6 เรื่องควรรู้ เมื่อผู้ป่วย ‘โควิด’ กักตัวอยู่บ้าน

Edutainment
31/07/2021
รับชมแล้วทั้งหมด 2254 คน
6 เรื่องควรรู้ เมื่อผู้ป่วย ‘โควิด’ กักตัวอยู่บ้าน
banner

ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ในสภาวะฉุกเฉิน มีจำนวนผู้ป่วยมากกว่าจำนวนเตียงในโรงพยาบาล ด้วยเหตุนี้ผู้ป่วยอาจจำเป็นต้องมีการกักตัวที่บ้านเพื่อสังเกตอาการของตัวเอง โดยที่ผ่านมากรมการแพทย์ได้ออกแนวทางการแยกกักผู้ป่วยโควิด 19 ในชุมชน เพื่อให้ผู้ติดเชื้อสามารถใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ ช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อ จึงควรทำความเข้าใจถึงการหลักการสำคัญของการกักตัวที่บ้าน 6 ข้อดังนี้

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

1. กักตัวที่บ้านเหมาะกับผู้ป่วยประเภทไหน?

ผู้ป่วยที่เพิ่งตรวจพบว่ามีการติดเชื้อและเป็นผู้ป่วยสีเขียว คือผู้ป่วยที่เพิ่งติดเชื้อแต่เป็นกลุ่มที่ไม่แสดงอาการ ผู้ป่วยที่มีอาการน้อยและยังสามารถหายใจเองได้ อาการโดยรวมของผู้ป่วยกลุ่มนี้คือ มีไข้ เมื่อวัดอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป มีอาการ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส อาจมีอาการตาแดง มีผื่น ถ่ายเหลว ไม่มีอาการหายใจเร็ว หรือหายใจลำบาก ไม่มีอาการหายใจเหนื่อย ไม่มีอาการปอดอักเสบ

อีกกลุ่มคือผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาในโรงพยาบาล 7-10 วันแล้ว ซึ่งมักเป็นผู้ติดเชื้อที่มีโรคประจำตัวจัดอยู่ในโรคกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ที่มีภาวะอ้วน หรือมีโรคประจำตัวเป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) โรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ เมื่อติดเชื้อแล้วรับการรักษาจนผ่านภาวะวิกฤตที่ต้องพึ่งเครื่องช่วยหายใจและกลับเข้าสู่ภาวะหายใจเองได้ ดูแลตัวเองได้ เพียงแต่ยังมีเชื้อในปริมาณน้อยอยู่ในร่างกาย และแพทย์วินิจฉัยให้สามารถกลับมากักตัวที่บ้านจนหายเป็นปกติ

 

2. กักตัวที่บ้านเพื่ออะไร?

เพื่อแยกผู้ติดเชื้อออกจากคนปกติ ลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อโรคสู่บุคคลอื่นที่อยู่ใกล้ชิด และติดตามอาการของผู้ป่วยเองเพื่อให้ได้รับการรักษาได้ทันการ และเพื่อช่วยเพิ่มโอกาสทางการรักษาแก่ผู้ที่อยู่ในภาวะวิกฤตเร่งด่วน

 

3. การเตรียมสถานที่และอุปกรณ์ เพื่อทำการกักตัวที่บ้าน

- จัดสถานห้องพัก และอุปกรณ์เครื่องใช้ส่วนตัวแยกต่างหากให้เป็นสัดส่วน เช่น ห้องนอน ที่นอน และห้องน้ำแยกจากผู้อื่น และห้องน้ำควรอยู่ภายในห้องพัก ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่แยกไม่ได้ อาจใช้แผ่นพลาสติกกั้นห้องเพื่อแบ่งสัดส่วนชั่วคราว ควรเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทสะดวก หากแยกห้องน้ำไม่ได้ ให้เรียงลำดับการใช้ โดยให้ผู้ติดเชื้อใช้เป็นคนสุดท้ายและทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทันทีหลังใช้เสร็จ

- รักษาอนามัยส่วนบุคคล โดยต้องล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล 70% หรือสบู่ทุกครั้งก่อนและหลังสัมผัสสิ่งของที่ต้องใช้ร่วมกับคนอื่น และต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา แยกซักเสื้อผ้าเองโดยแช่น้ำยาฆ่าเชื้อก่อนทำการซัก และให้งดการสัมผัสหรือเล่นกับสัตว์เลี้ยงชั่วคราว ควรแยกทานอาหารอยู่ภายในห้องของผู้ป่วยเพียงลำพัง กำหนดจุดรับอาหารให้ชัดเจนเพื่อป้องกันความเสี่ยงของการแพร่กระจายเชื้อจากการสัมผัสโดยตรง และควรล้างจานให้เสร็จภายในห้องผู้ป่วย และแช่ภาชนะใส่อาหารในน้ำยาฆ่าเชื้อ ก่อนนำมาใช้ใหม่ เมื่อใช้ชักโครกให้ปิดฝาทุกครั้งก่อนกดชักโครก เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ทิ้งขยะในถุงและมัดปากถุงให้แน่นหนาแยกทิ้งบริเวณขยะติดเชื้อ เพื่อนำไปทำการฆ่าเชื้อก่อนนำไปทิ้งรวมกับขยะทั่วไป

- การเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค มักประกอบด้วยสบู่หรือสารลดแรงตึงผิวซึ่งจะช่วยลดจำนวนเชื้อโรคบนพื้นผิว และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อบนพื้นผิว การทำความสะอาดเพียงอย่างเดียวก็สามารถช่วยขจัดไวรัสได้ โดยผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับทำความสะอาด ได้แก่ น้ำสบู่ผงซักฟอกหรือน้ำยาทำความสะอาด

 

4. การเฝ้าระวังตัวเองควรทำอย่างไร?

ควรใช้เทอร์โมมิเตอร์ตรวจวัดไข้ทุกวัน สังเกตอาการผิดปกติต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยเข้าสู่ภาวะผู้ป่วยสีเหลือง คือมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวกเมื่อทำกิจกรรมต่างๆ หายเร็ว เหนื่อย หรือหายใจลำบาก เหนื่อยเมื่อไอ แสดงถึงอาการปอดอับเสบ มีภาวะอ่อนเพลีย เวียนหัว ถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครั้งใน 1 วัน ร่วมกับหน้ามืด วิงเวียน

สำหรับผู้ป่วยสีเขียวที่เข้าสู่สีเหลืองควรเฝ้าติดตามและวัดค่าปริมาณความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด ซึ่งสามารถแสดงให้ทราบได้หากอาการเข้าสู่ภาวะผู้ป่วยสีแดง ค่าปริมาณความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดต่ำกว่า 96% โดยอาการที่ชัดเจนของภาวะเชื้อลงปอดคือเกิดภาวะปอดบวม ซึ่งทำให้ผู้ป่วยเป็นอาการ หอบเหนื่อย พูดไม่เป็นประโยค แน่นหน้าอกตลอดเวลา และเจ็บหน้าอกขณะหายใจ ตอบสนองช้า

5. ต้องกักตัวนานเท่าไร?

เนื่องจากเชื้อไวรัสโควิด 19 สามารถอยู่ในร่างกายได้นานประมาณ 14-28 วัน จึงมีความจำเป็นต้องแยกตัวเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อสู่ผู้อื่น โดยทำการกักตัวเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน และควรทำการตรวจปริมาณเชื้อในเลือดเพื่อยืนยันว่า หายขาดจากอาการติดเชื้อแล้ว

 

6. ควรปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อเริ่มกักตัว

- หมั่นล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างกับญาติและผู้อยู่อาศัยร่วมบ้าน

- ควรหมั่นออกกำลังกาย โดยยืดเหยียด เดินในพื้นที่ๆ สามารถเคลื่อนไหว และมีระยะห่างจากผู้อื่น

- วางแผนสิ่งที่อยากทำคร่าวๆ ใน 14 วัน เพื่อให้มีเป้าหมายว่าจะอะไรบ้างเพื่อเป็นการผ่อนคลาย

- ควรดูแลจิตใจตนเอง ผ่อนคลายความเครียด หายใจ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ฝึกสติ (โปรแกรมออนไลน์)

 

แหล่งอ้างอิง : คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, กรมการแพทย์, กรมสุขภาพจิต  


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

เปรียบเทียบ IG Algorithm แบบเก่า vs ใหม่

เปรียบเทียบ IG Algorithm แบบเก่า vs ใหม่

รู้หรือไม่? Instagram Algorithm มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ! Bangkok Bank SME สรุปมาให้แล้วว่า IG Algorithm แบบเก่ากับแบบใหม่ต่างกันอย่างไร…
pin
50 | 13/03/2025
30+ เครื่องมือ AI สำหรับธุรกิจในปี 2025

30+ เครื่องมือ AI สำหรับธุรกิจในปี 2025

ปฏิเสธไม่ได้ว่า Generative AI ได้กลายมาเป็นผู้ช่วยคนสำคัญสำหรับการทำธุรกิจในวันนี้.โดยผลสำรวจของ Gartner พบว่า 42% ในปี 2025 มากกว่า 60%…
pin
64 | 27/02/2025
ตรุษจีนยุคใหม่ไร้ Foodwaste เคลียร์ของไหว้เป็นเมนูเด็ด แถมลดโลดร้อน

ตรุษจีนยุคใหม่ไร้ Foodwaste เคลียร์ของไหว้เป็นเมนูเด็ด แถมลดโลดร้อน

ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมยังคงเป็นประเด็นที่คนทั่วโลกให้ความสนใจ เพราะยิ่งนับวัน การคืบคลานเข้ามาของสภาวะโลกร้อนที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อหลายภาคส่วน…
pin
1281 | 07/02/2024
6 เรื่องควรรู้ เมื่อผู้ป่วย ‘โควิด’ กักตัวอยู่บ้าน