้านบนของที่อยู่ไส้เดือน มีลักษณะเป็นขุยดินร่วน การเก็บปุ๋ยมูลไส้เดือนจำต้องเก็บโดยการใช้มือโกยผิวดินด้านบนของที่อยู่ไส้เดือนออกมาใส่ภาชนะ จากนั้นจึงนำปุ๋ยมูลไส้เดือนไปกองตากแดด โดยคัดเอาตัวไส้เดือนออกจากกองปุ๋ยให้หมด ตากแดดไว้ประมาณ 30-40 นาที ให้นำเข้าไปผึ่งในที่ร่มอีกประมาณ 30 นาที เพื่อไม่ให้ปุ๋ยแห้งจนเกินไป เพียงเท่านี้ก็สามารถนำปุ๋ยมูลไส้เดือนที่ได้ไปบรรจุกระสอบเพื่อจำหน่ายได้แล้ว โดยข้อดีของปุ๋ยมูลไส้เดือนจะมีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์มากถึง 95%
อาชีพเลี้ยงไส้เดือนดินทำปุ๋ยหมักไส้เดือนกำลังกลายเป็นเทรนด์อาชีพใหม่ของคนว่างงาน สามารถยึดเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลัก ลงทุนน้อยดูแลง่าย ไม่ยุ่งยาก แต่กลับมีรายได้มั่นคง ซึ่งทุกวันนี้ไม่เพียงพอต่อความต้องการตลาด เนื่องจากมูลของไส้เดือนเมื่อนำไปใส่เป็นปุ๋ยให้กับพืชที่เกษตรเจริญเติบโตได้ดีไม่แพ้ปุ๋ยเค มีแต่ราคาถูกกว่า