"แนวคิดดี ทำเลเด่น" สูตรสำเร็จการบริหาร "มูส โฮเทล"

การทำธุรกิจไม่เคยมีสูตรตายตัว โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนเร็วและแข่งขันสูงอย่างธุรกิจบริการ ความคาดหวังของลูกค้ากลายเป็นมาตรวัดหลักของความอยู่รอด หลายแบรนด์เลือกใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริม เน้นราคาที่ดึงดูด หรือทุ่มกับการตลาดเพื่อครองพื้นที่สื่อให้ได้มากที่สุด แต่สิ่งที่ยากกว่าการทำให้ “คนรู้จัก” คือการทำให้ “คนกลับมา” 

 “มูส โฮเทล” คือหนึ่งในธุรกิจที่ทำสำเร็จ ด้วยการสร้างธุรกิจจากความเข้าใจจริง ลงมือจริง ใส่ใจในทุกรายละเอียด และรักษามาตรฐานได้อย่างคงที่

ความสำเร็จนี้ไม่ได้เกิดจากการมีทุนหนาหรือเทคนิคการตลาดหวือหวา หากแต่เกิดจากการวางรากฐานธุรกิจด้วยวิสัยทัศน์ของ “คุณณพงศ์ นันทราทิพย์” ผู้บริหาร “บริษัท มูส โฮเทล จำกัด” ที่เริ่มต้นจากการทำอสังหาริมทรัพย์ ต่อยอดสู่ธุรกิจโรงแรม ภายใต้แนวคิดการทำความเข้าใจผู้คนและพื้นที่ที่ตัวเองจะลงหลักปักฐาน

มูส โฮเทล จึงเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาสำหรับผู้ประกอบการทุกระดับ ว่าการจะเติบโตได้อย่างมั่นคงท่ามกลางตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เริ่มต้นได้จากการวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ การเลือกทำเลด้วยสายตาของนักอสังหาริมทรัพย์ตัวจริง และการดูแลลูกค้าเสมือนครอบครัว ด้วยหัวใจของคนที่เชื่อในคุณค่าของงานบริการ 

จุดเริ่มต้นของ “มูส โฮเทล” 3 สาขาในจังหวัดเชียงใหม่

บริษัทเริ่มต้นจากการทำอสังหาริมทรัพย์ ทั้งคอนโดมิเนียมและหมู่บ้านจัดสรร โดยมีหลักคิดสำคัญ คือ ต้องได้ทำเลดีจริง ๆ เท่านั้น จึงจะพัฒนาเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ “เราไม่ได้ทำโครงการเยอะ จะเน้นทำเฉพาะโครงการใหญ่และทำเลต้องดีจริง ถ้าเป็นโครงการเล็กหรืออยู่ในซอยลึก จะไม่ค่อยทำเท่าไหร่” คุณณพงศ์กล่าว

ภายหลัง หลักคิดดังกล่าวได้กลายมาเป็นพื้นฐานในการเลือกทำเลโรงแรมเช่นกัน นอกจากพิจารณาว่าทำเลนี้ตั้งอยู่ที่ไหน ยังพิจารณาด้วยว่าทำเลนี้จะตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างไร

จุดเริ่มต้นของการขยายธุรกิจจาก “อสังหาริมทรัพย์เพื่อการซื้อขาย” สู่ “อสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าพัก” คุณณพงศ์กล่าวว่า “จะให้ทำเลที่ดีขนาดนี้ กลายเป็นคอนโดมิเนียมหรือหมู่บ้านจัดสรรที่ขายขาดแล้วหมดไป ก็น่าเสียดาย” เพราะโรงแรมที่อยู่ในทำเลเหมาะสม สามารถสร้างรายได้ต่อเนื่องให้บริษัทได้ในระยะยาว ในขณะที่โมเดลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบขายขาดให้ผลตอบแทนเป็นเงินก้อน เมื่อขายหมด ทรัพย์สินก็ไม่ใช่ของบริษัทอีกต่อไป 

โรงแรมสาขาแรกเริ่มต้นจาก “มูส โฮเทล เชียงใหม่” ตั้งอยู่บริเวณแยกโรงพยาบาลเทพปัญญา บนถนนซูเปอร์ไฮเวย์ ถนนสายหลักที่สามารถเชื่อมต่อออกนอกเมืองได้อย่างรวดเร็ว ความตั้งใจของการสร้างโรงแรมบนทำเลนี้คือ การรองรับกลุ่มครอบครัวที่ต้องการพักผ่อน กลุ่มคนที่เดินทางมาเพื่อธุรกิจ หรือแวะพักก่อนต่อรถไปยังจังหวัดใกล้เคียง ภายในโรงแรมได้รับการออกแบบให้มีบรรยากาศของความอบอุ่นและผ่อนคลาย โดยมีทั้งร้านอาหาร สระว่ายน้ำ และพื้นที่จอดรถที่รองรับได้เกือบ 100 คัน 

เมื่อขยายไปสาขาสอง “มูส โฮเทล นิมมาน” คุณณพงศ์ยังคงยึดหลักการเดิมในการเลือกทำเลที่ดี นั่นคือ ความเข้าใจลักษณะพื้นที่ว่าเหมาะกับกลุ่มลูกค้าใด และจะตอบโจทย์ความต้องการพวกเขาได้อย่างไร คุณณพงศ์มองเห็นว่านิมมานเป็นย่านท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ไม่ว่าจะเป็นคาเฟและร้านอาหารในช่วงกลางวัน หรือบาร์และแหล่งช็อปปิงยามค่ำคืนที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะเวียนมาใช้บริการ

การเลือกทำเลบนถนนนิมมานเหมินทร์ ซอย 2 มีจุดเด่นหลายประการ ทั้งการเดินจากถนนใหญ่มาถึงโรงแรมเพียงไม่กี่ก้าว การเดินทะลุซอย 4 ตรงไปยังถนนเลียบคลองชลประทานที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ทันที และที่จอดรถของโรงแรมที่รองรับได้มากกว่า 50 คัน ซึ่งหาได้ยากในย่านนี้

คำว่า “ทำเลที่ดี” ของมูส โฮเทล จึงไม่ได้หมายถึงการอยู่ใจกลางนิมมานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสะดวกสบายในการเข้าถึงสถานที่ต่าง ๆ ที่ลูกค้าจะได้รับอีกด้วย

จากย่านที่ตอบโจทย์นักเดินทางสายกิน-ดื่ม-เที่ยว คุณณพงศ์ต่อยอดแนวคิดไปสู่ “มูส อีซี่ โฮเทล” ซึ่งตั้งอยู่ติดกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ ครบเครื่องทั้งด้านทำเล แหล่งช็อปปิง และการเดินทาง เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการที่พักราคาย่อมเยา แต่ยังได้ความสะดวกสบายในมาตรฐานของโรงแรม ไม่ว่าจะมาเพื่อทำธุระ นัดหมาย หรือเปลี่ยนบรรยากาศในการใช้ชีวิต ก็ตอบครบทุกโจทย์ ทั้งยังมีบ็อกซ์เซตอาหารเช้า มีบริการรถกอล์ฟรับ-ส่ง และดีไซน์ห้องพักที่อบอุ่นและเป็นมิตรตามแบบฉบับมูส โฮเทล

ดูแลลูกค้าที่มาพักเสมือนคนในครอบครัว คือหัวใจหลักของการบริการ

คุณณพงศ์ออกตัวก่อนว่า “เราเป็นโรงแรม 4 ดาว ไม่ใช่ 5 ดาวนะครับ” 

ถึงอย่างนั้น มูส โฮเทล ทั้ง 3 สาขา ได้คะแนนรีวิวเฉลี่ยสูงกว่า 9 คะแนนบนทุกแพลตฟอร์ม ไม่ใช่เพราะห้องพักหรูหราหรือวิวหลักล้าน แต่เป็นเพราะความใส่ใจที่ลูกค้ารู้สึกได้ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามา โดยพนักงานของมูส โฮเทล มักได้รับคำชมว่าให้บริการดี เป็นกันเอง และเอาใจใส่ในรายละเอียดเล็ก ๆ อย่างจริงใจ จนกลายเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเลือกกลับมาพักซ้ำ 

แนวคิดการบริการนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “กวางมูส” สัตว์ที่รักและดูแลครอบครัวอย่างดี จึงถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของมูส โฮเทล พร้อมคำมั่นสัญญาว่า ทุกคนที่เข้าพักจะได้รับการดูแลเสมือนเป็นคนในครอบครัว 

