หน้าที่สำคัญของการเงินในธุรกิจ ถือเป็นหนึ่งในสี่ของหน้าที่หลักที่สำคัญขององค์กรธุรกิจ อันได้แก่ การจัดการการผลิต การตลาด และการเงิน ซึ่งการบริหารการเงินที่ดีจะช่วยให้ธุรกิจของคุณมั่นคงและสำคัญในชีวิตมากขึ้น วันนี้เราจะแนะนำแนวทางในการวางแผนการเงินแบบมืออาชีพ เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับปัญหาในอนาคตได้ รวมถึงการวางแผนการเงินจะช่วยให้คุณใช้จ่ายเป็นไปตามแผนที่วางไว้
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
การจัดการด้านการเงิน สำหรับธุรกิจ SME
1. ตรวจสอบสถานะเงินสดอยู่เสมอ
ผู้ประกอบการจำเป็นต้องรู้ว่าบัญชีบริษัทมีเงินสดจำนวนเท่าไร
มีกำลังเพียงพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องต่อการดำเนินธุรกิจหรือไม่
ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตรวจสอบสถานะการเงินทุกสัปดาห์
เพื่อเราจะได้ทราบถึงจำนวนรายรับรายจ่าย
รวมถึงเงินที่ยังคงค้างชำระเงินจากลูกหนี้หรือคู่ค้า
ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เรานำมาวิเคราะห์สถานการณ์และวางแผนการบริหารจัดการเงินสดเพื่อนำไปใช้จ่ายต่อไปได้
2. เก็บข้อมูลการเงินอย่างเป็นระบบ
การบันทึกรายรับรายจ่ายหรือการทำบัญชีจะทำให้คุณรู้ที่มาของการเงิน
ทำให้วางแผนในการเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่าย เพื่อช่วยให้ทราบสถานการณ์การเงินอยู่ตลอดเวลา
รวมถึงการทำบัญชียังช่วยให้รับมือกับการจ่ายภาษีและสามารถชี้แจงรายได้ค่าใช้จ่ายให้สรรพากรได้
และอย่าลืมว่าการทำบัญชียังช่วยให้เห็นต้นทุนที่จำเป็นและค่าใช้จ่ายที่ประหยัดได้
3. คิดก่อนใช้
เมื่อคุณเริ่มคิดที่จะทำแผนการเงิน ให้รวมค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและการขายเข้าไปด้วย
ประเมินรายรับที่คาดว่าจะได้นำมาเทียบราคาต้นทุนก่อนที่คุณจะซื้ออะไรก็ตามครั้งต่อไป
คุณสามารถเพิ่มยอดกำไรได้ง่ายๆ ด้วยการยืดการซื้อออกไปเป็นเดือนถัดไป
หรือสามเดือนถัดไป หรือหนึ่งปีถัดไป
4. การบริหารจัดการลูกหนี้และเจ้าหนี้
การบริหารจัดการลูกหนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะต้องมีวิธีจัดการเรียกเก็บเงินจากลูกหนี้ให้ได้เร็วที่สุดยิ่งดีต่อธุรกิจ
สำหรับลูกหนี้ควรจะมีนโยบายในการให้เครดิตคู่ค้า
เพื่อชำระเงินโดยเร็วที่สุดโดยตั้งเป็น 30 หรือ 60
วัน และเร่งรัดหรือหาแรงจูงใจเพื่อให้ลูกหนี้ชำระเงินให้เร็วขึ้น
มีการติดตามทวงหนี้อย่างสม่ำเสมอ และสำหรับเจ้าหนี้ก็ควรชำระเงินให้ตรงตามกำหนด
ไม่ผัดผ่อนหนี้ เพื่อสร้างเครดิตให้เป็นที่น่าเชื่อถือ
5. เข้าสู่โหมดประหยัด
ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นต่อกิจการออกให้หมด
ซึ่ง “ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น” ไม่ได้หมายความว่าลดการใช้จ่ายทุกสิ่งทุกอย่างลง
แต่ให้ตัดสิ่งที่ไม่ส่งผลดีต่อธุรกิจของคุณออกไป
6. การบริหารสภาพคล่องกับทรัพย์สินไม่ได้ใช้งาน
หากธุรกิจของคุณมีเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว
หรือมีสินค้าคงค้างอยู่ในสต็อกเป็นจำนวนมาก และเริ่มเก่าผุพังล้าหลังแล้ว
การขายสิ่งเหล่านี้เพื่อเปลี่ยนเป็นเงินคือสิ่งที่ควรทำ รวมถึงสินค้าคงค้างในสต็อก
ยิ่งเก็บนานวัน สินค้าก็ยิ่งเก่า ตกรุ่น และมูลค่าจะลดลงตามไปด้วย ดังนั้นการจัดกิจกรรมลดราคาก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ควรทำ
ถึงแม้ว่าการขายนั้นจะได้มาในราคาต่ำกว่ามูลค่าของสิ่งของ
แต่ก็ย่อมดีกว่าที่จะปล่อยไว้จนสุดท้ายอาจจะไม่ได้รับอะไรกลับคืนมา
7. ตั้งเป้าหมายระยะสั้นสามารถวัดผลได้
การตั้งเป้าหมายระยะสั้นๆ จะช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ทันเวลา
การตั้งเป้าหมายระยะสั้นจะช่วยให้คุณประเมิณสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี
สามารถรู้ถึงการเติบโตของธุรกิจได้ทันเวลาเสมอ จึงถือเป็นสิ่งที่เราต้องทำอยู่เสมอ
หากคุณไม่อยากล้มเหลวในธุรกิจ สิ่งที่คุณควรทำที่สุดคือการตั้งเป้าหมายและทำตามเป้าหมายที่คุณวางไว้
8. พูดคุยกับที่ปรึกษาทางการเงิน
สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจหรือโควิด
19 การให้ที่ปรึกษาทางการเงินเข้ามาช่วยให้คำแนะนำก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดี
เพราะจะได้รับการช่วยเหลือทั้งการบริหารการเงิน การลงทุน
รวมถึงการตั้งเป้าหมายทางการเงินใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
ในช่วงเศรษฐกิจที่กำลังปั่นป่วนไปตามการระบาดของโควิด
19 การบริหารการเงินจึงเป็นเรื่องสำคัญเป็นลำดับแรกๆ ที่ผู้ประกอบการต้องใส่ใจและให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
มีมาตรฐานในการดำเนินงาน การบริหาร การจัดการที่เป็นขั้นตอนเป็นระบบระเบียบอย่างเคร่งครัด
เพื่อให้ธุรกิจ SME อยู่รอดแม้ต้องเผชิญวิกฤตต่างๆ