เคล็ดลับโพสต์ขายของในเฟซบุ๊กกรุ๊ปให้คนเห็นเยอะและสนใจ

หนึ่งในแพลตฟอร์มยอดฮิตสำหรับการทำธุรกิจ หรือค้าขายบนโลกออนไลน์ในไทยก็คือ Facebook เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่คนทุกรุ่น เล่นแทบจะทุกเวลา ตั้งแต่ตื่นมายันก่อนนอน ดังนั้นโอกาสที่จะสไลด์ไทม์ไลน์แล้วเลื่อนผ่านมาเจอหน้าร้านของคุณก็มีความเป็นไปได้สูง แต่ปัญหาคือผู้ขายส่วนใหญ่มักจะให้ความสนใจกับการขายสินค้าบนแฟนเพจซะมากกว่า เนื่องจากสามารถยิงโฆษณาได้ง่าย และเหตุผลอีกหลายอย่าง แต่จะดีกว่าไหม หากคุณสามารถลงขายสินค้าให้คนเห็นเยอะได้ และสนใจซื้อโดยที่ไม่ต้องเสียค่าโฆษณา ด้วยการโพสต์ขายของในเฟซบุ๊กกรุ๊ป

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

เหตุผลที่คุณควรลงโพสต์ขายของในเฟซบุ๊กกรุ๊ป

ในปัจจุบันนี้ทางเฟซบุ๊กเองได้สนับสนุนฟังก์ชันการโพสต์ขายของในหลายรูปแบบ เช่น ลงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ลงขายบนเพจ เฟซบุ๊กกรุ๊ป ฯลฯ ส่วนใหญ่ที่เรามักจะพบก็คือ การลงขายผ่านเพจ เพราะป้องกันการรบกวนเพื่อนในเฟซบุ๊กส่วนตัว จัดการร้านค้าได้เป็นระบบ ยิงโฆษณาได้ และเหตุผลอื่นๆ อีกมากมาย แต่วิธีขายของผ่านเฟซบุ๊กที่เราจะแนะนำวันนี้ เป็นการโพสต์ขายของในเฟซบุ๊กกรุ๊ป ซึ่งมีข้อดีมากมายไม่แพ้กัน ได้แก่ ไม่เปลืองค่าโฆษณา โอกาสที่จะเจอลูกค้าที่ต้องการสินค้าของคุณมีเปอร์เซ็นต์สูง หากเลือกกรุ๊ปเหมาะสม เพิ่มความน่าเชื่อถือได้มากกว่าสำหรับร้านใหม่ เพราะเป็นแอคเคาท์ผู้ใช้งานจริง ไม่ใช่แฟนเพจพึ่งสร้าง ฯลฯ

เคล็ดลับโพสต์ขายของในเฟซบุ๊กกรุ๊ป

เพราะการจะโพสต์ขายของในเฟซบุ๊กกรุ๊ปแม้จะดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่การจะขายได้กลับไม่ใช่เรื่องง่ายเลย บทความนี้จึงขอเก็บเคล็ดลับเกี่ยวกับการโพสต์ขายในเฟซบุ๊กกรุ๊ปให้น่าสนใจ และคนเห็นเยอะมาฝากกัน

1. เจอกรุ๊ปดีเหมือนมีตลาดทำเลงาม

ทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ยังคงเป็นคำกล่าวที่จริงเสมอ แม้แต่กับการลงขายในเฟซบุ๊กกรุ๊ปก็ตาม ซึ่งคุณควรโพสต์ขายให้ถูกกรุ๊ป เพื่อให้มีโอกาสพบเจอกับกลุ่มเป้าหมายสินค้า/บริการของคุณได้ง่ายขึ้น เนื่องจากแต่ละกรุ๊ปมีการรวมตัวกันของสมาชิกที่มาจากการสนใจในเรื่องเดียวกัน คุณต้องค้นหาตลาด หรือกรุ๊ปที่เหมาะกับสินค้า/บริการของคุณให้เจอ โดยอาจเสิร์ชคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องเพื่อค้นหากลุ่มก่อน จากนั้นดูกฎก่อนเข้าร่วมกรุ๊ปว่าสามารถโพสต์ขายของได้หรือไม่ จากนั้นเมื่อตัดสินใจเข้าร่วมกรุ๊ปและได้รับอนุมัติให้เข้ากรุ๊ปแล้ว อาจลองดูการเคลื่อนไหวภายในกรุ๊ปดูซักระยะก่อนลงโพสต์ก็ได้

