ส่อง 11 สตาร์ทอัพยูนิคอร์นเกาหลีใต้

"เกาหลีใต้" เป็นหนึ่งประเทศต้นแบบที่มีการพัฒนาสตาร์ทอัพไปสู่ระดับที่เรียกวา "ยูนิคอร์น"จำนวนมาก ในปี 2561 มีเงินลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพจากบริษัทร่วมทุนของเกาหลีมากถึง 3.42 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปี 2560 ที่มีมูลค่า 1.45 ล้านล้านวอน ส่งผลให้บริษัทที่ได้รับเงินลงทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปี 2556 ที่มี 755 บริษัท เพิ่มเป็น 1,399 บริษัทในปี 2560

ก่อนอื่นมีทำความเข้าใจกับความหมายของ "สตาร์ทอัพยูนิคอร์น" ก่อนว่าการเป็น ยูนิคอร์น หมายถึง ธุรกิจสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จ มีมูลค่าบริษัทมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐขึ้นไป ซึ่งปัจจุบันอาจเรียกว่าหาได้น้อยมากมีสัดส่วนไม่ถึง 2% ของธุรกิจสตาร์ทอัพทั้งหมด คาดว่าทั่วโลกจะมีอยู่ราว 393 รายแบ่งเป็น 15 ประเภท เช่น ฟินเทค ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อีคอมเมิร์ช ท่องเที่ยว สุขภาพ อสังหาริมทรัพย์ พลังงานทดแทน เป็นต้น โดยในประเทศไทยไม่มีสตาร์ทอัพที่อยู่ในระดับยูนิคอร์นเลย ขณะที่สหรัฐฯมี Uber หรือ จีนมี Xiami เป็นต้น

แต่นอกจากระดับยูนิคอร์นแล้ว ยังมีสตาร์ทอัพลำดับรองลงมา เช่น  Centaur ซึ่งมียอดขายประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐขึ้นไป หรือ My Little Pony ซึ่งมียอดขาย 10 ล้านเหรียญสหรัฐ ขึ้นไป

สำหรับประเทศเกาหลีใต้ ถือเป็นประเทศที่มีการพัฒนาสตาร์ทอัพที่โดดเด่นประเทศหนึ่ง โดยในปี 2562 มีธุรกิจสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น ถึง 11 ราย ครองอันดับ 4 ของโลก รองจากจีน ที่มีจำนวน 125 ราย สหรัฐฯ 121 ราย และอินเดีย 27 ราย

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลี  ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสตาร์ทอัพยูนิคอร์น 11 ราย ประกอบด้วย

1. COUPANG  เป็นสตาร์ทอัพที่ทำธุรกิจอีคอมเมิร์ชใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเกาหลี มีรายได้ 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มีจุดแข็งในด้านการขนส่งสินค้าที่รวดเร็ว ส่งสินค้าถึงมือลูกค้าภายใน 24 ชั่วโมง

2. Bluehole  เป็นบริษัทผู้พัฒนาเกมส์ โดยเกมที่มีชื่อเสียง คือ PUBG (Player Unknown's Battlegrounds) มีผู้เล่นมากถึง 1 ล้านคน ไม่เพียงเท่านั้นยังมีสตูดิโอผลิตผลงาน  และมีแบรนด์ Krafton เป็นตัวแทนของผู้พัฒนาเกมส์ ปัจจุบันมีมูลค่าธุรกิจสูงถึง 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

3. Woowa Brother  เป็นผู้พัฒนาแอพลิเคชั่นส่งอาหารที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี ชื่อ Baedal Minjok มีมูลค่าธุรกิจ 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ถูกบริษัทเยอรมนีซื้อกิจการไป

4. Yello Mobile  เป็นธุรกิจที่เริ่มต้นจากบริษัทที่ทำการตลาด และควบรวมกับหลายหน่วยธุรกิจ ปัจจุบันให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ เมืองอัจฉริยะ และการค้าขายผ่านสื่อ และได้เข้าไปถือหุ้นบริษัท Daily Financial Group ที่ดูแลธุรกิจฟินเทคและธุรกรรมออนไลน์ ทำให้ปัจจุบันมีมูลค่าธุรกิจสูงถึง 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯเช่นกัน 

5. WeMakePrice  เป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ช คู่แข่งสำคัญของ Coupang มีจุดแข็งคือ การเน้นการสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งออนไลน์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ ปัจจุบันมีมูลค่าธุรกิจ 2,330 ล้านเหรียญสหรัฐ

6. Viva Republica (Toss)  เป็นสตาร์ทอัพฟินเทค ผู้ผลิตแอพลิเคชั่นการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ TOSS ซึ่งไม่เพียงสามารถใช้โอนเงิน แต่ยังสามารถใช้ตรวจสอบการททำธุรกรรมการเงินผ่านบัญชีธนาคารและบัตรเครดิต และใช้ในการลงทุน ขอสินเชื่อ การทำประกันภัย และการจัดการเครดิต โดยปัจจุบันมีมูลค่าธุรกิจ 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐ

7. MUSINSA  เป็นแพลตฟอร์มแฟชั่นออนไลน์ที่เจาะกลุ่มลูกค้าระหว่าง 18-24 ปี จุดแข็งคือไม่ได้ใช้แบรนด์ที่คุ้นเคยหรือแบรนด์ที่มีชื่อเสียง แต่ใช้วิธีคอลลาโบเลชั่นระหว่างแบรนด์ เพื่อจัดกิจกรรมพิเศษและมีนิตยสารของตัวเอง ชื่อ Musinsa Magazine เพื่อนำเสนอข้อมูลผ่านไปยังลูกค้า ทั้งนี้ปัจจุบันมีมูลค่าแบรนด์ที่ 1,890 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

8. L&P Cosmetic  เป็นสตาร์ทอัพด้านความงาม มีชื่อเสียงหลังจากนำศิลปินเกาหลีวง BTS มาเป็นพรีเซ็นเตอร์หลัก และยังมีฮยอนบิน และศิลปินอีกหลายคน ประสบความสำเร็จจากการทำตลาดแผ่นมาสก์หน้าแบรนด์ Mediheal ทั้งนี้ปัจจุบันมีมูลค่าธุรกิจที่ 1,780 ล้านเหรียญสหรัฐ

9. GP Club  เป็นสตาร์ทอัพด้านความงามของเกาหลีเช่นกัน มีผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงมากสามารถขยายตลาดไปยังประเทศจีนได้ ปัจจุบันมีมูลค่าธุรกิจ 1,320 ล้านเหรียญสหรัฐ

10. Aprogen  เป็นสตาร์ทอัพเกี่ยวกับไบโอเทครายแรกในเกาหลี ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับวิศวกรรมแอนติบอดี้ และยา มีมูลค่าธุรกิจราว 1,040 ล้านเหรียญสหรัฐ

11. Yanolja  เป็นธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการท่องเที่ยว ให้บริการจองโรงแรม และพัฒนาภาพลักษณ์ของโรงแรม จากโรงแรมเก่าให้เป็นตัวเลือกของนักท่องเที่ยว ปัจจุบันมีมูลค่าธุรกิจ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่หนุนให้เกาหลีพัฒนาสตาร์ทอัพขึ้นสู่ระดับยูนิคอร์นได้อย่างมากเป็นผลจาก

1) การสนับสนุนของรัฐบาล ซึ่งมีประมาณ 15 หน่วยงานที่แบ่งหน้าที่ดูแลสตาร์ทอัพ อาทิ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สนับสนุนการพัฒนานวัตกรรม, Pangyo Technology Valley เป็นที่ของบริษัทเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพ กว่า 1,200 ราย KOCCA หรือ Korea Creative Content Agency  ให้คำปรึกษาและดูแลสตาร์ทอัพ  เป็นต้น

2) ความแข็งแกร่งของการลงทุนและมีเม็ดเงินลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

3) การมีโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรศัพท์มือถือที่แข็งแกร่ง ถือเป็นอันดับ 2 จาก 34 ประเทศในเอเซีย  ที่มีการพัฒนาระบบและเครือข่าย

เกาหลีใต้จึงถือเป็นต้นแบบหนึ่งให้กับประเทศที่ต้องการพัฒนาสตาร์ทอัพทุกๆ ประเทศรวมถึงไทย ซึ่งกำลังจะก้าวสู่ยุค 5G ในไม่ช้า

สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<< 

ฮาวทู 10 Step to Start อย่างไรให้ Up To The Gold

ส่อง Startup ที่ตอบโจทย์เทรนด์ Zero Waste