Remote Working เทรนด์นี้มาแน่ หลังโควิด-19

SME Startup
03/06/2020
รับชมแล้วทั้งหมด 3410 คน
Remote Working เทรนด์นี้มาแน่ หลังโควิด-19
banner

หลังการทำงานแบบ Work From Home ในช่วงแรกผ่านไป มีแนวโน้มว่าจะมีหลายบริษัทนำมาปรับใช้กับการว่าจ้างพนักงานประจำแต่ให้ทำงานอยู่บ้าน โดยใช้โปรแกรมและเทคโนโลยีเป็นตัวควบคุมพฤติกรรมการทำงาน เช่น ใช้ระบบโปรแกรม HR Online ที่มีกฎให้พนักงานเข้าไป Check In-Check Out ตามเวลาที่กำหนด, มีการถ่ายรูปทีมผ่าน vdo call รายงานตัวทุกวัน/ตามเวลา เพื่อยืนยันตัวตนของพนักงานในทีม

รวมไปถึงการใช้โปรแกรมฝังพิกัดที่ตั้งของเครื่องคอมพิวเตอร์แบบระบุ IP ที่ให้พนักงานนำไปใช้ทำงานที่บ้าน ทำให้สามารถตรวจเช็คได้ว่าพนักงานนั่งทำงานอยู่หน้าคอมเครื่องที่กำหนดจริงหรือไม่ และอาจมีการพัฒนาเทคโนโลยีเข้ามารองรับการทำงานที่บ้านในอนาคตอันใกล้ต่อไป

ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าหากโรคโควิด-19 ยังคงอยู่บนผืนโลกนี้ ก็เป็นไปได้สูงมากที่เจ้าของกิจการในประเทศไทยจะมีการปรับรูปแบบการทำงาน/จ้างงานมาเป็นแบบ Remote Working ที่จะทำงานในสถานที่ไหน เวลาใดก็ได้อย่างมีอิสระในการใช้สถานที่ทำงาน

รวมถึงมีเวลางานที่ยืดหยุ่นตามขอบเขตความรับผิดชอบ โดยเน้นที่คุณภาพในการทำงานเป็นหลักแบบไม่ต้องอิงการเข้า-ออกลงเวลางานเหมือนการทำงานประจำแบบดั้งเดิม ภายใต้ความปกติรูปแบบใหม่หรือ “นิวนอร์มัล” (New Normal) ที่กำลังเข้ามามีบทบาทต่อสังคมไทยเป็นอย่างยิ่ง

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

ระบบการทำงาน แบบ Remote Working

“Remote Working” หรือ “การทำงานระยะไกล” เป็นระบบการทำงานแบบพนักงานประจำออฟฟิศ ที่มีความยืดหยุ่นสูงในเรื่องของเวลาและสถานที่ใช้ในการทำงาน ภายใต้ความรับผิดชอบในบทบาทที่สูง โดยคนทำงานในรูปแบบนี้ต้องมีวินัยและความรับผิดชอบมากกว่าการทำงานในรูปแบบออฟฟิศ และเป็นการทำงานที่คนทำงานต้องมีความรู้ความเข้าใจ เรื่องเทคโนโลยี อุปกรณ์ไอที และภาษาที่ดีพอตัว ถึงจะสามารถตอบโจทย์การทำงานในรูปแบบนี้ได้สำเร็จสวยงามทั้งในฝั่งของคนทำงานและเจ้าของกิจการ

การทำงานแบบ Remote Working นั้นมีการใช้ในต่างประเทศกันมานานแล้ว โดยบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง IBM ที่มีอายุกว่า 108 ปี ได้บริหารกิจการดูแลพนักงานกว่า 2 แสนชีวิตจากทุกสถานที่ทั่วโลก ภายใต้รูปแบบการทำงานแบบ Remote  ซึ่งในประเทศไทยยังไม่ได้รับความนิยมแพร่หลาย จนเมื่อพฤติกรรมของคนทำงานเปลี่ยนไป มีความต้องการความเป็นอิสระและความต้องการใช้พื้นที่แปลกใหม่ เพื่อความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงมีความยืดหยุ่นในการทำงาน จึงมีหลายองค์กรที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานมาเป็นแบบรีโมท เพื่อรองรับคนทำงานยุคมิลลิเนียน (Millennials) และนิวนอร์มัล (New normal) ที่เข้ามาพร้อมกับเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาสูงขึ้น ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ที่แพร่กระจายทั่วโลก

 

ข้อดีที่ควรปรับสู่การทำงานแบบ Remote

1. มีการศึกษาพบว่าการทำงานแบบรีโมทที่มีความยืดหยุ่น สามารถนำไปสู่การทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ เพราะพนักงานรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณนายจ้างของพวกเขาและทำงานอย่างหนักเพื่อเป็นการขอบคุณ

2. ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับออฟฟิศ เช่น ค่าเช่าสถานที่ ค่าตกแต่ง ค่าอุปกรณ์สำนักงาน วัสดุ-อุปกรณ์สิ้นเปลือง ค่าน้ำ-ไฟ กระดาษ ฯลฯ ได้มากมาย ทำให้สามารถนำงบที่ต้องหมดไปกับการลงทุนในส่วนนี้ ไปใช้สร้างสวัสดิการกระตุ้นให้พนักงานเกิดแรงจูงใจในการทำงานให้อย่างเต็มที่

3. สามารถปรับออฟฟิศให้มีความทันสมัยในแบบที่ต้องการได้ง่าย ด้วยขนาดที่ลดลงจากเดิม เพื่อเตรียมสถานที่ไว้รับรองลูกค้าหรือการเรียกประชุมพนักงานตามบางโอกาส รวมถึงใช้ออฟฟิศเป็นจุดผ่านนัดพบในการทำงานแบบรีโมท

4. สามารถเข้าถึงคนเก่งได้ทุกทิศทั่วทุกมุมโลก เพราะคนเก่งส่วนใหญ่จะพยายามเอาตัวเองออกนอกระบบการทำงานออฟฟิศ กินเงินเดือนประจำ หากมีความยืดหยุ่นเรื่องเวลาและสถานที่ไว้รองรับ การที่จะจับคนเก่งที่เหมาะสมต่องานที่ต้องการได้ ในอัตราค่าจ้างที่พึงใจได้จึงไม่ใช่เรื่องยาก เพราะการทำงานแบบรีโมทก็ช่วยลดรายจ่ายเรื่องค่าเดินทาง ค่าเสื้อผ้า เครื่องสำอาง ได้เช่นกัน

5. เป็นระบบที่จะช่วยคัดกรองคนทำงานที่มีคุณภาพเหมาะสมต่อธุรกิจหรือองค์กร ทำให้ไม่ต้องเสียทรัพยากรหรือเวลาไปกับการพัฒนาคนที่ไม่พร้อม เนื่องจากการทำงานแบบรีโมทนี้ต้องอาศัยคนที่มีทักษะการทำงานที่ตรงตามลักษณะงานและมีความรับผิดชอบสูง ไปจนถึงมีความพร้อมด้านเทคโนโลยีและภาษา ทำให้ไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับการจัดการคนทำงานที่ไม่มีคุณภาพ หรือทำได้ต่ำกว่าเป้าหมายขององค์กร

6. ได้ไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ อยู่เสมอ จากมันสมองคนทำงานที่ไม่ต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของระบบ กฎ กติกา สถานที่ การแต่งตัว หรือเวลางาน ที่เป็นสิ่งสกัดกั้นความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจ

7. เป็นจุดเริ่มต้นของการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้บริหารทรัพยากรบุคคล และการดำเนินกิจการที่อาจช่วยพัฒนาต่อยอดให้มีความพร้อมไปต่อในเศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) ได้อย่างเต็มรูปแบบ

8. เป็นทางเลือกที่คล่องตัวสำหรับกลุ่มธุรกิจ Startup และ SME ที่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างได้ง่าย และเตรียมความพร้อมไว้ทางไว้พร้อมรับโลกแห่งอนาคต ที่พฤติกรรมของผู้คนเป็นตัวกำหนดรูปแบบ และมีเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการทำตลาดและดำเนินกิจการ

 

สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<< 


3 เทคนิคสร้างตัวตนให้คนเห็นคุณค่า และได้มาในสิ่งที่ต้องการ

Remote Working ฝันหวานมนุษย์เงินเดือน


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

4 สตาร์ทอัพไทย ที่ใช้ Model Innovation เปลี่ยนโลกใบนี้เป็นสีเขียว

4 สตาร์ทอัพไทย ที่ใช้ Model Innovation เปลี่ยนโลกใบนี้เป็นสีเขียว

อย่างที่ทราบดีว่า ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมถือเป็นเรื่องใหญ่ระดับโลก ที่ส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตของคนส่วนใหญ่ และกลายมาเป็นโจทย์สำคัญที่มีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ…
pin
2174 | 14/02/2023
ไม่ดูตอนนี้ รู้อีกทีปีหน้า! ส่องเทรนด์ธุรกิจมาแรง ที่ SME ห้ามพลาดใน ปี 66

ไม่ดูตอนนี้ รู้อีกทีปีหน้า! ส่องเทรนด์ธุรกิจมาแรง ที่ SME ห้ามพลาดใน ปี 66

หลังจากไทยเผชิญการระบาดของโรคโควิด 19 ทำให้ผู้คนปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต หลายหน่วยงานที่เกี่ยวกับธุรกิจการค้าต่างออกมาวิเคราะห์เทรนด์ธุรกิจที่มาแรงในปี…
pin
4372 | 19/01/2023
ตอบโจทย์ Aging Society! นักวิจัยไทยคิดค้น ‘MONICA’ เกมกระตุ้นสมองสำหรับผู้สูงอายุ ที่ผู้ประกอบการต่อยอดไอเดียได้

ตอบโจทย์ Aging Society! นักวิจัยไทยคิดค้น ‘MONICA’ เกมกระตุ้นสมองสำหรับผู้สูงอายุ ที่ผู้ประกอบการต่อยอดไอเดียได้

‘ไทย’ ได้ก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์แล้ว คิดเป็นประมาณ 18.3% ของประชากรทั้งหมด และไทยจะกลายเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอดเช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่มีประชากรอายุ…
pin
2178 | 22/12/2022
Remote Working เทรนด์นี้มาแน่ หลังโควิด-19