นอกจากการบริการด้วยหัวใจแล้ว มูส โฮเทล ยังพิถีพิถันกับการวางคอนเซปต์เฉพาะของแต่ละสาขา เพื่อให้เข้ากับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างแท้จริง 

• มูส โฮเทล เชียงใหม่ เน้นความผ่อนคลายสำหรับนักเดินทางและครอบครัว มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ร้านอาหาร บาร์ สระว่ายน้ำ

• มูส โฮเทล นิมมาน มีรูฟท็อปตอบโจทย์นักท่องเที่ยววัยรุ่นและชาวต่างชาติ

• มูส อีซี่ โฮเทล ได้รับการออกแบบให้ดูเข้าถึงง่าย เป็นมิตร ในราคาคุ้มค่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ชีวิตผ่อนคลายใจกลางเมือง

คุณณพงศ์เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคดิจิทัลเป็นอย่างดี จึงให้ความสำคัญกับบริการ Wi-Fi ความเร็วสูงในทุกห้องพัก ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจหรือชาวออฟฟิศที่ต้องทำงาน หรือนักท่องเที่ยวทั่วไปที่ต้องการแชร์ประสบการณ์ผ่านโซเชียลมีเดีย ทั้งยังมีการออกแบบห้องพักที่เรียบง่ายแต่สวยงาม มาพร้อมรายละเอียดเล็ก ๆ ที่สร้างความรู้สึกอบอุ่นเสมือนอยู่บ้าน ตั้งแต่การวางตุ๊กตาบนเตียง ไปจนถึงโทนสีและแสง ทำให้ทุกครั้งที่ก้าวเข้าห้องเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่น

ใช้หลักการบริหารอย่างมีวินัย ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าและสิ่งแวดล้อม

“สไตล์การบริหารของเราคือ ปัญหามีไว้แก้ครับ ไม่ใช่เอาไว้หลบ” คุณณพงศ์กล่าวถึงสิ่งสำคัญที่มูส โฮเทล ยึดถือมาโดยตลอด “จริง ๆ ผมว่าโรงแรมทุกที่ต่างก็มีปัญหาของตนเองที่จะต้องแก้ไขไปเรื่อย ๆ นะครับ แต่ สิ่งที่เราทำได้ดีและแตกต่างคือ ถ้าเจอปัญหาเมื่อไหร่ เราจะรีบแก้ไขทันที จนได้รับคำชมจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง”

ทีมงานของมูส โฮเทล มีระบบตรวจเช็กและซ่อมบำรุงแบบ “รายวัน” จะไม่รอถึง 5 ปี 10 ปี เพื่อปรับปรุงครั้งใหญ่ ส่งผลให้ห้องพักแต่ละห้องได้รับการตรวจสอบความเรียบร้อยอยู่ตลอดเวลา หากเจอส่วนที่ชำรุดแม้เพียงเล็กน้อย เช่น รอยเลอะตรงผนัง หรือ สีหลุด พนักงานก็จะรีบเข้าไปแก้ไขโดยทันที 

แนวทางนี้อาจฟังดูเป็นงานเล็กที่ใครหลายคนมองว่าสิ้นเปลืองแรงงาน แต่แท้จริงแล้วกลับสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ เพราะช่วยให้สภาพห้องพักดูใหม่เสมอ แม้เปิดให้บริการมาแล้วหลายปี ลูกค้าทุกคนจึงมีประสบการณ์เชิงบวกกับการเข้าพัก โดยเฉพาะในเรื่องความสะอาด ความใหม่ของห้อง 

ในด้านสิ่งแวดล้อม มูส โฮเทล ก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน โดยมูส โฮเทล เชียงใหม่ เป็นสาขาที่ติดตั้งระบบผลิตน้ำร้อนด้วยพลังงานจากแสงอาทิตย์ (Solar Water Heating) ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าได้อย่างมีนัยสำคัญ และได้รับรางวัลด้านสิ่งแวดล้อมด้วย ในขณะที่มูส โฮเทล นิมมาน แม้จะมีพื้นที่จำกัด แต่คุณณพงศ์ก็พยายามติดตั้งโซลาร์เซลล์ในบางส่วนเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระด้านพลังงาน และลดการปล่อยคาร์บอนในระยะยาว 

