ถึงแม้ในปี 2020 นี้จะมีแนวโน้มว่าการเกิดใหม่ของธุรกิจสตาร์ทอัพในโลก
หรือในประเทศไทยนั้นดูลดน้อยลงกว่าเดิม ราวกับกระแสการทำสตาร์ทอัพได้หายไป
ไม่ครึกครื้นเหมือนช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
แต่แน่นอนว่ามันไม่ใช่จุดจบของสตาร์ทอัพแต่อย่างใด
เพียงแต่มันได้คัดกรองให้หลงเหลือไว้เพียงคนที่มีความตั้งใจ
และอยากเปลี่ยนแปลงโลกนี้ไปในทางที่ดีขึ้นด้วยนวัตกรรมที่พวกเขาคิดค้นได้
ซึ่งสตาร์ทอัพในประเทศไทยถึงจะถือกำเนิดน้อยลง
แต่ก็ยังคงเติบโตได้ดี ในปี 2019 ที่ผ่านมา สตาร์ทอัพประเทศไทยก็มีเม็ดเงินลงทุนสูงถึง 97 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในปี 2020 นี้เองก็มีแนวโน้มว่าจะเติบโตไปจนถึง
150 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้เลย ซึ่ง 3 สตาร์ทอัพสายเลือดไทยเหล่านี้
คือสตาร์ทอัพหน้าใหม่ที่มีโอกาสเติบโตขึ้นสูงมากจากกระแสธุรกิจที่มาแรงในนาทีนี้
และควรจับตามองไว้อย่างยิ่ง
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1. Kidney Meal
HealthTech หนึ่งในกระแสธุรกิจที่ได้รับความนิยมสูงสุดตอนนี้คือ
ธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุ หรือการดูแลสุขภาพนั่นเอง เนื่องจากประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว
นอกจากกลุ่มคนเหล่านี้จะมีกำลังซื้อ มีเวลาหาข้อมูลแล้ว
ยังเป็นวัยที่มีความภักดีในแบรนด์สูงมาก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม Kidney Meal
จึงน่าสนใจ เพราะเขาเป็นผู้ให้บริการอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไตนั่นเอง
ซึ่งคนไทยนั้นป่วยเป็นโรคไตสูงมากกว่า 17% หรือเกินกว่า 10
ล้านคน โดยเฉพาะกับคนที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป
นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ Kidney Meal มีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน
แน่นอน และมีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นตามกระแสโลกที่กำลังมาแรง
โดย Kidney
Meal เกิดจากการที่ต้องเจอความยุ่งยากในการจัดหาอาหารผู้ป่วยโรคไต
เพราะต้องควบคุมหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโซเดียม โปรตีน ไขมัน น้ำตาล ผักผลไม้
หรือแม้แต่น้ำเองก็ตาม ซึ่งร้านอาหารเพื่อผู้ป่วยโรคไตนั้นหายาก ทำให้คุณสุภัทรา
ธรรมสัญจร ผู้ก่อตั้ง Kidney Meal หันมาศึกษาหลักโภชนาการที่เหมาะสมกับผู้ป่วยโรคไตอย่างจริงจัง
และใช้เวลา 2 ปีในการคิดค้นและพัฒนาอาหารให้ถูกต้องตามหลักที่แพทย์แนะนำ
พร้อมคิดค้นเมนูใหม่ๆ ขยายกลุ่มเป้าหมาย และทำให้ธุรกิจน่าสนใจอยู่ตลอดเวลา
ซึ่งในอนาคต Kidney Meal มีการวางแผนจะขายอาหารและคุกกี้ไข่ขาวตามโรงพยาบาลและศูนย์ฟอกไต
เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงสินค้าต่างๆ ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
LINK: http://www.kidneymeal.com/
2. Tellscore
Foodtech อีกความน่าสนใจในวงการธุรกิจยุคนี้คือ
การที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจดูแลตัวเองมากขึ้น
ไม่ใช่แค่กับเฉพาะในด้านกายภาพอย่างรูปร่าง การรับประทานอาหาร
หรือบำรุงผิวพรรณต่างๆ เท่านั้น แต่ “มินเทล” บริษัทที่ปรึกษาด้านการวิจัยตลาดได้เปิดเผยว่า
เทรนด์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคคนไทยจากกลุ่มตัวอย่าง 1,500 คน
พบว่าส่วนใหญ่จะต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ซึ่งหนึ่งในคุณภาพชีวิตที่ว่านั้นหมายถึงการพัฒนาตัวเองให้มีความรู้ความสามารถนั่นเอง
