คำอธิบายง่ายๆ สำหรับคำจำกัดความของ ‘คลาวด์’
หรือ Cloud Storage คือชุดเซิร์ฟเวอร์และกลุ่มเซิร์ฟเวอร์ศูนย์ข้อมูลที่กระจายอยู่ทั่วโลก
ที่เราสามารถเก็บข้อมูล ดึงข้อมูล และแก้ไขได้
ซึ่งแตกต่างจากบล็อกเชนที่แม้จะเป็นการเก็บข้อมูลเช่นเดียวกันแต่การแก้ไขทำได้ยาก
เพราะข้อมูลจะถูกเก็บอยู่ในแต่ละบล็อก (Block) ที่เชื่อมโยงกันบนเครือข่ายเหมือนกับห่วงโซ่
(Chain) อันเป็นที่มาของชื่อเรียกว่า ‘Blockchain’ นั่นเอง
ดังนั้น คลาวด์กับ บล็อกเชน จึงมีการนำมาใช้ประโยชน์ในการจัดเก็บข้อมูลที่แตกต่างกัน ซึ่งคนส่วนใหญ่มักคุ้นเคยกับคลาวด์มากกว่า เนื่องจากสะดวกและยืดหยุ่น สามารถลบหรือเพิ่มตามความต้องการของเจ้าของข้อมูลและควบคุมค่าใช้จ่ายได้ จัดเก็บได้อย่างรวดเร็วและใช้ง่าย โดยในปัจจุบันมีผู้ให้บริการด้าน Cloud รายใหญ่ของโลกดังนี้
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1. Amazon Web Services S3 (AWS)
Amazon ไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มขายออนไลน์
แต่ยังเป็นตัวพ่อของผู้ให้บริการคลาวด์ขององค์กรตั้งแต่ปี 2549 และนับเป็นผู้ให้บริการคลาวด์รายแรกของโลก โดยที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัวแพลตฟอร์ม
as-a-service และได้ทำหน้าที่เป็นต้นแบบสำหรับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์และบริการคอมพิวเตอร์อื่นๆ
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ในปีเดียวกันนี้ยังเปิดตัว Elastic Cloud Compute
(EC2) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการประมวลผลที่ให้บริการประมวลผลข้อมูลเสมือนจริงที่เรียกว่าบริการ
Data Lake พื้นที่เก็บส่วนกลางซึ่งช่วยให้คุณจัดเก็บข้อมูลที่มีและไม่มีโครงสร้างในทุกขนาดได้
คุณสามารถจัดเก็บข้อมูลตามที่เป็นโดยไม่ต้องวางโครงสร้าง
และยังสามารถใช้การวิเคราะห์ประเภทต่างๆ ได้
ตั้งแต่แดชบอร์ดและการแสดงภาพไปจนถึงการประมวลผล Big Data การวิเคราะห์แบบเรียลไทม์
และ Machine Learning เพื่อกำหนดแนวทางการตัดสินใจที่ดีขึ้นภายใต้ชื่อ
Amazon Simple Storage Service (S3) ซึ่งมีบริษัทและองค์กรนับล้านทั่วโลกใช้บริการ
2. Microsoft Azure Data Lake
Microsoft เปิดตัวในปี 2554 และเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อนำเสนอชุดเครื่องมือและบริการเต็มรูปแบบ
ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้องค์กรที่ทำงานกับชุดข้อมูลขนาดใหญ่ สามารถดำเนินการทั้งหมดในระบบคลาวด์ได้
Microsoft มีประสบการณ์ในการดำเนินการประมวลผลและวิเคราะห์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ซึ่งรวมถึง Office 360, Skype และ Xbox Live ของตัวเอง จุดแข็งคือการรักษาความปลอดภัยและการกำกับดูแลระดับองค์กร รวมถึงการผสานรวมกับเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง
โดยชุดบริการของ Azure ประกอบด้วย Azure Data
Lake ซึ่งสร้างขึ้นโดยเฉพาะเพื่อรองรับความต้องการของธุรกิจและองค์กรที่มีความต้องการข้อมูลที่ซับซ้อน
3. Google Cloud Storage
หลายๆ คนคงคุ้นเคยบริการนี้ของ Google ซึ่งแพลตฟอร์มคลาวด์ของ Google สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีเดียวกับ Youtube และ Google
Search ด้วยความสามารถในการปรับขนาดและความแม่นยำของข้อมูลขั้นสูง นอกจากนี้ยังมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลและบริการอีกจำนวนมาก
ภายใต้แบนเนอร์ของ Google Cloud Storage ซึ่งออกแบบมาให้ปรับขนาดได้เพื่อรองรับกับทุกขนาดของธุรกิจ
และปริมาณของข้อมูล และแถมยังมีแพคเก็จตามราคาที่ต้องการใช้จริงอีกด้วย
4. Oracle Cloud
Oracle มีให้บริการสำหรับธุรกิจต่างๆ
ผ่านบริการ Oracle Cloud ซึ่งนำเสนอพื้นที่เก็บข้อมูลที่ยืดหยุ่นและปรับขนาดได้
พร้อมกับชุดการวิเคราะห์บนคลาวด์และบริการประมวลผลข้อมูล
บริการนี้ได้รับการจัดอันดับสูงสำหรับคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง รวมถึงการเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดที่ส่งไปยังแพลตฟอร์มแบบเรียลไทม์
แพลตฟอร์มนี้ใช้กระบวนการแมชชีนเลิร์นนิงขั้นสูงที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ Oracle
เพื่อช่วยดำเนินการข้อมูลหลายอย่างที่คุณอาจต้องการดำเนินการโดยอัตโนมัติ
รวมถึงลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากการป้อนข้อมูลด้วยตนเอง
5. IBM Cloud
ที่ผ่านมา IBM ได้นำเสนอโซลูชัน Data Lake ที่แตกต่างกันจำนวนมากขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณทั้งหมด
รวมศูนย์ไว้ที่แพลตฟอร์ม IBM Cloud (เดิมชื่อ Bluemix)
เช่นเดียวกับโซลูชันอื่นๆ ที่สามารถเริ่มต้นตั้งแต่การใช้ฟรี
และสามารถขยายขนาดเมื่อคุณเริ่มสร้างและจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากขึ้น แพลตฟอร์มของ IBM
ผู้ใช้สามารถเลือกระหว่างที่เก็บอ็อบเจ็กต์หน่วยเก็บข้อมูลบล็อกหรือที่เก็บไฟล์
ขึ้นอยู่กับโครงสร้างข้อมูลที่พวกเขากำลังทำงานด้วย ไอบีเอ็มนำเสนอเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลในรูปแบบของแพลตฟอร์ม
AI ที่สามารถผสานรวมกับข้อมูลที่จัดเก็บไว้บนบริการคลาวด์ของ
IBM ได้อย่างสมบูรณ์
6. Alibaba Cloud
Alibaba Cloud (เดิมชื่อ
Aliyun) ปัจจุบันเปิดตัวในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยแล้ว
แต่ยังไม่เป็นที่นิยมในประเทศตะวันตกเท่ากับ "Big 3" คือ Google, AWS และ Microsoft แต่ก็มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามในฐานะผู้ให้บริการคลาวด์ Big
Data ชั้นนำในประเทศจีนมีฐานผู้ใช้จำนวนมากในเอเชีย และมีเครื่องมือวิเคราะห์ความปลอดภัยและ
AI ที่หลากหลายเช่นเดียวกับแพลตฟอร์มในสหรัฐอเมริกา
ให้บริการแบบจ่ายตามการใช้งานและแบบสมัครสมาชิกรายเดือน
จึงเป็นรายที่หลายคนมองว่าจะสามารถเบียดขึ้นชั้นไปเป็น Big 4 ได้ไม่ยาก
ปัจจุบันนี้ในประเทศไทยเองก็มีผู้ให้บริการคลาวด์ที่เป็นธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ
โดยเฉพาะในยุคที่ข้อมูลต่างๆ เป็นสิ่งมีค่าสำหรับทุกธุรกิจ ยิ่งทำให้ธุรกิจผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูลโดย Gartner บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาด้านไอทีชั้นนำของโลก
ประเมินว่าภาพรวมธุรกิจให้บริการคลาวด์ คอมพิวติ้ง ในปี 2562-2568
จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 21% เนื่องจากความต้องการพื้นที่เพื่อจัดเก็บและจัดการ Big Data ที่มีอัตราเติบโตอย่างมาก
และยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต จากการขยายตัวของสังคมออนไลน์
ส่งผลให้การใช้งาน Cloud กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันและการทำงานในยุคดิจิทัลที่เป็นเมกะเทรนด์ของโลก
แหล่งอ้างอิง :
