ข้าวเวียดนามกำลังแซงไทย! ถึงเวลาอัพเกรดเกษตรส่งออกด้วย นวัตกรรมและเทคโนโลยี

SME Update
30/11/2021
รับชมแล้วทั้งหมด 7664 คน
ข้าวเวียดนามกำลังแซงไทย! ถึงเวลาอัพเกรดเกษตรส่งออกด้วย นวัตกรรมและเทคโนโลยี
banner

ข้าวเวียดนามกำลังแซงไทย!!! 

อาจจะไม่ใช่เรื่องเล็กๆ หากจะบอกว่า ขีดความสามารถทางการค้าของสินค้าเกษตรไทย ด้อยกว่าคู่แข่งในอาเซียน โดยข้อมูลในงานวิจัย โดยสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)


เรื่อง ผลกระทบต่อภาคเกษตรไทยจากการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน


ระบุว่า สินค้าเกษตรที่คู่แข่งในอาเซียนมีความสามารถในการแข่งขันสูงกว่าไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านต้นทุนการผลิตและคุณภาพสินค้า โดยเหตุผลคือคู่แข่งมีเทคโนโลยีที่ทัดเทียม หรือ เริ่มดีกว่าไทยเพราะมีการวิจัยมากกว่าไทยและการวิจัยสามารถตอบสนองความต้องการของตลาด


ยกตัวอย่างกรณี การวิจัยพันธุ์ข้าวหอมพื้นนุ่มสายพันธุ์ข้าว ST25 ซึ่งปลูกบนดินดอนสามเหลี่ยมแม่น้ำโขงของเวียดนาม ที่ได้กลายมาเป็นข้าวสายพันธุ์ดีที่สุดในโลก จากการประกวดในระหว่างการประชุมข้าวโลกเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา ที่สำคัญสายพันธุ์ข้าว ST25 ยังตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในจีน และให้ผลผลิตต่อไร่สูงมากกว่าข้าวหอมมะลิของไทย



ดังจะเห็นได้ชัดว่า ปัจจุบันคู่แข่งตลาดสินค้าเกษตรโลกของไทยที่เป็นประเทศกำลังพัฒนามีต้นทุนถูกกว่าไทย และแม้ในอดีตไทยประสบความสำเร็จในตลาดการค้าข้าวโลก ซึ่งปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และรสนิยมของผู้บริโภค ส่งผลให้ที่ผ่านมาข้าวหอมมะลิไทยได้รับความนิยมและมีราคาแพง ทว่าจากข้อมูลล่าสุด คู่ค้าข้าวทั้งเวียดนาม และอินเดียมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีอาจจะเพราะทราบดีว่า การรักษา หรือเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดสินค้าเกษตรโลกรวมถึงการเพิ่มรายได้ต่อหัวให้เกษตรกรในประเทศก้าวผ่านความยากจน คงหนีไม่พ้นการใช้เทคโนโลยีเกษตรสมัยใหม่ ด้วยเหตุนี้ ที่ผ่านมาเวียดนามจึงมีการพัฒนาด้านนี้อย่างน่าสนใจ


เวียดนามกำลังก้าวสู่เกษตรอัจฉริยะ

โดยก่อนหน้านี้ทางด้านกรมวิชาการเกษตรและการพัฒนาชนบทในเวียดนามได้มีการระบุถึงแนวทางในการพัฒนาการเกษตรอัจฉริยะเป็นแนวโน้มของการผลิตทางการเกษตรทั่วโลกรวมทั้งในเวียดนามด้วย ด้วยเหตุนี้จึงมีการกำหนดให้ ฮานอยเป็นโมเดลการผลิตทางการเกษตรไฮเทค 164 โมเดล อาทิเช่น การผลิตพืชผล 105 โมเดล การผลิตปศุสัตว์ 39 โมเดลการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 15 โมเดล และโมเดลที่ผสมการเพาะปลูกและการเลี้ยงสัตว์อีก 1 โมเดล โดยในปัจจุบัน มูลค่าของสินค้าเกษตรไฮเทคคิดเป็นร้อยละ 35 ของมูลค่าการผลิตทางการเกษตรทั้งหมดในเมืองฮานอย ซึ่งเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ทันสมัยในการผลิตทางการเกษตรได้ช่วยลดการใช้แรงงาน เพิ่มคุณภาพ ซึ่งผลการผลิตทางการเกษตรถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดโมเดลการเกษตรไฮเทคนำประสิทธิภาพมาสู่การเกษตรของเมืองมากขึ้น



ทั้งนี้ ภาคเกษตรของฮานอยได้ส่งเสริมการนำทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้กับการผลิตทางการเกษตร ได้แก่ เทคโนโลยีโรงเรือนที่มีระบบรดน้ำอัตโนมัติ(ในด้านการเพาะปลูก)ระบบระบายความร้อนเพื่อช่วยให้อุณหภูมิและความชื้น สายป้อนอาหารอัตโนมัติ การผสมเทียม (ปศุสัตว์)การใช้ผลิตภัณฑ์ชีวภาพและเครื่องกำเนิดออกซิเจนอัตโนมัติ(เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ)


