สเปนทำอย่างไร? ให้เป็น ‘ระบบนิเวศสตาร์ทอัพ’ อันดับ 9 ของโลก
หลายปีที่ผ่านมาระบบนิเวศสตาร์ทอัพในสเปนมีพัฒนาการที่เติบโตขึ้นอย่างมาก
โดยข้อมูลของเว็บไซต์ StartupBlink เรื่อง Global Countries Ranking of Startup Ecosystem ปี 2020 พบว่า สเปนเป็นประเทศที่มีระบบนิเวศสตาร์ทอัพดีที่สุดเป็นอันดับ
9 ของโลก โดยนครบาร์เซโลนาและกรุงมาดริดได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีระบบนิเวศสตาร์ทอัพที่ดีที่สุดเป็นอันดับที่
27 และ 35 ของโลกตามลำดับ
จากรายงานของศูนย์สังเกตการณ์สตาร์ทอัพสเปน ภายใต้มูลนิธินวัตกรรมของธนาคาร Bankinter (Observatorio de Startups de la Fundacion Innovacion Bankinter) ระบุว่าในปี 2020 สตาร์ทอัพของสเปนที่มีเงินลงทุนสูงกว่า 1,105 ล้านยูโร มีจำนวนลดลงถึงร้อยละ 11.3 เมื่อเทียบกับปี 2019 อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากปัญหาโควิด 19 แต่ขณะเดียวกันก็พบว่า สตาร์ทอัพสเปนโดยเฉพาะระดับ Seed Fund, Series A และ Series B กลับมีจำนวนการดำเนินการ (Operations) เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 36 เลยทีเดียว
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
โดยธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีเงินลงทุนมากที่สุด
3 อันดับแรกในสเปนในปีที่ผ่านมา ได้แก่
1. Glovo ในธุรกิจการขนส่งและโลจิสติกส์
มีการลงทุนมูลค่า 120 ล้านยูโร
2. Flywire ในธุรกิจสาขา FinTech/InsurTech มีการลงทุนมูลค่า 113.4 ล้านยูโร
3. Devo Technology
ในธุรกิจสาขาความมั่นคงทางไซเบอร์
มีการลงทุนมูลค่า 50.6 ล้านยูโร
โดยในภาพรวมแล้ว สาขาธุรกิจที่สามารถดึงดูดการลงทุนได้มากที่สุดในปี
2020 ได้แก่ สุขภาพ ความมั่นคงทางไซเบอร์ และการศึกษา
เพื่อเป็นการส่งเสริมธุรกิจสตาร์ทอัพของสเปน ล่าสุดเมื่อวันที่ 11
กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา รัฐบาลสเปนได้ประกาศใช้ยุทธศาสตร์ผู้ประกอบการแห่งชาติ
(Estrategia
España Nación Emprendedora) เพื่อสนับสนุนการเพิ่มจำนวนของผู้ประกอบการในด้านนวัตกรรม
และดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติในธุรกิจสตาร์ทอัพให้เพิ่มมากขึ้น ภายในปี 2030 โดยมีเป้าหมายประกอบด้วย
1. การเร่งให้เกิดการลงทุนในสเปน
2.
การขับเคลื่อนให้สเปนเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยบุคลากรทักษะสูง
และดึงดูดให้บุคลากรทักษะสูงจากต่างชาติเข้ามาทำงาน
3. การส่งเสริมการขยายตัวของธุรกิจสตาร์ทอัพในประเทศ
4. เพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการของภาครัฐ เพื่ออำนวยความสะดวกและสนับสนุนการพัฒนาด้านนวัตกรรม
ภายใต้ยุทธศาสตร์ดังกล่าว จะมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับ 10 สาขาธุรกิจ ที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจสเปน ได้แก่ อุตสาหกรรม
การท่องเที่ยวและวัฒนธรรม การคมนาคม สุขภาพ การก่อสร้างและอุปกรณ์
พลังงานและสิ่งแวดล้อม การเงินและการธนาคาร ดิจิทัลและโทรคมนาคม เกษตรและอาหาร
และเทคโนโลยีชีวภาพ โดยรัฐบาลสเปนจะออกมาตรการต่างๆ กว่า 50 รายการ
เพื่อสนับสนุนธุรกิจที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมาย อาทิ
- การสร้างแบรนด์สเปนให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก
และเสริมสร้างให้สเปนเป็นชาติแห่งผู้ประกอบการ
- การจัดตั้งศูนย์ผู้ประกอบการแห่งชาติ
ที่จะเป็นกลไกสั่งการและประสานงานการให้บริการ/การสนับสนุนต่างๆ
ระหว่างผู้ประกอบการกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
- การออกกฎหมายส่งเสริมระบบนิเวศบริษัทเกิดใหม่
หรือกฎหมายสตาร์ทอัพ ซึ่งคาดว่าคณะรัฐมนตรีสเปนจะอนุมัติกฎหมายดังกล่าวในอนาคตอันใกล้นี้
โดยจะเป็นครั้งแรกที่มีการใช้กฎหมายดังกล่าวในสเปน ซึ่งจะครอบคลุมทุกเรื่องที่เกี่ยวกับธุรกิจสตาร์ทอัพ
อาทิ สิทธิพิเศษด้านภาษี
การอำนวยความสะดวกด้านวีซ่าทำงานและการขอบัตรประจำตัวให้แก่นักลงทุน/ผู้เชี่ยวชาญ
เพื่อช่วยส่งเสริมการลงทุนของต่างชาติในธุรกิจสตาร์ทอัพในสเปน เป็นต้น
ธุรกิจสตาร์ทอัพสเปนดาวรุ่งกำลังมาแรง
1. Methinks
เป็นสตาร์ทอัพจากนครบาร์เซโลนา โดยบริษัทได้พัฒนาเทคโนโลยีที่ชื่อว่า Deep Learning ในรูปแบบของซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เป็นการเลียนแบบระบบเซลล์ประสาทในสมองของมนุษย์
โดย AI ของบริษัท
ถูกนำไปใช้ในเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ชนิดไม่ฉีดสี (Non-contrast CT
scan) ที่ใช้การวินิจฉัยโรคหลอดเลือดสมอง
เพื่อช่วยประเมินอาการของผู้ป่วยเพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างแม่นยำและทันท่วงที
2. IriusRisk
สตาร์ทอัพจากเมืองอูเอสกา ให้บริการ Treat Modeling Platform ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่จะช่วยให้โปรแกรมเมอร์สามารถสร้างแอปพลิเคชันได้อย่างปลอดภัย
และลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้นได้ขณะพัฒนาแอปพลิเคชัน
ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าการที่จะต้องไปแก้ไขข้อผิดพลาดภายหลังการผลิต
และขณะนี้ IriusRisk ได้ขยายกิจการไปจัดตั้งสำนักงานทั้งในสหรัฐฯ
และสหราชอาณาจักรแล้ว
3. ADbioplastics
เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและผลิตพลาสติกชีวภาพ หรือ Premium-grade
Polylactic Acid (PLA) จากข้าวโพด อ้อยและ/หรือบีทรูท โดย ADBioplastics
ได้รับสิทธิบัตรเทคโนโลยี BlockPLA ของตนเองในการพัฒนาคุณภาพ
PLA ที่ทำให้พลาสติกสามารถย่อยสลายได้เองผ่านกระบวนการทางชีวภาพ
(biodegradable / compostable) ทั้งนี้สตาร์ทอัพรายนี้ได้รับการจัดอันดับโดย
Startus Insights ให้เป็น “5 Top Bio-Based Polymer
Startups Impacting The Materials Sector” ของโลกด้วย
4. SingularCover
เป็นสตาร์ทอัพนายหน้าประกันภัยในรูปแบบออนไลน์สำหรับกลุ่มลูกค้า SMEs และผู้ประกอบการ
ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถซื้อประกันภัยได้ผ่านช่องทางออนไลน์ในเวลาอันรวดเร็ว
และครอบคลุมเฉพาะบริการที่ลูกค้าต้องการได้ โดย SingularCover ยังได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันสตาร์ทอัพในงาน South Summit 2020
Startup Competition อีกด้วย
5. Graniot
สตาร์ทอัพสาขา Agrotech ที่ใช้เทคโนโลยี Geospace โดยการประมวลข้อมูลจากจากดาวเทียม
ร่วมกับฐานข้อมูลด้านเกษตรกรรมทั้งระดับชาติและนานาชาติ
เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการสนับสนุนการเพาะปลูกพืชของเกษตรกร โดยระบบของ Graniot
จะทำหน้าที่แจ้งข้อมูลเชิงเทคนิคที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถตัดสินใจได้ว่า
ควรรดน้ำหรือให้ปุ๋ยพืชในขณะนั้นๆ หรือไม่
ซึ่งเป็นการช่วยประหยัดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างมาก
และยังเป็นการช่วยเพิ่มคุณภาพให้กับผลผลิตทางการเกษตรด้วย
แหล่งอ้างอิง : ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสเปน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด