ช่วงนี้หลายๆ บริษัทเริ่มให้พนักงาน Work From Home จำนวนไม่น้อย เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจากไวรัสโควิด 19 ระลอกล่าสุด สิ่งหนึ่งที่ต้องป้องกันและรักษาความปลอดภัยแม้ทำงานที่บ้าน ก็คือความปลอดภัยจากโจรไซเบอร์ โดยเฉพาะข้อมูลบริษัทซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องปกป้องดูแล ไม่ให้โดนแฮก ซึ่งอาจนำมาสู่ความยุ่งยากต่างๆ ได้
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
9 วิธีช่วยรักษาความปลอดภัยองค์กร
1. ติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส
โจรไซเบอร์จะโจมตีแบบสุ่มและมีจำนวนมาก ซึ่งอาจไม่ได้ทำการเข้ารหัสข้อมูลโดยตรง
แต่ก็สามารถขโมยข้อมูลหรือทำให้เกิดความเสียหายกับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้
ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่ดีที่สุดสามารถป้องกันไวรัสได้ 99% อีกทั้งยังสามารถปกป้องสปายแวร์ที่คอยสอดส่องและบันทึกข้อมูลได้
นอกจากนี้ยังปกป้องจากสแปม ดังนั้นลองหาซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่ดีที่มีการตรวจเช็กและอัพเดตทุกวัน
เพื่อปกป้องเครื่องคอมพิวเตอร์และข้อมูลของคุณ
2. ใช้ไฟร์วอลล์
หนึ่งในแนวป้องกันแรกในการโจมตีทางไซเบอร์คือไฟร์วอลล์
ธุรกิจขนาดเล็กก็ควรตั้งค่าไฟร์วอลล์เพื่อให้เป็นอุปสรรคระหว่างข้อมูลและอาชญากรไซเบอร์ นอกเหนือจากไฟร์วอลล์ภายนอกที่มาตรฐานแล้ว
หลายบริษัทกำลังเริ่มติดตั้งไฟร์วอลล์ภายในเพื่อให้มีการเพิ่มเติมระบบป้องกันการโจมตีบนโลกไซเบอร์ สิ่งสำคัญคือพนักงานที่ทำงานจากที่บ้าน ควรติดตั้งไฟร์วอลล์บนเครือข่ายภายในบ้านของพวกเขาเช่นกัน
3. เก็บสำรองข้อมูล
ธุรกิจทั้งหมดควรสำรองข้อมูลสำคัญอย่างสม่ำเสมอ ข้อมูลที่สำคัญเช่น รายละเอียดลูกค้า
ใบแจ้งหนี้ ข้อมูลทางการเงินและอื่นๆ ล้วนมีความสำคัญต่อธุรกิจของคุณ
หากข้อมูลนั้นหายไปมันจะเป็นหายนะ ฉะนั้นการสร้างการสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ
สามารถทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลสำคัญทั้งหมดจะสามารถกู้คืนได้ตลอดเวลา
ยิ่งไปกว่านั้นการสำรองข้อมูลสามารถทำได้โดยอัตโนมัติ เพื่อให้กำลังคนไม่ต้องเสียไปกับการทำกิจวัตรประจำวัน
4. กำหนดสิทธิ์ผู้ใช้
การบริหารจัดการสิทธิ์ของผู้ใช้เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมากในการป้องกันความเสียหายจาก
Cyber Crime ผู้ใช้งานทั่วไปจะต้องไม่ได้รับสิทธิ์ในการยุ่งเกี่ยวกับการปรับแต่งหรือเปลี่ยนค่าใดๆ
ในคอมพ์พิวเตอร์ นอกจากการใช้งานปกติเท่านั้น ควรจะมีแค่ Admin คนเดียวที่สามารถทำได้
5. ความปลอดภัยอุปกรณ์
ตั้งรหัส Password ในการ Login เข้าคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ต
รวมแม้กระทั่งมือถือ เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลบริษัท
และทางที่ดีอย่าปล่อยให้เด็กๆ เข้ามาใช้อุปกรณ์ในการเล่นเกม หรือเข้าเว็บไซต์จะดีกว่า
โดยควรแยกเครื่องที่เป็นส่วนตัวสำหรับผู้ใช้งานในบ้าน
6. ระวังอีเมลหลอกลวง
Phishing Email ยังคงพบเจอได้อยู่ทุกวัน
แม้ว่าจะมีการออกมาเตือนกันอยู่มากมาย ซึ่งสามารถคัดกรองหรือตรวจสอบได้จากอีเมลผู้ส่งที่ส่งมาหาเรา
หากไม่คุ้นเคยหรือมีลักษณะให้โอนเงิน ให้เดาไว้ก่อนเลยว่าเป็น Phishing Email
7. ตั้งพาสเวิร์ดให้แข็งแรง
เปลี่ยนแนวทางการตั้งรหัสผ่านในการเข้าถึงระบบต่างๆ ขององค์กรให้มีความแข็งแรงมากขึ้น
โดยจุดประสงค์คือการทำให้พาสเวิร์ดสามารถคาดเดาได้ยาก ลองคิดดูว่าถ้าตั้งพาสเวิร์ด
เช่น ‘1234567’ หรือที่ใครๆ ก็สามารถเดาถูก มาเป็นการตั้งรหัสผ่านให้มีความยาว 8 ตัวอักษรขึ้นไป
ผสมตัวอักษรทั้งใหญ่และเล็กตัว อักษรกับตัวเลข หรือใช้อักขระพิเศษในตัวอักษร ก็จะช่วยให้โจรไซเบอร์คาดเดาลำบาก
8. ตรวจสอบช่องโหว่อยู่เสมอ
เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของแผนกไอทีที่ต้องคอยตรวจเช็กช่องโหว่ต่างๆ ของระบบ
IT อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นระบบอินเทอร์เน็ต ระบบบริหารจัดการธุรกิจ
ระบบเน็ตเวิร์ค ระบบอีเมล หรือระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้มีความปลอดภัยสูงสุด
ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงได้อีกขั้นจากการถูกโจรกรรมข้อมูล ถ้าหาช่องโหว่เจอก่อนก็สามารถอุดรอยรั่วตรงนั้นได้
แต่ถ้าแฮ็กเกอร์เจอก่อนคงไม่อยากคาดเดาสิ่งที่จะตามมา
9. ไม่ใช้คอมฯ ธุรกิจร่วมกับการใช้ส่วนตัว
มีธุรกิจจำนวนมากที่อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถใช้คอมพิวเตอร์ที่ใช้ในธุรกิจในการใช้งานส่วนตัวร่วมกับการทำงาน
เช่น การเล่นโซเชียลฯ การดาวน์โหลดโปรแกรมต่างๆ ไฟล์ต่างๆ หรือการนำโปรแกรมเถื่อนมาติดตั้งในคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
ซึ่งการกระทำเหล่านี้ก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างมาก ในการที่แฮ็กเกอร์สามารถใช้ในการเข้าถึงระบบทั้งระบบได้
ฉะนั้นควรห้ามไม่ให้ผู้ใช้ทำงานส่วนตัวอย่างอื่นนอกจากธุรกิจของคุณ
ความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่อีกต่อไป
แต่เป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจทุกคนโดยเฉพาะเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กจำเป็นต้องให้ความสนใจ
ให้ความสำคัญ ในการเตรียมพร้อมสำหรับภัยคุกคามต่างๆ
ที่อาจเกิดขึ้นกับบริษัทของคุณแม้ในช่วงโควิดกำลังระบาดก็ตาม