Tellscore จึงตอบโจทย์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
แต่ไม่ใช่ในทางผู้บริโภค
หากแต่เป็นในฐานะของผู้ให้บริการแพลตฟอร์มผู้ช่วยสำหรับนักการตลาดหรือผู้ประกอบการนั่นเอง
และเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่น่าจับตามองที่สุดของปี 2020
เนื่องจากผู้บริโภคยุคใหม่ที่อยากดูแลตัวเอง
อยากมีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม
เขามักจะไม่เชื่อในสิ่งที่แบรนด์สื่อถึงตัวเอง แต่จะเชื่อฟังสิ่งที่คนใกล้ตัว หรือ
Influencer ระดับเล็กๆ ที่ยังมีคนติดตามน้อยๆ
และยังไม่ถูกพูดถึงในวงกว้างขนาดเป็นที่รู้จักไปทั่ว พูดถึงสินค้านั้นๆ มากกว่า
Tellscore จะช่วยทำหน้าที่สื่อกลางให้นักการตลาดหรือผู้ประกอบการได้พบกับ
Influencer โดยตรง ซึ่งในแพลตฟอร์มจะมีทั้ง Influencer
ในเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม และแพลตฟอร์มอื่นๆ มากมาย
ซึ่งทุกคนจะมีสไตล์ที่แตกต่างกัน หรือถนัดในเรื่องที่ไม่เหมือนกัน โดย Micro-Influencer
จะมีผู้ติดตามต่ำกว่า 5 หมื่นคน ส่วน Nano-Influencer
จะมีผู้ติดตามต่ำกว่าพันคน
สามารถเลือกใช้บริการที่ตอบโจทย์ของทุกคนได้เลย เพราะทุกคนในแพลตฟอร์มนี้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคทั้งสิ้น
LINK: https://th.tellscore.com/
3. bitkub
FinTech ยังคงเป็นสายสตาร์ทอัพที่มีคนให้ความนิยมสนใจกันอยู่ตลอดเวลา
ซึ่ง bitkub เป็นแพลตฟอร์มเทรดเงินคริปโตที่มีโอกาสเติบโตสูงที่สุด
ถึงขั้นสามารถเป็นยูนิคอร์นได้เลยในอนาคต โดยการันตีการเข้าร่วมโครงการดีแทค
แอคเซอเลอเรท และเป็นสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์มากถึง
525 ล้านบาท
โดยปัจจุบันด้วยความที่วงการบิทคอยน์เติบโตขึ้นทุกปี
ตั้งแต่ในปี 2018 ที่ราคาพุ่งขึ้นไปสูงถึงคอยน์ละ
2 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ
ทำให้มีคนให้ความสนใจในการเทรดคริปโตมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้
ส่งผลให้ทุนจดทะเบียนบริษัทในปัจจุบันของ bitkub อยู่ที่ 80
ล้านบาทเลยทีเดียว
ด้วยบริการของ bitkub ที่ตอบโจทย์ทั้งมือใหม่และมือเก่าในคนที่สนใจบิทคอยน์
สามารถทำตามจุดประสงค์ที่คนส่วนใหญ่ต้องการได้ นั่นคือ การเทรดง่าย ซื้อง่าย
ขายง่าย ด้วยบริการที่รวดเร็ว ฝากไว ถอนไว และมีโปรโมชั่นต่างๆ
มอบให้ผู้สนับสนุนอยู่ตลอด ทำให้ bitkub กลายเป็น one-stop
service ให้กับทุกคนในเรื่องบิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัล
ที่มีความปลอดภัย และไว้วางใจได้
ด้วยเหตุนี้เองทำให้ bitkub มีส่วนแบ่งตลาดลงทุนคอยน์ในประเทศไทยสูงถึง 90%
และมียอดซื้อขายสูงถึง 250 ล้านบาท/วัน มีเงินเข้าออกจากการซื้อขายผ่านระบบมากกว่า 4,000 ล้านบาทต่อเดือน
ซึ่งนับเป็นสตาร์ทอัพที่มีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จสูงที่สุดในปีนี้เลย
LINK: https://www.bitkub.com/
จะเห็นได้ว่าสตาร์ทอัพไทยที่เกิดใหม่ถึงแม้จะมีไม่มากเท่าในอดีต แต่การเติบโตของวงการนี้ก็ยังไม่หยุดนิ่ง และมีคนที่พร้อมจะพัฒนาตัวเองให้ไปสู่จุดสูงสุดของวงการอยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อคุณสามารถจับโจทย์ความต้องการของตลาดจากคนหมู่มากได้ และนำเทรนด์โลกมาประยุกต์เข้ากับธุรกิจของคุณ จะช่วยดึงดูดความสนใจและกระตุ้นให้ธุรกิจมีโอกาสสำเร็จได้มากกว่าใคร อย่างที่ 3 สตาร์ทอัพเหล่านี้แสดงให้เห็น