สตาร์ทอัพด้านเกษตร หรือ Agritech เกิดขึ้นอย่างน่าสนใจทั่วโลก โดยการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้และผสานกับการ “คิดใหม่” เพื่อสามารถแก้ปัญหาเรื่องเดิมๆ มาใช้กับธุรกิจการเกษตรไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดการ สต็อกสินค้า การบริหารจัดการเรื่องราคา หรือช่วยเหลือด้านเงินทุนให้กับเกษตรกรมีส่วนผลักดันให้อุตสาหกรรมการเกษตรเติบโตต่อไปได้ ปรากฏการณ์เหล่านี้ไม่ได้มีเฉพาะในต่างประเทศ แต่ประเทศไทยก็เริ่มมีให้เห็นมากขึ้น
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ในเคสต่างประเทศ ยกตัวอย่าง อาทิ องค์การสหประชาชาติเองจับมือกับองค์กรเอ็นจีโอ.ของเนเธอร์แลนด์
ชื่อ Fair Chain Foundation นำเทคโนโลยี “บล็อกเชน”มาสนับสนุนให้เกษตรกรเพาะปลูกโกโก้ในประเทศเอกวาดอร์ให้ได้รับเงินสนับสนุนอย่างเป็นธรรม
โดยที่ Fair Chain Foundation จะผลิตช็อกโกแล็ตแท่งที่มีคิวอาร์โค้ตกำกับอยู่
เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถส่งเงินดิจิตอลสนับสนุนไปยังเกษตรกรโดยไม่ต้องผ่านคนกลาง
แต่ใช้วิธีการผ่านบล็อกเชนโดยทำการแสกนคิวอาร์โค้ตจะแสดงต้นทุนการผลิตช็อกโกแล็ตแท่งนี้ว่ามีต้นทุนเท่าไหร่
ยิ่งกว่านั้นยังมีจีพีเอส. แสดงให้เห็นว่าต้นโกโก้ที่นำผลของมันมาใช้ผลิตโกโก้นั้นต้นมันอยู่ตรงไหน
การที่ต้องนำระบบนี้มาใช้ เนื่องจากที่ผ่านมาเกษตรผู้เพาะปลูกโกโก้ถูกเอารัดเอาเปรียบโดยได้รับส่วนแบ่งจากการขายเพียง
3% เท่านั้น
เทียบไม่ได้เลยกับมูลค่ายอดขายรวมกันทั่วโลกกว่า 9.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ดังนั้นโครงการนี้เกิดขึ้นมาเพื่อช่วยให้เกษตรกรได้รับเงินสนับสนุนโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง
ซึ่งเงินที่สนับสนุนนี้จะเป็นทุนสำหรับการเพาะปลูกโกโก้ในรุ่นต่อไป
การนำบล็อกเชนมาใช้นี้นอกจากจะช่วยสนับสนุนเกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น โดยผู้บริจาคจะสามารถรับรู้ได้ว่าเงินของพวกเขาไปถึงมือเกษตรกรจริงๆ
หรือไม่
กลุ่มประเทศอาเซียน กรณีน่าสนใจ เช่น ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่มีสตาร์ตอัพระดับที่มีชื่อเสียงโด่งดังและน่าสนใจมากมาย อาทิ “iGrow” แพลตฟอร์ม Crowdfunding ที่จะมาทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างนักลงทุนที่สนใจได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในโครงการทางด้านการเกษตร เช่น อ้อย ทุเรียน ฟาร์มเลี้ยงวัวและอื่นๆ เป็นต้น
โดยแพล็ตฟอร์ม iGrow จะเป็นผู้ประเมินผลตอบแทนให้กับนักลงทุนพิจารณา
ผลประโยชน์ที่ได้คือนักลงทุนได้รับผลตอบแทนจากการลงเงิน ส่วนเกษตรกรก็ได้รับแหล่งเงินทุนที่ต้นทุนต่ำมาใช้ในการเพาะปลูก
ทำให้ไม่ต้องกู้เงินจากธนาคารที่อัตราดอกเบี้ยสูงกว่ามาใช้ในการลงทุน
หรือต้องแลกกับการสูญเสียความเป็นหุ้นส่วนในโครงการไปบางส่วนไป
