‘โซลาร์เซลล์’ พลังงานสะอาดตอบโจทย์ธุรกิจและชีวิตในยุคนี้

ประเทศไทยมีพิกัดทางภูมิศาสตร์ที่ละติจูด 5 องศา 37 ลิปดาเหนือถึง 20 องศา 28 ลิปดาเหนือ จึงอยู่ในเขตร้อน ทำให้มีอุณหภูมิสูงตลอดปี แดดดีตลอดวัน และยิ่งนานวันจะยิ่งทวีความร้อนรุนแรงขึ้นแบบแทบจะทะลุปรอท จึงจัดเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการนำพลังงานจากแสงอาทิตย์มาใช้แทนพลังงานไฟฟ้า

โดยประเทศไทยจะมีค่าอุณหภูมิความร้อนสูงสุดในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี ซึ่งในปีนี้เป็นช่วงที่ Lockdown เมือง และส่งเสริมให้คนอยู่บ้านหรือทำงานจากที่บ้านเพื่อป้องกันโรคระบาดโควิด-19 จึงทำให้ชีวิตติดบ้านท่ามกลางความร้อนทะลุปรอทนั้นมีผลทำให้เกิดการใช้ไฟฟ้ากันมากขึ้น จนยอดค่าใช้ไฟฟ้าพุ่งขึ้น 1-3 เท่าตัว เกินมาตรฐานการใช้ชีวิตปกติทั่วไป 

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

ปรับตัวเลี่ยงค่าไฟแพงด้วยโซลาร์เซลล์

พลังงานทางเลือกจึงเป็นสิ่งที่คนให้ความสนใจกันมาก เพื่อลดต้นทุนในการดำเนินกิจการและค่าครองชีพ ทั้งในฝั่งของผู้ประกอบการและการใช้งานตามบ้านเรือนทั่วไป โดยสิ่งที่นำมาใช้ตอบโจทย์ในการผลิตไฟฟ้าพลังงานทางเลือกที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายและบริหารจัดการได้ด้วยตนเอง ก็คือ "โซลาร์เซลล์ (Solar Cell)” ซึ่งเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทำจากสารกึ่งตัวนำ ชนิดพิเศษ มีคุณสมบัติในการเปลี่ยนพลังงานจากแสงอาทิตย์ไปเป็นพลังงานไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโซลาร์เซลล์จึงเป็นไฟฟ้ากระแสตรง +/- ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทันที

รวมทั้งยังเก็บไว้ในแบตเตอรี่สำรองเพื่อนำไปใช้งาน มีทั้งระบบทำงานกลางวัน และทำงานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน อันเป็นตัวเลือกในเรื่องพลังงานยั่งยืนที่ทำใช้เองได้ นอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมเพราะเป็นพลังงานสะอาด ไม่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกต้นเหตุที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน เหมือนแหล่งพลังงานที่มาจากถ่านหินหรือน้ำมัน โดยโซลาร์เซลล์มีประโยชน์โดยตรง ดังนี้

1. ช่วยประหยัดเงินได้เท่ากับค่าใช้จ่ายเรื่องค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่ายให้แก่องค์การไฟฟ้าในแต่ละเดือน  จัดเป็นการลงทุนที่ให้ความคุ้มค่าได้ในระยะยาว เพราะมีอายุการใช้งานยาวนานมากกว่า 20 ปี ก็ลองคำนวณเล่นๆ ดูว่าจะคุ้มค่าหรือไม่กับการลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ทั้งระบบ เพื่อใช้งานแทนพลังงานไฟฟ้าแบบ 100%  ตลอด 240 เดือนต่อจากนี้ แทนที่จะเสียเงินให้กับค่าไฟฟ้าที่คิดแบบอัตราก้าวหน้า และมีค่าไฟผันแปรไปตามปริมาณการใช้งาน ถ้าใช้มากราคาค่าไฟต่อยูนิตก็จะแพงขึ้นไปตามขั้นบันได โซลาร์เซลล์จึงตอบโจทย์เรื่องการลดต้นทุนให้แก่ผู้ประกอบการได้อย่างลงตัว

2. เป็นพลังงานสะอาด ช่วยลดการเกิดก๊าซเรือนกระจก  โซลาร์เซลล์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นพลังงานสะอาดที่ผู้คนให้ความสนใจนำไปผลิตไฟฟ้ากันทั่วโลก สำหรับในประเทศไทยได้มีการนำไปใช้ในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ขนาดกำลังผลิต 45 เมกะวัตต์ โดยนำพลังงานหมุนเวียนสองประเภท คือ “แสงแดด” และ “น้ำ” มาผลิตไฟฟ้าผสมผสานกันเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ที่มีการนำแผงโซลาร์เซลล์มาติดตั้งบนพื้นที่ผิวน้ำของเขื่อนสิรินธรไม่ถึงร้อยละ 1 ของพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 450 ไร่ ของพื้นที่อ่างเก็บน้ำทั้งหมด พบว่า โครงการพลังงานสะอาดแบบผสมผสานแห่งนี้ ช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก (CO2) ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนได้ประมาณ 47,000 ตัน/ปี  

3. มีโอกาสได้เติบโตและต่อยอดสู่ Prosumer แห่งตลาดพลังงาน  การติดตั้งโซลาร์เซลล์ใช้เองจะนำไปสู่การเป็น Prosumer หรือผู้บริโภคมืออาชีพ สามารถต่อยยอดไปสู่การผลิตไฟฟ้าจำหน่ายผู้อื่น เพียงแค่เริ่มจากการทดลองผลิตไฟฟ้าใช้เองเพื่อลดค่าใช้จ่ายแล้วมีผลพลอยได้เกิดขึ้น จากการผลิตพลังงานไฟฟ้าได้เกินความต้องการ ก็สามารถขายคืนให้ผู้ค้าหลักได้ ซึ่งในตลาดพลังงานของไทยได้ผลักดันให้เกิดการค้าพลังงานเสรีโดย Prosumer โดยทาง กฟผ. ให้ความหมายว่าเป็น Production by Consumer หรือการผลิตไฟฟ้าโดยผู้บริโภค ที่ยินยอมให้บ้านเรือนหลังใดที่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์สามารถขายไฟฟ้าส่วนที่ผลิตแล้วเหลือใช้ให้บ้านใกล้เรือนเคียงได้ด้วย

แหล่งอ้างอิง : https://www.egat.co.th 

สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<< 

แนะนำให้ลองใช้! เมื่อ AR กลายเป็นสุดยอดเครื่องมือนักขาย

‘ไต้หวัน’ เดินหน้าสู่นวัตกรรมพลังงานสีเขียวอัจฉริยะ