South Australia (SA) เป็นรัฐแรกในออสเตรเลียที่ออกกฎหมายห้ามจำหน่าย
จัดหาหรือแจกจ่ายผลิตภัณฑ์พลาสติกใช้แล้วทิ้ง หลังจากเสนอร่างกฎหมาย The
Single-use and Other Plastic Products (Waste Avoidance) Bill 2020 เข้ารัฐสภาในวันที่
30 เมษายน 2563 ก่อนผ่านเป็นกฎหมายในเดือนกันยายน
ปีเดียวกัน และผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นบทบัญญัติในการห้ามจำหน่ายจัดหาหรือแจกจ่ายผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง
มีผลทันทีกับ 3 ประเภท ได้แก่
หลอดพลาสติก แท่งพลาสติกสำหรับผสมเครื่องดื่ม และชุดช้อนส้อมพลาสติก
หลังจากนั้นจะขยายไปยังผลิตภัณฑ์ประเภทแก้ว ถ้วย จาน กล่องพลาสติกบรรจุอาหารแบบ Clam-shell containers และผลิตภัณฑ์พลาสติก
OXO-degradable ภายในวันที่ 1 มีนาคม ปีหน้า แต่มีข้อยกเว้นสำหรับการจัดหาให้กับกลุ่มที่มีความจำเป็นด้านสุขภาพหรือผู้พิการ
การประกาศห้ามจำหน่าย จัดหาหรือแจกจ่ายผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งภายในรัฐ
SA ส่งผลให้มีการตั้งโรงงานผลิตพลาสติกแบบใช้ซ้ำและพลาสติกทางเลือกอื่นๆ
เช่น พลาสติกที่ผลิตจากวัตถุดิบที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติในรัฐ SA มากขึ้น สะท้อนให้เห็นว่ากฎหมายห้ามใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งของรัฐบาล
ไม่เพียงจะเกิดประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและสัตว์ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติโดยตรง
ยังเป็นการส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจและตลาดแรงงานในท้องถิ่นด้วย
ทั้งนี้ หากมีการฝ่าฝืนกฎหมายจะถูกปรับตั้งแต่ 315-1,000 เหรียญออสเตรเลียและมีโทษปรับสูงสุดถึง 20,000 เหรียญออสเตรเลีย
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ผลต่อเศรษฐกิจออสเตรเลีย
จากการเปิดเผยของ World Wide Fund For Nature Australia (WWF) ระบุว่า ชาวออสเตรเลียใช้พลาสติกเฉลี่ย 130 กิโลกรัมต่อคนต่อปี มีพลาสติกที่ถูกนำมารีไซเคิลเพียงร้อยละ 9 และปริมาณขยะพลาสติกประมาณ 130,000
ตันจะถูกทิ้งเป็นขยะในทะเล ซึ่งเป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเลและเป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
ทำให้หน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะธุรกิจบริการอาหาร
ค้าปลีกและซูเปอร์มาร์เก็ตเริ่มมีนโยบายใช้พลาสติกรีไซเคิล
และรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบและความสำคัญในการลดปริมาณขยะพลาสติก เพื่อช่วยเหลือสัตว์ทะเลและรักษาสิ่งแวดล้อม
รัฐ SA เป็นรัฐแรกที่เล็งเห็นความสำคัญต่อการลดปริมาณขยะพลาสติก
โดยเฉพาะหลอดพลาสติกที่ใช้แล้วทิ้งในรัฐ SA ที่มีปริมาณเฉลี่ย
700,000 ชิ้นต่อวัน และรัฐบาลท้องถิ่นอื่นๆ
มีแผนจะกำหนดมาตรการหรือออกกฎหมายเพื่อห้ามใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งในอนาคต
เช่น รัฐ Queensland (QLD)
มีแผนห้ามใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งภายในเดือนกันยายน 2564
นโยบาย Phasing out Single-use Plastics Policy ของเขตปกครองตนเอง Australian
Capital Territory (ACT)
จะเริ่มบังคับใช้เดือนกรกฎาคม 2564 และนโยบาย Plan
For Plastic ของรัฐ Western Australia (WA) จะเริ่มบังคับใช้ภายในปี 2566
เพื่อลดปัญหาขยะที่ออสเตรเลียกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน
ส่งผลอย่างไร? ต่อการค้าไทย
พลาสติกและของทำด้วยพลาสติกเป็นสินค้าส่งออกอันดับที่ 7 ของไทยโดยในปีที่ผ่านมา
ไทยส่งออกพลาสติกและของทำด้วยพลาสติกมาออสเตรเลียมูลค่า 247 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยส่งออกไปรัฐ Victoria (เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6) รัฐ New south
Wales (เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4) และรัฐ Queensland (เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.3) มากที่สุด ในขณะที่การส่งออกไปรัฐ SA ลดลงร้อยละ 5.28 มีมูลค่า 6.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้นการประกาศห้ามใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งของรัฐ
SA เป็นสัญญาณเตือนให้ผู้ส่งออกพลาสติกและของทำด้วยพลาสติกในไทย
ในการวางแผนรับมือกับนโยบายห้ามใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งในรัฐอื่นๆ
เพื่อลดผลกระทบที่จะตามมา
อย่างไรก็ตาม การห้ามใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งของรัฐ SA จะเป็นโอกาสดีแก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมผลิตบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น หลอดกระดาษ/ไม้ไผ่ บรรจุภัณฑ์ชานอ้อย ในการนำเสนอสินค้าให้กับภาคธุรกิจบริการอาหารและเครื่องดื่มในรัฐ SA และรัฐอื่นๆ ในอนาคต
สิทธิพิเศษสำหรับ ‘ผู้ประกอบการไทย’ ในออสเตรเลีย
ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย หรือ Thailand-Australia Free Trade Agreement (TAFTA) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 การเปิดเสรีการค้าบริการและการลงทุนโดยให้คนไทยเข้าไปลงทุนในธุรกิจทุกประเภทได้
100% ยกเว้นหนังสือพิมพ์ การกระจายเสียง การขนส่งทางอากาศ
และท่าอากาศยาน แต่หากเป็นการลงทุนที่มีขนาดเกิน 10 ล้านเหรียญออสเตรเลีย
จะต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการพิจารณาการลงทุนของต่างชาติก่อน พร้อมกันนี้ออสเตรเลียจะอนุญาตให้ผู้บริหาร
ผู้จัดการ ผู้เชี่ยวชาญ และคู่สมรสและผู้ติดตาม เข้าไปทำงานได้คราวละ 4 ปี โดยต่ออายุได้ไม่เกิน 10 ปี
รวมทั้งให้พ่อครัวไทยที่ได้รับประกาศนียบัตรของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และสัญญาว่าจ้างงานจากกิจการในออสเตรเลียเข้าไปทำงานได้ไม่เกิน
4 ปี พร้อมกับยกเลิก Labor Market Test หรือข้อจำกัดที่กำหนดให้นายจ้างในออสเตรเลียต้องประกาศหาคนในประเทศมาสมัครเข้าทำงานก่อนเป็นเวลา
4 สัปดาห์
หากไม่มีผู้ใดมาสมัครจึงจะอนุญาตให้ว่าจ้างคนงานจากต่างประเทศได้
แหล่งอ้างอิง :
สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อ Bualuang
Green<<