2. เพิ่ม Engagement ภายในกรุ๊ป

อย่าคิดแต่จะโพสต์ขายของอย่างเดียว คุณควรที่จะเพิ่ม Engagement ให้แอคเคาท์ของตัวเองมีสมาชิกในกลุ่มเห็นมากขึ้น รวมถึงสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์หรือร้านค้าของคุณได้ ด้วยการแนะนำความรู้ ตอบข้อสงสัย หรือพูดคุยกับโพสต์ของผู้อื่นบ่อยๆ เมื่อสมาชิกภายในกลุ่มมาปฏิสัมพันธ์กับแอคเคาท์คุณบ้าง เช่น พูดคุย กดไลค์ ฯลฯ เมื่อคุณโพสต์ลงขายของ สมาชิกที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับแอคเคาท์คุณก็จะเห็นแน่นอน หากจดจำกันได้เขาก็อาจจะช่วยกดไลค์ทำให้โพสต์ของคุณมีแนวโน้มได้รับผลตอบรับที่ดีมากขึ้น แต่ทั้งนี้ก็อย่าโพสต์ขายของถี่จนเกินไป เพราะผู้คนอาจจะกดซ่อนหรือบล็อกเฟซบุ๊กของคุณแทนที่จะมาสนใจก็เป็นได้

3. สร้างคอนเทนต์น่าสนใจไม่ฮาร์ดเซลล์

ในบางกลุ่มที่มีสมาชิกอยู่เป็นจำนวนมาก ย่อมมีผู้คนหลากหลายความคิด หลากหลายความชอบ บางคนชอบดูสินค้าใหม่ในสิ่งที่ตัวเองสนใจ แต่บางคนก็ไม่ค่อยอยากเห็นโพสต์ขายของซักเท่าไหร่ เราจึงขอแนะนำให้คุณสร้างคอนเทนต์ที่เป็นแนวความรู้เนื้อหาใหม่น่าสนใจ ไม่ฮาร์ดคอร์จนเกินไป หรือเป็นคอนเทนต์ที่ให้อารมณ์ความรู้สึกร่วม เช่น ทำให้รู้สึกขำขันเฮฮา ฯลฯ แต่แฝงสินค้าหรือบริการให้สมาชิกในกรุ๊ปได้รับรู้และสนใจ

4. สร้างกรุ๊ปพิเศษเฉพาะฐานลูกค้า

เมื่อมีการพูดคุยและซื้อขายแล้ว อาจมีการเชิญชวนให้ลูกค้าเข้าเฟซบุ๊กกรุ๊ปที่เราสร้างขึ้นสำหรับลูกค้า และดึงดูดใจด้วยกิจกรรมกระตุ้นยอดขาย ราคาพิเศษเฉพาะลูกค้าเดิม หรือข้อมูลข่าวสารที่น่าสนใจไวกว่าบนแพลตฟอร์ม หรือกรุ๊ปอื่น เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมให้ภักดีกับแบรนด์หรือร้านของคุณ และสามารถทำ CRM จากฟีเจอร์ Group Insights ในกรุ๊ปของคุณ เพื่อให้สามารถพัฒนาการสื่อสาร และพัฒนาสินค้า/บริการของคุณให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ต่อไป

เฟซบุ๊กกรุ๊ป นับว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางลงขายสินค้า/บริการที่น่าสนใจ หากใช้ให้เป็นและนำเคล็ดลับที่เราได้นำมาฝากมาใช้ ก็มีโอกาสที่จะทำให้คนเห็นเยอะและสนใจจนเกิดการซื้อขายกันได้ไม่ยาก นอกจากนี้อย่าลืมที่จะคอยสังเกตและรับข้อมูลข่าวสาร เกี่ยวกับนโยบายการใช้เฟซบุ๊กและการพัฒนาเปลี่ยนแปลงฟีเจอร์ต่างๆ บนเฟซบุ๊กอยู่เป็นประจำ ก็จะทำให้โพสต์ขายสินค้า/บริการของคุณไปอยู่บนหน้าฟีดของใครอีกหลายคนได้มากกว่าร้านอื่นแน่นอน 

สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<< 

รู้จักทฤษฎี 6W1H ตัวช่วยค้นหาลูกค้าของธุรกิจออนไลน์

Data Marketing เทคนิคบริหารข้อมูลเพื่อเพิ่มยอดขาย