สำหรับพนักงานการได้เลื่อนตำแหน่งโดยไม่ต้องย้ายบริษัท ถือว่าความสำเร็จประการหนึ่ง
ที่ชี้ว่าคุณเป็นคนมีความสามารถจนได้รับการยอมรับจากที่ทำงานของคุณ แต่เรื่องนี้อาจเป็นสิ่งชี้ชะตานายจ้างได้เช่นกัน
เพราะว่าสิ่งที่สำคัญในการบริหารคนอย่างหนึ่งก็คือ
การเลือกโปรโมทพนักงาน ขึ้นเงินเดือน หรือเลื่อนตำแหน่งให้ตรงที่สุด ใช่ที่สุด
ทว่าหลายต่อหลายครั้งที่องค์กรส่วนใหญ่ประสบปัญหาพนักงานดีๆ
ต้องลาออกไป เพราะการที่ตัวเองไม่ถูกโปรโมท ไม่ได้รับการเลื่อนขั้น
หรือขึ้นเงินเดือน นี่เป็นกับดักที่นายจ้างต้องเจอ
เพราะคุณไม่สามารถเลื่อนตำแหน่งหรือโปรโมทให้ได้ทุกคน และบ่อยครั้งที่ตัดสินกันตามระบบอาวุโสหรืออายุงาน
ด้วยเหตุผลนี้เอง
คนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะสมัครงานใหม่ หรือย้ายที่ทำงาน
แทนการรอรับการโปรโมตขึ้นเงินเดือนเลื่อนขั้น นั่นเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้องค์กรสูญเสียพนักงานฝีมือดีไปอย่างน่าเสียดาย
เพราะฉะนั้นต่อจากนี้ไปในอนาคต คุณไม่ควรเอาแค่ปัจจัยการทำงานมานาน อยู่มาก่อน มาเป็นประเด็นหลักในการผลักดันพนักงานสักคนให้เลื่อนขั้น เพราะไม่อย่างนั้นนอกจากจะเป็นการทำให้พนักงานคนเก่งน้อยใจ พาลลาออกแล้ว ยังเป็นการฉุดการทำงานที่ควรจะมีประสิทธิภาพให้ต่ำลงมากกว่าเดิมด้วย และนี่คือ 5 วิธีเลือกพนักงานที่ดี เหมาะสำหรับการเลื่อนตำแหน่งอย่างแท้จริง
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1. พนักงานเก่งที่ของานเพิ่ม
พนักงานคนเก่งส่วนมากมักจะมีความต้องการกระตือรือร้นที่จะแสดงออกถึงศักยภาพของตัวเอง
แม้คุณจะไม่ได้ขอหรือเสนองานต่างๆ ให้เขาก็ตาม เขาจะเข้าหาคุณและพร้อมที่จะของานที่มากขึ้นกว่าเดิม
ให้ตัวเองได้พัฒนา รวมถึงได้แสดงสิ่งที่ตัวเองมี
ใช้ประสบการณ์ทุกอย่างให้เต็มที่และดีมากที่สุด ซึ่งความขยันขันแข็งและไม่กลัวต่อความยากลำบากของงานหนักนี้
ถือว่าเขามีคุณสมบัติที่จะเป็นหัวหน้าคนใหม่ของแผนกนั้นได้อย่างไม่ยากเย็น
2. ทำงานตามเดดไลน์ได้เสมอ
นอกจากความกระตือรือร้นที่จะทำงานแล้ว
การรักษาคำพูด และทำงานตามกำหนดที่ได้รับมอบหมาย ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะใช้สังเกตได้ว่าใครเหมาะสำหรับตำแหน่งที่ต้องมีความรับผิดชอบที่มากขึ้น
อย่างตำแหน่งหัวหน้า เพราะความตรงต่อเวลาเป็นปัจจัยพื้นฐานที่คนเป็นผู้นำต้องมี
เนื่องจากการดีลงานกับลูกค้าต่างๆ คุณต้องรักษาเดดไลน์ให้ดี ทำงานให้ตรงต่อเวลา
เพื่อสร้างเครดิตการทำงานให้เกิดขึ้น
และการรักษาคำพูดเสมอนี้จะช่วยให้องค์กรของคุณน่าเชื่อถือ ลูกค้าไว้ใจได้
และอยากใช้บริการกับคุณต่อไป ซึ่งไม่ใช่แค่ลูกค้าเท่านั้น
แต่ลูกน้องในสังกัดเองก็จะเคารพเขาคนนี้เช่นกัน
3. เข้ากับทุกคนในองค์กรได้ดี
หัวหน้าที่ดีต้องเป็นคนที่ใจเย็น
ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย และสามารถเข้ากับพนักงานทุกคนได้อย่างสนิทใจ
