ตามที่อริสโตเติลได้เคยกล่าวไว้ว่า “มนุษย์เป็นสัตว์สังคม” ต้องอาศัยและทำกิจกรรมร่วมกันเป็นหมวดหมู่ รวมถึงการรับประทานอาหาร เมื่อเราเดินเข้าไปในร้านอาหารแต่ละร้าน ไม่ว่าจะข้างทาง ร้านชาบู ไปจนถึงภัตตาคารหรู ต่างก็ต้องมากันมากกว่าหนึ่ง จนกระทั่งปัจจุบันกระแสโควิด 19 ที่กำลังแพร่ระบาดได้ทำให้วิถีการดำเนินชีวิตเปลี่ยนไป จากที่ต้องมีเพื่อนรับประทานด้วยก็ต้องเปลี่ยนมารับประทานคนเดียว แต่หากวันหนึ่งกระแสโควิด 19 ได้หมดไป เทรนด์ร้านอาหารสำหรับรับประทานคนเดียวจะยังคงได้รับความนิยมต่อหรือไม่
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
เทรนด์ร้านอาหารสำหรับรับประทานคนเดียว
ความจริงแล้วเทรนด์ร้านอาหารสำหรับรับประทานคนเดียวไม่ได้มีจุดเริ่มต้นในปี
2020 จากกระแสโควิด 19 แต่เริ่มได้รับความนิยมมาตั้งแต่ประมาณปี
2010 ในประเทศเกาหลี โดยภายในร้านอาหารจะมีที่นั่งพิเศษและอุปกรณ์เพิ่มเติม
เช่น โทรทัศน์ ฯลฯ วางใกล้ๆ สำหรับคนที่นั่งรับประทานอาหารคนเดียวเพื่อให้รู้สึกไม่เหงา
และในช่วงปี 2018-2019 เทรนด์นี้ได้รับความนิยมจากประเทศอื่นๆ
ในเอเชียเพิ่มมากขึ้น รวมถึงในประเทศไทย ซึ่งเป็นกระแสจาก ‘ธุรกิจคนโสด’
เริ่มมีร้านอาหารที่จัดที่นั่งเฉพาะคนที่มารับประทานอาหารคนเดียวเพิ่มขึ้นก่อนที่จะมีกระแสโควิด
19 เสียอีก
ไม้ต่อความปังจากเทรนด์คนโสด
สู่กระแสโควิด-19
จากที่เราได้กล่าวในข้างต้นว่าเทรนด์การรับประทานอาหารคนเดียวได้เข้ามาในไทยสักพักใหญ่แล้ว
ก่อนที่จะมีกระแสโควิด 19 ซึ่งเทรนด์นั้นเริ่มต้นมาจากเทรนด์คนโสด
จากสถิติระบุว่าประเทศไทยไม่เพียงแต่จะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย
แต่ยังก้าวเข้าสู่สังคมคนโสดอีกด้วย เทียบสถิติจากการจดทะเบียนสมรสที่น้อยลงประมาณ
1.9-2.9% และการจดทะเบียนหย่าที่เพิ่มมากขึ้นประมาณ 3%
ต่อปี
นอกจากนี้ได้มีการสุ่มสำรวจคนโสดจากประมาณ
1,500 คน พบว่า คนโสดประมาณ 50.3% ชอบรับประทานอาหารนอกบ้านคนเดียว
จากเทรนด์คนโสดที่เคยได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่ม พอได้ส่งไม้ต่อให้กระแสโควิด 19
การทานอาหารแบบ Social Distancing ยิ่งได้รับความนิยมไปกันใหญ่
ไม่เพียงแต่ในกลุ่มคนโสดจำนวนประมาณ 50.3% ดังกล่าว
แต่ยังคงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
เหตุผลที่ร้านอาหารสำหรับรับประทานคนเดียวยังคงปังอยู่
ถึงแม้ว่าโควิด 19 จะทำให้เกิด New Normal อย่างรับประทานอาหารแบบรักษาระยะห่าง
หรือการรับประทานอาหารคนเดียวอย่างแพร่หลาย หลายท่านก็อาจจะยังนึกภาพไม่ออกว่า
ทำไมร้านอาหารสำหรับรับประทานคนเดียวยังคงปังอยู่ หลังหมดช่วงกระแสโควิด 19 ส่วนหนึ่งก็เพราะเกิดจากความเคยชินที่สร้างเป็นวิถีชีวิตใหม่ แน่นอนว่าจำนวนคนที่รับประทานอาหารนอกบ้านมีจำนวนน้อยลง
แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่นัก ถ้าเทียบกับจำนวนคนที่นัดคนอื่นออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านด้วย
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
อย่างน้อยคุณลองถามตัวเองดูว่าปีนี้คุณนัดคนอื่นไปทานข้าวด้วยน้อยลงกว่าปีที่แล้วมากแค่ไหน? และถ้าอยากรับประทานอาหารร้านประจำหรือร้านอื่นๆ
คุณก็ยังตัดสินใจเดินทางไปถึงที่ร้านนั้นใช่ไหม?