คู่แข่งเกษตรส่งออกเริ่มมีเทคโนโลยีทัดเทียม

รวมทั้งอินเดีย อีกหนึ่งคู่แข่งส่งออกไทยในตลาดค้าข้าว รวมทั้งสินค้าเกษตรหลายประเภทที่ผ่านมาได้มีการลงทุนด้านวิจัยและส่งเสริมการเกษตรอย่างจริงจัง การพัฒนาพันธุ์ข้าวลูกผสมทำให้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้นมาก และมีพันธุ์ข้าวที่เป็นที่นิยมของตลาดสำคัญที่เคยเป็นตลาดของไทยรวมถึงที่ผ่านมา จีนก็ยังทุ่มการวิจัยโดยเน้นการปรับปรุงข้าวพันธุ์ลูกผสม (hybrid) ที่ให้ผลผลิตต่อไร่สูงมากเพื่อลดการพึ่งพิงการนำเข้า 


นอกจากนั้แม้แต่เมียนมาและกัมพูชา ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความช่วยเหลือทางเทคโนโลยีสมัยใหม่จากประเทศพัฒนาแล้ว (Norad) และองค์กรระหว่างประเทศ ทำให้ที่ผ่านมาทั้งสองประเทศมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตรในหลายด้านเพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร เพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดส่งออก




เหตุผลที่เกษตรไทยต้องส่งเสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรมเห็นว่าประเด็นหลักๆ คือเรื่องขีดความสามารถในการค้า การแข่งขันในตลาดโลกแต่ทำไมเราถึงเน้นย้ำให้เกษตรกรเข้าใจและตระหนักเรื่องการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันซึ่งนอกจากประเด็นเรื่อง ตลาดข้าวโลก ที่เรานำมาเปรียบเทียบเมื่อเป็นข้อมูลให้เห็นว่าคู่แข่งทั่วโลกมีการพัฒนาและต่อยอด ทั้งเห็นความสำคัญต่อการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมายกระดับภาคเกษตร 


ดังนั้นสำหรับภาคเกษตรไทย ตั้งแต่ผู้ผลิตต้นน้ำ ซึ่งคือเกษตรกร พ่อค้าผู้ประกอบการแปรรูป และผู้ส่งออก ต่างมีส่วนเกี่ยวพันธ์เป็นห่วงโซ่การค้าดังนั้นหากจะมีการยกระดับและพัฒนาวงการเกษตรไทย ให้ก้าวทันหรือก้าวล้ำไปอีกขั้นจะต้องเกิดเป็นความร่วมมือ หรือการรวมกลุ่มเพื่อส่งเสริมจากหลายภาคส่วน มุ่งเน้นผลิตสินค้าเกษตรอาหารที่มีคุณภาพปลอดภัย/ถูกหลักโภชนาการ (healthy foods) ในราคาที่เหมาะสมและที่สำคัญ คือเป็นระบบการผลิตและห่วงโซ่การผลิตแบบยั่งยืนเป็นมิตรต่อ สิ่งแวดล้อม อนุรักษ์นิเวศและทรัพยากรการเกษตร 


โดยการเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตและการแข่งขันทางการค้าด้วยการวิจัย/การส่งเสริม การสร้างความชำนาญเฉพาะอย่าง (specialization)ตลอดจนถึงการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อยกระดับ เป็นนำไปสู่คำตอบที่แท้จริงของวัตถุประสงค์ว่าทำไมเกษตรไทยยังต้องมีการส่งเสริมด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมอยู่เสมอ 


แหล่งอ้างอิง: 

สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย 

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงฮานอย 

https://biothai.net/node/30607

https://vietnamnews.vn/



Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

วางแผนสืบทอดธุรกิจครอบครัวให้ราบรื่น สไตล์ไม่เครียด

วางแผนสืบทอดธุรกิจครอบครัวให้ราบรื่น สไตล์ไม่เครียด

ธุรกิจครอบครัว (Family Business) เป็นหน่วยธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญของเศรษฐกิจไทยที่กระจายตัวอยู่ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยการส่งต่อความสำเร็จในธุรกิจครอบครัวจากรุ่นหนึ่งไปสู่รุ่นหนึ่ง…
pin
17 | 04/06/2025
งาน TFBO 2025 งานแสดงแฟรนไชส์และโอกาสทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

งาน TFBO 2025 งานแสดงแฟรนไชส์และโอกาสทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

พบกับงาน TFBO 2025 งานแสดงแฟรนไชส์และโอกาสทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่ Website: thailandfranchising.comวันที่:…
pin
12 | 30/05/2025
Net Zero คืออะไร ทำไม SME จึงควรเริ่มคิดตั้งแต่วันนี้ !

Net Zero คืออะไร ทำไม SME จึงควรเริ่มคิดตั้งแต่วันนี้ !

เข้าใจความหมายของ Net Zero แตกต่างจาก Carbon Neutral อย่างไร พร้อมเหตุผลที่ SME ไทยควรเริ่มปรับตัว เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและรองรับอนาคตที่ยั่งยืนContent…
pin
22 | 19/05/2025
ข้าวเวียดนามกำลังแซงไทย! ถึงเวลาอัพเกรดเกษตรส่งออกด้วย นวัตกรรมและเทคโนโลยี