นอกจากนี้ แอร์ในทุกห้องพักยังเลือกใช้เฉพาะรุ่นประหยัดพลังงานเบอร์ 5 พร้อมระบบแยกขยะที่ดำเนินการอย่างเคร่งครัดตามข้อกำหนดของเทศบาล 

การแข่งขันสูงคือแรงผลักดันให้ไปต่อ

แม้จะผ่านช่วงโควิด-19 มาได้โดยไม่สะดุด แต่คุณณพงศ์ไม่เคยประมาท เนื่องจากมองว่าอุตสาหกรรมโรงแรมในปัจจุบัน โดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยวอย่างเชียงใหม่ กำลังเผชิญแรงกดดันจากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวหดหาย การแข่งขันด้านราคา และค่าใช้จ่ายในการปรับตัวให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของคนยุคใหม่

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจคือ ท่ามกลางความผันผวนเหล่านี้ มูส โฮเทล ทั้ง 3 สาขา กลับสามารถรักษาเสถียรภาพทางรายได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีเดือนใดที่อัตราเข้าพักต่ำกว่าปีก่อนหน้า และผลประกอบการโดยรวมเติบโตขึ้นทุกปี แม้ในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมโรงแรมยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ 

คุณณพงศ์กล่าวว่า “การมีคู่แข่งไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่คือสิ่งที่ทำให้เราต้องพัฒนาอยู่เสมอ หากวันหนึ่งมีโรงแรมใหม่ที่ทำคอนเซปต์ได้ดีกว่า หรือจับกลุ่มลูกค้าได้ตรงกว่า เราก็ต้องรีบขยับ ปรับปรุง และคิดต่อทันที” 

แนวคิดนี้แสดงให้เห็นว่า มูส โฮเทล ไม่ได้วางตัวเป็นเพียงผู้เล่นในสนามการแข่งขัน แต่เลือกที่จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ที่เชื่อว่าธุรกิจจะรอดได้ ต้องเรียนรู้ไว ปรับตัวเร็ว และไม่กลัวการเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลง

“เวลาเจอปัญหา เราต้องแก้ คู่แข่งมา เราต้องพัฒนาตัวเอง 

ถ้าเราถอย เราก็ล้มหายตายจากไป เป็นไปตามวัฏจักร”

มูส โฮเทล เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าความยั่งยืนของธุรกิจไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงินทุนเริ่มต้นหรืองบแคมเปญการตลาด แต่ขึ้นอยู่กับความชัดเจนของวิสัยทัศน์ การวางตำแหน่งที่เหมาะสม และความสม่ำเสมอในการลงมือทำ

จากประสบการณ์ในฐานะนักอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างคอนโดมิเนียมและหมู่บ้านจัดสรร คุณณพงศ์ตัดสินใจเดินเข้าสู่ธุรกิจโรงแรมด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในคุณค่าของทำเลและความต้องการของผู้เข้าพัก การเลือกที่จะดูแลลูกค้าอย่างอบอุ่นเสมือนเป็นคนในครอบครัว สร้างความประทับใจจนเกิดการกลับมาใช้บริการซ้ำ

ความใส่ใจในรายละเอียดปรากฏในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลห้องพักให้ใหม่อยู่เสมอ การวางคอนเซปต์แต่ละสาขาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย หรือแม้กระทั่งการใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม เช่น การแยกขยะและการใช้โซลาร์เซลล์ เป็นสิ่งที่มูส โฮเทล แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการมองธุรกิจในระยะยาวกับวินัยในการลงมือทำ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจในยุคที่ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

จากบทความนี้ ผู้ประกอบการสามารถเรียนรู้ได้ว่า “ความสำเร็จไม่ได้เกิดจากโชค แต่เกิดจากการวางกลยุทธ์อย่างรอบคอบ ใส่ใจในรายละเอียด และกล้าปรับตัวอยู่เสมอ” มูส โฮเทล คือกรณีศึกษาที่ชัดเจนของการผสมผสานระหว่างการเลือกทำเลอย่างมีหลักการ การบริหารด้วยใจ และการมองการณ์ไกลในเชิงธุรกิจ การไม่กลัวการแข่งขัน แต่ใช้มันเป็นแรงผลักดัน ทั้งหมดนี้ คือลักษณะสำคัญของผู้นำธุรกิจยุคใหม่ที่ไม่เพียงแค่อยู่รอด แต่ยังเติบโตท่ามกลางความท้าทายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน