เมื่ออากาศเย็นมาเยือนในช่วงปลายปี
หลายบริษัทเตรียมการสำหรับการจัดทริปท่องเที่ยวประจำปี
ซึ่งสำหรับหลายบริษัทหรือองค์กรถือเป็นอีกสวัสดิการสำหรับพนักงานไปแล้ว
โดยเฉพาะบริษัทขนาดเล็กในยุคแห่งการแข่งขันสูงและความเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจที่รวดเร็ว
การรับคนเข้าทำงาน เราได้มีการคัดสรรคนที่ใช่มาก่อนแล้ว ดังนั้น การดูแลพนักงานให้มีความสุข
ผูกพัน และเติบโตไปพร้อมกับธุรกิจนับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งยวด
ทริปท่องเที่ยวประจำปีจะเป็นช่วงเวลาแห่งการเสริมสร้างความสามัคคีในหมู่คนทำงาน
สร้างพลังและแรงบันดาลใจให้กับคนในทีม และเป็นเหมือนรางวัลสำหรับทุกคนที่ทุ่มเททำงานกันมาตลอดทั้งปี
ดังนั้น อย่าเผลอไผลปล่อยให้การใช้เวลาร่วมกันกลายเป็นเพียงการสังสรรค์บันเทิง เพราะหากไม่วางแผนกิจกรรมให้ดี
ก็เท่ากับบริษัทต้องสิ้นเปลืองทรัพยากร และเสียโอกาสดีๆ ไปอย่างน่าเสียดาย
ทำอย่างไร ทริปท่องเที่ยวประจำปี จะเป็นโอกาสในการสร้างทีม (Team building) ที่คุ้มค่า?
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1.“ปักธง” แม่นยำ เห็นเป้าหมายชัดเจน
องค์กรต้องตั้งหลักให้ดีว่าทริปท่องเที่ยวประจำปี
จะหมายถึงการใช้เวลาร่วมกัน ซึ่งจะต้องเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขสันต์ แต่นั่นไม่ใช่เป้าหมาย
เพราะที่สำคัญกว่านั้นคือการเสริมพลังทีม เพื่อสร้างความเติบโตให้แก่ธุรกิจด้วยกัน
การเลือกกิจกรรมที่จะทำร่วมกันจึงมีความสำคัญ
ซึ่งกิจกรรมในช่วงพักผ่อนของบริษัทควรไปไกลกว่าการไปเที่ยวทะเล ปีนน้ำตก หรือแค่เล่นเกมเรียกเสียงฮา
แต่สามารถเลือกกิจกรรมที่แฝงเจตนารมณ์เพื่อสังคมขององค์กร
ซึ่งจะเป็นทั้งการสร้างโอกาสในการทำสิ่งที่ดี
และได้ภาคภูมิใจในการทำประโยชน์แก่ผู้อื่นร่วมกัน
รวมไปถึงการมองผู้บริหารและองค์กรในมุมบวกเพิ่มขึ้นอีก
2.สร้างแรงจูงใจให้เข้าร่วม
ระวังอย่าให้เกิดความรู้สึกว่าการไปร่วมทริปประจำปีกับบริษัทเป็นภาระหรือถูกบังคับให้ไป
เพราะสำหรับบางคน การเดินทางหลายวันและต้องค้างคืน หมายถึงการต้องทิ้งครอบครัว
หรือแม้แต่คิดว่าทำให้เสียเวลาทำงาน
การสร้างแรงจูงใจจึงเป็นเรื่องที่ต้องคิดเตรียมไว้ด้วย เช่น อาจให้สิทธิคนที่ร่วมทริปให้เลือกวันทำงานที่บ้านได้
1-2 วันตามช่วงเวลาที่กำหนด หรือให้ทำงานครึ่งวันในวันศุกร์ได้ 1 ครั้ง
แต่ถ้าวิธีเหล่านี้ดูจะกระทบการทำงานมากไป
อาจหาของรางวัลที่ควรเน้นเจตนารมณ์ของบริษัทในการส่งเสริมการดูแลสุขภาพ เพราะการดูแลสุขภาพจะทำให้พนักงานแข็งแรง
ไม่ป่วยไข้ง่าย ไม่ต้องลางานบ่อยๆ เช่น การให้สิทธิพนักงานที่ร่วมทริปสามารถไปทดลองใช้บริการฟิตเนสฟรีตามจำนวนครั้งที่กำหนด
หรือได้บัตรฟรีนวดคลายเมื่อยล้า เป็นต้น
3.กิจกรรมเสริมคุณค่า-ความภูมิใจ
ทุกกิจกรรมควรคำนึงถึงโอกาสที่จะทำให้พนักงานได้มีส่วนร่วม
โดยดึงความสนใจหรือความสามารถของแต่ละคนมาใช้ให้เป็นประโยชน์ เช่น
พนักงานบางคนสามารถนำเพื่อนๆ ฝึกโยคะ บางคนนำกิจกรรมสันทนาการให้เพื่อนๆ
รู้สึกสนุกสนาน นอกจากจะทำให้พนักงานได้รู้สึกภาคภูมิใจและเป็นส่วนหนึ่งของทีมแล้ว
ยังทำให้แต่ละคนได้มองเห็นแง่มุมของเพื่อนนอกเหนือจากการทำงาน
ซึ่งจะทำให้รู้สึกคุ้นเคยและสนิทสนมกันเพิ่มขึ้นด้วย
4.ใจดูแลความรู้สึก
ทุกกิจกรรมต้องคำนึงถึงความสำคัญของพนักงานทุกคนอย่างทั่วถึง
พยายามกระจายความรู้สึกดีๆ ระหว่างกัน สร้างโอกาสการทำกิจกรรมกลุ่ม
การช่วยเหลือซึ่งกันและกันให้มากที่สุด ที่สำคัญต้องระมัดระวังเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
เช่น การยั่วล้อ กระเซ้าเย้าแหย่ที่อาจทำให้บางคนรู้สึกด้อยคุณค่า
สิ่งเหล่านี้จะทำลายความรู้สึกที่ดีต่อตนเองของพนักงาน ต่อคนรอบข้าง
รวมทั้งต่อองค์กรที่ไม่ใส่ใจดูแลความรู้สึกของพนักงาน
5.สร้างความประทับใจให้ทีมงาน
สำหรับผู้บริหาร ทริปท่องเที่ยวประจำปีเป็นโอกาสที่จะแสดงความใส่ใจแก่ทีมงาน โดยเฉพาะต้องให้พนักงานรู้สึกว่าได้รับความสนใจเป็นรายบุคคล เช่น แทนที่จะใช้วิธีให้ฝ่ายบุคคลส่งอีเมลไฟล์กำหนดการถึงทุกคน เพื่อให้แต่ละคนดาวน์โหลดกันเอาเอง ผู้บริหารน่าจะใช้วาระนี้ในการสื่อสารโดยตรงกับพนักงาน เช่นการส่งอีเมลพูดคุยกับทุกคนเพื่อชักชวนให้เข้าร่วมทริป สอบถามความคิดเห็น ข้อเสนอแนะต่างๆ หรือถ้ามีพนักงานจำนวนมาก การส่งอีเมล cc ถึงทุกคนก็ยังให้ความรู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้น