RCEP ความหวังฟื้นเศรษฐกิจไทยได้จริงหรือ?

SME Update
21/01/2021
รับชมแล้วทั้งหมด 1391 คน
RCEP ความหวังฟื้นเศรษฐกิจไทยได้จริงหรือ?
banner

ในปี 2564 องค์กรธุรกิจชั้นนำทั่วโลกต่างประเมินทิศทางเศรษฐกิจโลกในปีนี้ไม่น่าจะเป็นปีที่สวยงามนัก อาทิ มุมมองจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกว่า ทั้งประเทศเศรษฐกิจหลักและประเทศกำลังพัฒนาเข้าสู่ภาวะถดถอยพร้อมกัน ประเมินมูลค่าความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลกในปี 2563 และ 2564 ไว้สูงถึงกว่า 9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งใหญ่กว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นและเยอรมนีรวมกัน

ขณะที่องค์การการค้าโลก (World Trade Organization: WTO) ประเมินว่าปริมาณการค้าโลกจะหายไปถึง 1 ใน 3 เทียบกับปีก่อน จนถึงปัจจุบันเหล่านักวิชาการยังกังวลว่า หากสถานการณ์ยืดเยื้อทำให้ธุรกิจและครัวเรือนขาดสภาพคล่องรุนแรงจนถึงขั้นเกิดปัญหาผิดนัดชำระหนี้ในวงกว้าง อาจมีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นวิกฤติการเงินร่วมด้วย

อย่างไรก็ตามจากข้อมูลของ UNCTAD ได้จัดทำรายงาน “Investment Trends Monitor” ซึ่งวิเคราะห์ผลของการลงนามความตกลง RCEP (Regional Comprehensive Economic Partnership) ต่อ FDI (การลงทุนตรงจากต่างประเทศ) ทั้งระบุว่าจะเป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ของโลกในยุคหลังโควิด 19 ไว้อย่างน่าสนใจ

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

เหตุผลที่ RCEP จะเป็นศูนย์กลางการลงทุนของทั่วโลก

1. RCEP เป็นแหล่ง FDI สําคัญของโลกคิดเป็น 16% ของ FDI stock และ 24% ของ FDI flow ของโลก แม้ว่า FDI ทั่วโลกประสบภาวะชะงักงัน แต่ FDI ในกลุ่ม RCEP มีทิศทางเพิ่มขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และแม้ว่าโควิด 19 จะทําให้ FDI ในภูมิภาคนี้ลดลง 15% แต่ก็ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยระดับโลกที่ลดลง 30-40%

2. UNCTAD ประเมินว่า RCEP สามารถเพิ่ม FDI และการสร้าง Global Value Chains (GVCs) ในภูมิภาคได้อย่างมีนัยสําคัญ และเขตการค้าเสรีนี้น่าจะเป็นผู้นําด้านการฟื้นตัวของ FDI

3. บทบัญญัติเกี่ยวกับการลงทุนเน้น consolidate บทบัญญัติเกี่ยวกับ market access และ best practices ในด้าน investment facilitation จากข้อตกลงระหว่างประเทศสมาชิกที่มีอยู่ ซึ่งจะช่วยเพิ่ม FDI ในระยะยาว  ส่วนบทบัญญัติเกี่ยวกับการค้า ทรัพย์สินทางปัญญา และ e-commerce จะช่วยเพิ่ม FDI ในระยะสั้น ผ่านการอํานวยความสะดวกการค้าระหว่างประเทศ และการลด transaction costs ของบริษัทต่างๆ

4. RCEP ยังมีอัตราการลงทุนระหว่างประเทศสมาชิกในกลุ่ม (intra-regional investment) อยู่ที่ 30% ซึ่งถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับเขตการค้าเสรีอื่น สะท้อนว่ามีโอกาสสําหรับการขยาย intra-regional investment สูง นอกจากนี้สมาชิก RCEP มีความหลากหลายในด้านระดับของการพัฒนามูลค่า FDI ต่อ GDP ตลอดจนตําแหน่งของประเทศ ซึ่งสามารถสร้าง complementarity และส่งเสริมโอกาสทางการลงทุนระหว่างกันเป็นอย่างมาก

5. อุปสรรคสําคัญของ RCEP ได้แก่ การเริ่มดําเนินการตามข้อตกลงในช่วงที่มีความตึงเครียด ทั้งทางด้านการค้าและ geopolitics ตลอดจนวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดจากโควิด 19 จะจํากัดผลประโยชน์ของ RCEP ต่อการขยายการค้า การลงทุน และ GVCs ในระยะสั้น

6. นโยบายด้านการลงทุนที่ควรผลักดัน อาทิ

(1) การลงทุนเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน โดยเน้นส่งเสริมการลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐาน พลังงานสะอาด และสาธารณสุข

(2) การสนับสนุน resilience seeking FDI ของบริษัทข้ามชาติที่ต้องการ diversify แหล่งการผลิต และเน้นสร้าง regional value chains

(3) การส่งเสริมการลงทุนเพื่อการพัฒนา โดยเฉพาะประเทศสมาชิกที่เป็น LDCs

ด้วยเหตุนี้ ภายใต้ RCEP ซึ่งเซ็นสัญญาร่วมกันในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศและพันธมิตรทางเศรษฐกิจสำคัญอีกห้าประเทศ ครอบคลุมประชากร 30% ของโลกหรือ 2.2 พันล้านคน และ 30% ของเศรษฐกิจทั่วโลก Global GDP 26.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งการที่จีนเป็นตัวเอก มีญี่ปุ่น เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์และออสเตรเลียร่วมด้วย ทำให้มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการร่วมมือกันพัฒนาเศรษฐกิจ โดยมีหลักการและกติกาที่สมาชิกทุกคนสามารถปฏิบัติร่วมกันโดยมีประสิทธิภาพ โดยเน้นที่การลดขั้นตอนยุ่งยาก ลดหรือกำจัดกำแพงภาษีของการค้าขายระหว่างกัน

เหตุนี้ RCEP เป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ คือการรวมตัวของสมาชิก 15 ประเทศในภูมิภาคเดียวกันสร้างกลุ่มเศรษฐกิจที่สำคัญ ซึ่งน่าจะดึงศูนย์กลางเศรษฐกิจโลกมาเอเชีย และครั้งนี้สหรัฐอเมริกาไม่ได้ถูกรับเชิญเข้ามาร่วมด้วย จึงเปรียบเสมือนอเมริกากำลังโดนลดความสำคัญลง

ย้อนมองเศรษฐกิจไทยในปี 2564

ภายใต้นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลไทยในปี 2564 ที่จะมุ่งเน้นไปที่การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2564 จำนวน 3.2 ล้านล้านบาท และโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีโครงการภายใต้ความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนอีกมากที่จะได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลในปีหน้า สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติคาดการณ์ว่าการลงทุนภาคเอกชนจะขยายตัว 4.2% ในปี 2564 จากที่ลดลง 8.9% ในปี 2563 การลงทุนของภาครัฐคาดว่าจะเติบโต 12.4% ลดลงเล็กน้อยจาก 13.7% ในปี 2563

การที่รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงระเบียบและข้อบังคับต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจและดำเนินนโยบายเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศในปี 2564-65 รวมถึงมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรม S-Curve ใหม่ (การบิน โลจิสติกส์ เชื้อเพลิงชีวภาพและชีวเคมี ดิจิทัล บริการทางการแพทย์ และหุ่นยนต์)

อุตสาหกรรมในประเทศต้องการการส่งเสริมและสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการผลิตโดยใช้ระบบอัตโนมัติ และเพื่อเป็นการกระตุ้นการลงทุนของภาคเอกชนในปี 2564 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2563 ได้อนุมัติมาตรการเพิ่มเติมรวมทั้งการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% เป็นเวลา 5 ปีสำหรับโครงการลงทุนมูลค่าอย่างน้อย 1 พันล้านบาท

และโดยปกติแล้ว BOI จะเสนอการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ยาวนานที่สุดคือ 8 ปี และเสนอให้บริษัทในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 13 ปี และลดหย่อนภาษี 50% สูงสุด 5 ปี

กระนั้น แม้ว่าการระบาดของโควิด 19 ทำให้เกิดการหยุดชะงักทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทย ผลสำรวจล่าสุดของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งประเทศไทย (BOI) แสดงให้เห็นว่านักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่ประมาณ 96% ยังคงเชื่อมั่นในประเทศไทยและยินดีที่จะเดินหน้าการลงทุนต่อไป

ด้วยเหตุนี้ บทสรุปตัวเลข GDP ของไทยที่องค์กรธุรกิจหลายๆ สำนัก ต่างประมาณการว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 2- 3 ในปี 2564 นี้ ก็เป็นตัวเลขที่อาจจะน้อยเกินไปหากมองดูภาพรวม แต่หากมองที่การระบาดระลอกใหม่ของประเทศตัวเลขการเติบโตดังกล่าวก็อาจจะสูงไปด้วยซ้ำ 

ดังนั้นที่สุดแล้วปัจจัยสำคัญยังคงอยู่ที่การรับมือการระบาดของโควิด 19 ของทั่วโลกและของประเทศไทยด้วย และวัคซีนคืออีกปัจจัยที่จะส่งผลต่อภาพการพื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ด้วยปัจจัยความไม่แน่นอนเหล่านี้ เศรษฐกิจไทยในปีนี้จึงยังเป็นภาพจิกซอว์ที่ยังต่อไม่เสร็จ ทำให้คาดคะเนได้ยากมากว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกภายหลังจากนี้ ดังนั้นยังต้องดำเนินธุรกิจไปด้วยความระมัดระวังและเตรียมเงินสดไว้ให้เพียงพอ

 

แหล่งอ้างอิง :

https://www.bot.or.th/

https://globthailand.com/

https://www.bangkokbiznews.com/  



สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<

 


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

วางแผนสืบทอดธุรกิจครอบครัวให้ราบรื่น สไตล์ไม่เครียด

วางแผนสืบทอดธุรกิจครอบครัวให้ราบรื่น สไตล์ไม่เครียด

ธุรกิจครอบครัว (Family Business) เป็นหน่วยธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญของเศรษฐกิจไทยที่กระจายตัวอยู่ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยการส่งต่อความสำเร็จในธุรกิจครอบครัวจากรุ่นหนึ่งไปสู่รุ่นหนึ่ง…
pin
17 | 04/06/2025
งาน TFBO 2025 งานแสดงแฟรนไชส์และโอกาสทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

งาน TFBO 2025 งานแสดงแฟรนไชส์และโอกาสทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

พบกับงาน TFBO 2025 งานแสดงแฟรนไชส์และโอกาสทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่ Website: thailandfranchising.comวันที่:…
pin
12 | 30/05/2025
Net Zero คืออะไร ทำไม SME จึงควรเริ่มคิดตั้งแต่วันนี้ !

Net Zero คืออะไร ทำไม SME จึงควรเริ่มคิดตั้งแต่วันนี้ !

เข้าใจความหมายของ Net Zero แตกต่างจาก Carbon Neutral อย่างไร พร้อมเหตุผลที่ SME ไทยควรเริ่มปรับตัว เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและรองรับอนาคตที่ยั่งยืนContent…
pin
22 | 19/05/2025
RCEP ความหวังฟื้นเศรษฐกิจไทยได้จริงหรือ?