ลบช่องโหว่ด้วยการทำ Prototype

ธุรกิจสตาร์ทอัพนั้นเป็นธุรกิจที่ต้องอาศัยความรวดเร็ว และการผิดพลาดที่น้อยที่สุด แต่เพราะบ่อยครั้งที่สตาร์ทอัพมักถือกำเนิดจากคนจบใหม่ที่ขาดซึ่งประสบการณ์ เป็นวัยรุ่นไฟแรงที่โหยหาความสำเร็จในไอเดียที่ตัวเองมี จึงไม่แปลกที่สุดท้ายแล้วการลงทุนหลายๆ ครั้งจะไม่ประสบความสำเร็จ เพราะทุ่มเทให้กับสิ่งที่ผิดพลาดมากจนเกินไป จนไม่เหลือทุนให้พัฒนาต่อยอดไปได้

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme 

เริ่มต้นสตาร์ทอัพจาก Prototype ไม่ใช่ของจริง

สตาร์ทอัพหลายคนมักจะมีความคิดดีๆ ไอเดียเจ๋งๆ อยู่ในหัวกันทั้งนั้น และอยากจะเร่งความสำเร็จทำไอเดียนั้นให้จับต้องได้จริงเพื่อนำมาเสนอขายกลุ่มนักลงทุน แต่ในโลกแห่งความจริง บางสิ่งที่คุณคิดว่าดีมันอาจจะไม่ถูกต้องเสมอไป เพราะยังมีเบื้องหลังความต้องการของผู้บริโภคอีกมากมายที่รอให้คุณค้นหา การลงทุนลงแรงสร้างแอปพลิเคชัน หรือบริการใดๆ ขึ้นมาโดยไม่เคยทดลองตลาดเลยสักครั้งนั้นเป็นความล้มเหลวหลักของสตาร์ทอัพเลย

ดังนั้นสำหรับใครที่อยากจะเริ่มต้นทำสตาร์ทอัพจริงๆ คุณต้องมี Prototype ที่เป็นตัวต้นแบบของธุรกิจซะก่อน ไม่จำเป็นต้องลงเงินหมดหน้าตักเพื่อของที่ยังไม่ได้พิสูจน์ ซึ่ง Prototype นี้จะช่วยทดสอบไอเดียให้คุณได้ว่ามันจะสามารถทำเงินได้จริงมั้ย มีผู้ใช้งานรึเปล่า

เล่าให้ฟังก่อนว่า Prototype ก็เปรียบเสมือนตัวทดลองตลาดว่าจุดบอดของไอเดียคุณคืออะไร และนำดีไซน์ รวมถึงไอเดียที่ได้มาแก้ไขให้รวดเร็วขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการทำสตาร์ทอัพอีกต่างหาก ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารระหว่างโปรแกรมเมอร์และฝั่งคนคิดไอเดีย อีกทั้งยังช่วยพัฒนาโปรดักต์ให้เร็วยิ่งขึ้น ไม่ต้องแก้ทุกอย่างใหม่ทั้งหมด เห็นผลลัพธ์ก่อนที่จะลงทุนทั้งเงินและเวลา

 หากลุ่มเป้าหมายด้วย Buyer Persona

หลังจากสร้าง Prototype ขึ้นมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทีนี้หน้าที่คุณก็คือการมองหากลุ่มเป้าหมายที่คิดว่าเขาจะเข้ามาใช้บริการอย่างแน่นอน แต่เพราะการหว่านแหไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง และทำให้เสียเวลาเกินความจำเป็น ดังนั้นคุณต้องนำไอเดีย Prototype ตัวนี้ไปพิสูจน์กับคนที่จะใช้สินค้าของคุณจริงๆ และวิธีการหาพวกเขาก็คือต้องใช้ไอเดีย Buyer Persona นี้นี่แหละ

Buyer Persona คือการจำลองกลุ่มลูกค้าสมมติขึ้นมา เพื่อให้เห็นความแตกต่างของลูกค้าแต่ละประเภท ทั้งอายุ ฐานะ การศึกษา หรือความชอบส่วนตัว เพื่อที่ว่าคุณจะได้ปรับปรุงธุรกิจของคุณให้ตรงกับความต้องการของพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น

การสร้าง Buyer Persona นั้น คุณต้องอาศัยจินตนาการ หรือสมมุติบุคลิกของลูกค้าขึ้นมาให้เห็นภาพเลยครับ โดยใช้กรอบคร่าวๆ ดังนี้

1. ลักษณะ

ดูเป็นส่วนของข้อมูลว่ากลุ่มเป้าหมายเราเป็นคนแบบไหน ลักษณะยังไง ส่วนสูง อายุ เพศ การทำงาน การศึกษา ความชอบ หรือแม้แต่ชื่อของตัวละครเราก็สามารถตั้งได้ เพื่อให้ลูกค้าเหมือนมีตัวตนขึ้นมาจริงๆ และมองเห็นภาพได้ชัดมากขึ้น

2. ความสนใจของเขา

หลังจากได้โปรไฟล์มาแล้วทั้งหมด ก็นำมาวิเคราะห์ความชอบ ว่าคนประเภทนี้จะชื่นชอบอะไร ยังไง แบบไหนเพื่อนำไปปรับปรุงกับโปรดักต์ ตั้งแต่ในเรื่องของแพ็กเกจ สีของแบรนด์ ทัศนคติของเรา ไปจนถึงการออกแบบหน้าตาเว็บไซต์ หรือ UX/UI ในแอปพลิเคชันเลย

3. หาข้อด้อยของตัวเอง

ย้อนกลับมามองว่าสินค้าของเรามีตรงไหนที่ขัดต่อหลักความชอบของ Buyer Persona คนสมมตินี้บ้าง เพื่อหาทางปรับปรุง แก้ไขให้ตอบโจทย์ได้มากยิ่งขึ้น และจะทำยังไงให้ลูกค้าในอุดมคติอยากที่จะตัดสินใจใช้บริการคุณ

4. มองหาตัวชะลอความสนใจ

ต่อให้คุณจะปรับแต่งทุกอย่างให้ออกมาลงตัวแล้ว แต่ลูกค้าในอุดมคตินี้ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อคุณทันทีก็ได้ ดังนั้นมองหาให้ลึกลงไปครับว่าอะไรจะเป็นอุปสรรคให้เขาไม่ตัดสินใจซื้อทันที หรือยังคงไม่ใช้บริการคุณอยู่ดี

5. เรียงลำดับขั้นการซื้อ

ข้อนี้จะช่วยให้เห็นภาพชัดมากเลยล่ะ โดยให้คุณจำลองเหตุการณ์สมมติขึ้นมาว่า ถ้าลูกค้าคนนี้มีตัวตนจริงๆ เขาจะต้องเดินทางจาก 0 ไปจนถึงเท่าไหร่จึงจะตัดสินใจซื้อโปรดักต์คุณ เช่น ต้องดูรีวิวก่อนเป็นอย่างแรก แล้วจากนั้นถึงไปเดินดูสินค้าจริงที่หน้าร้าน แล้วค่อยกลับมาเทียบราคาสินค้า หรือสินค้าคุณเป็นของใช้เล็กๆ น้อยๆ ที่ราคาไม่แพงมาก สามารถถามเพื่อนแล้วตัดสินใจซื้อได้เลย ซึ่งโปรเซสตรงนี้มีผลต่อการตัดสินใจซื้อมากทีเดียว เมื่อคุณรู้กระบวนการต่างๆ มันจะทำให้คุณเลือกลงทุนการตลาดได้อย่างถูกจุด

หลังจากเรียงลำดับทุกอย่างเรียบร้อยตั้งแต่การสร้าง Prototype จนถึงการทำ Buyer Persona แน่นอนว่ามันจะทำให้คุณเห็นภาพกว้างของธุรกิจคุณมากกว่าเดิมเยอะเลย และทำให้เห็นถึงช่องโหว่มากมายที่คุณหลงลืมไปในครั้งแรก

สำคัญที่สุดเลยคือ ยิ่งคุณมีคนที่คิดว่าจะใช้บริการตัวเป็นๆ อยู่ใกล้ก็ยิ่งดี สอบถามเขาเหล่านั้นเลยว่า สินค้าคุณดี หรือไม่ดีตรงไหน เขาต้องการอะไร แล้วมันจะทำให้พัฒนาธุรกิจ กลบจุดด้อยของคุณได้ง่ายขึ้นกว่าเยอะ