ซึ่งตรงนี้เป็นปัญหาใหญ่ที่หัวหน้าส่วนมากต้องเจอ เมื่อคุณจะโปรโมทใครสักคนจากพนักงานธรรมดาให้มามีตำแหน่ง
มีอำนาจที่เพิ่มมากขึ้น เขาเหล่านั้นอาจจะเคยไม่ถูกกันกับคนในองค์กรคนไหน
หรือมีพฤติกรรมที่แบ่งฝ่ายอย่างชัดเจน ตรงนี้จะส่งผลกระทบต่อการทำงานในอนาคตโดยตรง
เพราะเมื่อได้รับการแต่งตั้งไปเรียบร้อย เมื่อนั้นเขาอาจแสดงสิ่งที่ไม่เหมาะสมในการเล่นพรรคเล่นพวก
หรือมีการเมืองภายในที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง และเป็นชนวนให้เกิดการวางยาในการทำงาน
หรือการลาออกของพนักงานส่วนใหญ่ได้ เพราะฉะนั้นทางที่ดีโปรโมทคนที่มีความสามารถและเข้ากับทุกคนได้ดีไม่มีศัตรูในออฟฟิศดีที่สุด
4. ศักยภาพถึงหรือจัดการทุกสิ่งได้
ต่อให้หัวหน้าที่คุณต้องการโปรโมทนั้น
เขาจะไม่สามารถทำงานทุกอย่างได้ตามที่คาดหวัง
แต่หากเขาสามารถจัดการในแนวทางของตัวเอง หรือหาทางออกให้กับปัญหาได้ทุกครั้ง
นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะเลื่อนขั้นให้เขาได้
เพราะการทำงานไม่ใช่ว่าคุณจะต้องให้เขาทำงานคนเดียว แบกรับทุกสิ่งทุกอย่างไว้เอง
เขาสามารถใช้งานคนรอบตัว พนักงานในทีม รวมถึงสามารถใช้วิธีการแก้ปัญหาอื่นๆ
เข้ามาร่วมด้วยได้
ดังนั้นอย่าตัดสิทธิ์ใครสักคนเพียงแค่เขาไม่สามารถจัดการบางสิ่งได้ด้วยตัวเอง
แต่ให้โอกาสกับทุกคนที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ดูบทสรุปสุดท้ายก็พอ
หากเขาคนนั้นพาองค์กรผ่านพ้นอุปสรรคได้จริง นั่นก็ถือว่ามีคุณสมบัติเพียงพอแล้ว
5. ลิสต์ข้อดี ข้อเสีย ของทุกคนออกมากองรวมกัน
การจะเลือกหัวหน้า หรือคนที่ได้รับการโปรโมทได้ดีที่สุด นั่นคือการเอาข้อดีมาลบกับข้อเสีย คุณอาจจะทำหมวดหมู่ต่างๆ ให้แบ่งคะแนนจากมากไปน้อย เช่น ทำงานตรงเวลา 5 คะแนน แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า 4 คะแนน เข้ากับคนอื่นได้ดี 3 คะแนน และไล่ไปตามคุณสมบัติหัวหน้าที่คุณต้องการ จากนั้นใส่คะแนนให้กับทุกคนที่คุณต้องการโปรโมท เมื่อครบแล้วคุณจะเห็นได้ทันทีว่าใครที่มีคะแนนเยอะที่สุด ซึ่งคนคนนั้นจะเหมาะสมสำหรับการเป็นหัวหน้าคนใหม่อย่างแน่นอน โดยไม่ต้องวัดที่ความอาวุโสหรืออายุงานแต่อย่างใด
เทคนิคการเลือกพนักงานให้คนเก่งจริงได้มารับหน้าที่ที่มีเกียรตินี้
นอกจากจะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ของคุณแล้ว
ยังเป็นเหมือนการสร้างกำลังใจให้พนักงานหน้าใหม่
และคนรุ่นใหม่ให้อยากมาร่วมงานกับคุณ
พร้อมสร้างความกระตือรือร้นให้เขาผลิตผลงานที่มีศักยภาพต่อไป
เพื่อสักวันจะได้รับการโปรโมทบ้างแม้จะเพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่นานก็ตาม
อีกข้อที่สำคัญเช่นกัน ‘เก่งอย่างเดียวเป็นผู้นำที่ดีไม่ได้’ จะต้องประกอบด้วยบุคลิก นิสัยใจคอและการตัดสินใจ การเลื่อนตำแหน่งระดับหัวหน้างานกลุ่มย่อยๆ อาจใช้เทคนิคนี้ได้ แต่ถ้าเป็นตำแหน่งหัวหน้าระดับสูงที่ควบคุมคนจำนวนมาก หัวข้อที่ระบุมาย่อมไม่พอ