วิธีการก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเพียงแค่สมัครผ่านแอพพลิเคชั่นเท่านั้น
ดังนั้นบทบาทของ iGrow จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวกลางจับคู่เกษตรกรกับนักลงทุนเท่านั้น
แต่ยังดูแลเกษตรกรที่เข้าร่วมแพลตฟอร์ม เช่นการจัดหาคู่ค้าให้
การหาตลาดใหม่ๆเรียกว่าช่วยเหลือเกษตรกรทุกด้านไม่ใช่แค่เงินทุนเพียงอย่างเดียว
iGrow ก่อตั้งมาเมื่อปี พ.ศ. 2557 ได้ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรไปแล้วกว่า 2000ราย ที่สำคัญช่วยลดภาระหนี้สินของเกษตรกรที่ต้องกู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยราคาแพง ได้เป็นอย่างดีถือเป็นสตาร์ทอัพเพื่อเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก
ฟาร์มโต๊ะ สตาร์ทอัพไทย
ไขแนวคิดเกษตรแบ่งปัน
ขณะที่ประเทศไทย กรณี Application Farm To (ฟาร์มโตะ) แพลตฟอร์มออนไลน์มาช่วยแก้ไขปัญหาด้านช่องทางการตลาดโดยใช้แนวคิด
"เกษตรแบ่งปัน" คือ
ผู้บริโภคสามารถเข้ามาร่วมเป็นเจ้าของผลผลิตร่วมกับเกษตรกรได้ตั้งแต่ก่อนเพาะปลูก
เพื่อจ่ายเงินซื้อผลผลิตล่วงหน้า โดยถือว่าผู้บริโภคได้เป็นเจ้าของผลผลิตในรอบการปลูกนั้นๆ
ร่วมกับเกษตรกร
ระหว่างการเพาะปลูกผู้บริโภคสามารถติดตามความคืบหน้าของผลผลิตผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทั้งเว็บเพจและแอปพลิเคชัน
ทั้งสามารถไปเยี่ยมเกษตรกรถึงแปลงปลูกได้อีกด้วย
และเมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวก็จะได้รับผลผลิตกลับไปตามจำนวนที่สั่งจอง
คุณอาทิตย์ จันทร์นนทชัย เจ้าของแพลตฟอร์ม ฟาร์มโตะ กล่าวว่า
แนวคิดนี้ช่วยให้เกษตรกรมั่นใจได้ว่ามีตลาดรองรับที่แน่นอนและราคาที่เหมาะสมโดยวิธีการขายผ่านทางออนไลน์ส่งตรงถึงผู้บริโภค
ขณะเดียวกันผู้บริโภคสามารถรับรู้แหล่งที่มาของผลผลิตและมั่นใจในผลผลิตที่ตนเองจะได้บริโภคเช่นกัน
จึงอาจกล่าวได้ว่า FarmTo คือสื่อกลางที่ทำให้เกษตรกรและผู้บริโภคได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น
ปัจจุบัน FarmTo ได้เริ่มขยายเครือข่ายไปยังโรงแรมและผู้ประกอบการร้านอาหาร ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรมีตลาดที่กว้างขึ้นและรายได้เพิ่มขึ้นรวมถึงช่วยวางแผนให้คำปรึกษาและถ่ายทอดความรู้ให้แก่เกษตรกรที่ยังไม่สามารถบริหารจัดการเองได้ โดยมุ่งหวังให้เกษตรกรสามารถช่วยเหลือตัวเองและเติบโตไปสู่การสร้างแบรนด์ให้แก่ผลผลิตของตัวเองได้ในอนาคต
เห็นได้ชัดยิ่งขึ้นว่า
การแก้ปัญหาหรือการจัดการสมัยใหม่ในภาคเกษตรกับการทำสตาร์ทอัพเริ่มมีมิติที่ใกล้เคียงมากขึ้น
ทั้งนี้ก็เพราะได้มีการนำวิธีคิดแบบ Pain Point หรือการมองเห็นปัญหา ความเจ็บปวดที่เป็นอยู่ และแก้ปัญหาอย่างมีส่วนร่วมมาปรับใช้
และจะเห็นได้ว่าสตาร์ทอัพไทยจะมองว่านี่เป็นโอกาสที่ดีด้วยเช่นกัน