นอกจากนี้
ยังมีเหตุผลอีกมากมายที่คนรักการรับประทานอาหารคนเดียวกำลังคิดอยู่ เช่น สังคมเมืองที่เร่งรีบไม่อยากรอใครแม้แต่เรื่องอาหาร
เพราะแค่รอรถสาธารณะก็เหนื่อยแล้ว ยังต้องรอรับประอาหารพร้อมคนอื่นตลอดอีกคงไม่ไหว
การทำอาหารรับประทานเองก็เหนื่อยตั้งแต่เตรียมสถานที่ วัตถุดิบ
ไปจนถึงเตรียมทานและเก็บล้าง ฯลฯ เชื่อว่าเหตุผลเพียงแค่นี้ก็มากพอที่จะสนับสนุนให้ผู้คนยังเลือกที่จะรับประทานอาหารคนเดียวอยู่
เทียบระหว่างร้านอาหารสำหรับรับประทานคนเดียวกับเดลิเวอรี
อีกหนึ่งคำถามที่เราเชื่อว่ามีคนสงสัยไม่น้อย
คือระหว่างร้านอาหารสำหรับรับประทานคนเดียวจะสู้กับแบบเดลิเวอรีได้อย่างไร? แบบเดลิเวอรีไม่ดีกว่าเหรอ? เราขอตอบว่า
อย่างที่ทุกคนทราบกันว่า กิจการที่ดีควรมีทั้งออฟไลน์และออนไลน์ควบคู่
ซึ่งทั้งสองแบบนี้มีข้อดีคนละแบบ และยังคงสำคัญทั้งสองแบบ เนื่องจากแบบเดลิเวอรีผู้บริโภคปกติจะสั่งอาหารโดยเฉลี่ย
2-5 ครั้งต่อเดือน และประมาณ 65.68% มักจะสั่งไปทานที่บ้านซะมากกว่า
ซึ่งผลจากสวนดุสิตโพลนี้เผยข้อมูลเพิ่มอีกว่าผู้ใช้งานกว่า 90.03% มีแนวโน้มที่จะสั่งอาหารหลังผ่านสถานการณ์โควิด 19 ต่อไป
ในขณะที่หน้าร้านก็ยังคงควรปรับเปลี่ยนให้รองรับแบบรับประทานคนเดียว
เพื่อตอบโจทย์เรื่องความปลอดภัยและความสะอาด ตามหลัก Social Distancing เหมือนเดิม เพราะเรายังไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้แบบ
100% ว่าโควิด 19 จะหมดการแพร่ระบาดลงเมื่อไหร่
อีกทั้งในอนาคต แม้โควิด 19 จะหยุดแพร่ระบาดจนสามารถมั่นใจได้ว่าเราไม่ต้องห่างจากคนรอบข้างอีกต่อไป
เทรนด์ร้านอาหารสำหรับรับประทานคนเดียวก็จะยังคงได้รับความนิยมต่ออย่างแน่นอน
จากเทรนด์คนโสดที่เพิ่มมากขึ้น และพฤติกรรมแบบ New Normal ที่คุ้นชิน
รวมถึงความสะดวกสบายในเรื่องการเตรียมอาหาร-เก็บล้าง
และการเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการออกไปรับประทานข้าวนอกบ้านตามร้านอาหารสำหรับรับประทานอาหารคนเดียวบ้าง
นี่อาจจะถึงเวลาที่ธุรกิจร้านอาหารเดิมต้องปรับเปลี่ยนหาแนวทางเพิ่มตัวเลือกที่นั่งสำหรับรับประทานคนเดียวต่อไป ซึ่งผู้ประกอบการอาจจะต้องคิดเพิ่มเติมว่าจะสร้างโปรโมชั่น หรือหาตัวช่วยอะไรให้ผู้บริโภคทั่วไป เพื่อกระตุ้นความสนใจและรู้สึกมั่นใจที่จะใช้บริการมากขึ้น