รู้ก่อน เจ๋งกว่า! เครื่องมือที่น่าสนใจสำหรับร้านค้าบน Facebook

ในปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะหันมองไปทางไหน ก็มักจะพบว่าแต่ละธุรกิจมีการทำการตลาดผ่าน Facebook ตั้งแต่ กิจการยักษ์ใหญ่ขององค์กรระดับโลก ไปจนถึงขายสินค้าแบบ part-time ของคนธรรมดาทั่วไป เนื่องจากเป็นสื่อโซเชียลมีเดียยอดฮิตอันดับหนึ่งของคนไทย ที่มีผู้ใช้งานกว่า 47 ล้านคน ด้วยความที่ Facebook มีการปรับเปลี่ยนพัฒนาระบบ เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานอยู่เสมอ หากใครรู้จักเครื่องมือที่ตอบโจทย์สำหรับร้านค้าบนเฟซบุ๊กเหล่านี้ก่อน รับรองว่าได้เปรียบกว่าแน่นอน

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

1. Facebook Shops : ตัวช่วยปรับแต่งร้านค้าให้สวยงาม

เครื่องมือสำคัญสำหรับร้านค้าบน Facebook และ Instagram โดยเฉพาะ สามารถลงขายได้แบบไม่จำกัดจำนวน ไม่ว่าจะลงแบบเดี่ยวหรือเป็นคอลเล็กชัน ทำให้ลูกค้าหรือคนที่แวะมาหน้าร้านบนเฟซสามารถเลือกชมสินค้าได้สะดวก สามารถออกแบบหน้าร้านให้สวยงามออกมาเป็นรูปแบบแคตตาล็อกได้ มีการกระจายให้ผู้ใช้งาน Facebook สามารถพบเจอกับสินค้าของร้านเราได้ง่ายขึ้น โดยปรากฏผ่าน Marketplace

อีกทั้งสามารถดูข้อมูลเชิงลึกได้อย่างละเอียด เช่น เกี่ยวกับการรับชมสินค้า และการซื้อสินค้าแต่ละรายการ ฯลฯ สามารถใช้งานได้ง่าย โดยกด Shop ที่ด้านซ้ายของหน้าเพจร้านค้า แล้วกด add product เพิ่มสินค้า หรือหากต้องการลงโพสต์สินค้าเป็นแบบหมวดหมู่ กด add collection นอกจากนี้อีกไม่นานฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Facebook Shops กำลังจะเข้าไทยมาให้ร้านค้าได้เล่นอีกเพียบ ดูได้จากเฟซบุ๊กต่างประเทศที่เริ่มมีเครื่องมือใหม่มาให้ลองใช้งานเพิ่มเติมกันบ้างแล้ว

2. Facebook Pay : ตัวช่วยจัดการเกี่ยวกับชำระเงิน

เมื่อมีการซื้อขาย ก็ต้องมีการจ่ายเงิน ฟีเจอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของ Facebook Shops ที่เข้ามาตอบโจทย์ในเรื่องของการชำระค่าใช้จ่าย โดยส่งบิลเรียกให้ชำระเงินผ่าน Messenger ได้ทันทีเมื่อตกลงซื้อขายเสร็จ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การซื้อของผ่าน Facebook ที่มักจะใช้การแชตผ่าน Messenger เริ่มต้นใช้งานได้ง่ายๆ ด้วยการกดสัญลักษณ์ ฿ ที่หน้าแชต

เมื่อระบุจำนวนเงินแล้วให้กดเลือกเรียกเก็บเงิน มีข้อดีในเรื่องช่วยส่งใบเรียกเก็บเงินได้สะดวก ตรวจสอบสลิปการโอนจากลูกค้าได้ง่าย เมื่อส่งเสร็จสามารถใส่เครื่องหมายส่งแล้วได้ทันที ช่วยให้ปิดการขายได้ง่ายขึ้น และสามารถจัดการระบบภายในร้านให้มีระเบียบได้ง่าย ตัวคนเดียวก็สามารถทำได้

3. Facebook Pixel : ตัวช่วยเก็บข้อมูลสำหรับทำการตลาด Remarketing

สำหรับร้านค้าหรือกิจการที่มีเว็บไซต์ควรมีเครื่องมือนี้! เพราะการจะทำการตลาดแบบ Remarketing สำหรับคนที่เคยสนใจจนแวะเข้ามาส่องภายในร้านค้าของคุณแล้วแต่ยังไม่ได้ซื้อ จำเป็นที่จะต้องมีการเก็บข้อมูลไว้บ้าง ซึ่ง Facebook Pixel นี้จะช่วยคุณเก็บข้อมูลจากคนที่เข้ามาดูภายในเว็บไซต์, คนที่เคยหยิบสินค้าลงในตะกร้า และคนที่เคยซื้อสินค้า/บริการจากคุณ เพื่อไปประมวลผลในการยิงโฆษณาต่อไป ทำให้การทำโฆษณามีประสิทธิภาพ แม่นยำ และประหยัดมากขึ้นแบบฟรีๆ มีขั้นตอนง่ายๆ เพียงแค่สร้างผ่าน Ads manager หรือ Business Manager แล้วนำไปติดตั้งตามวิธีที่ถูกต้อง  

4. Facebook Business Suite : ตัวช่วยจัดการธุรกิจสำหรับ Facebook และ Instagram ในหนึ่งเดียว

ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดที่พึ่งเปิดตัวในไทยเมื่อเดือนตุลาคม เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ Facebook และ Instagram สามารถทำงานได้บนแพลตฟอร์มเดียว ทั้งในเรื่องของการลงโพสต์, การตั้งเวลาโพสต์ล่วงหน้า, ส่งข้อความผ่าน Messenger, ตอบคอมเมนต์, ดูยอดการเยี่ยมชม และจัดการโฆษณา อาจจะดูคล้ายกับเครื่องมืออื่นที่เคยมีอยู่เดิม แต่เครื่องมือนี้มีจุดเด่นตรงที่สามารถใช้งานกับทั้ง 2 แพลตฟอร์มได้ภายในหนึ่งเดียว ช่วยทั้งประหยัดเวลา, สามารถรับการแจ้งเตือนจากลูกค้าได้ไม่ตกหล่น และดูข้อมูลเชิงลึกในบางส่วนได้มากขึ้น ทั้งนี้ เครื่องมือนี้พึ่งปล่อยมาให้ธุรกิจรายย่อยได้ทดลองใช้ก่อน สำหรับธุรกิจใหญ่อาจจะต้องรอไปอีกซักระยะหนึ่ง สามารถติดตั้งได้ผ่าน business.facebook.com  

นอกจากเครื่องมือทั้ง 4 ที่เราได้เก็บมาฝากทุกท่านแล้ว เชื่อได้ว่าในอนาคตอันใกล้ Facebook ก็คงจะพัฒนาฟีเจอร์ หรือเครื่องมือสำหรับธุรกิจมาให้ร้านค้าต่างๆ บนได้ใช้งานเพิ่มศักยภาพของแต่ละธุรกิจอีกอย่างแน่นอน ดังนั้นอย่าลืมติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนระบบใช้งานหรือฟีเจอร์ใหม่บน Facebook เสมอ เพราะหากคุณรู้ทันไว ก็พาธุรกิจก้าวไปได้ไกลกว่าร้านอื่นในตลาดเดียวกันอย่างแน่นอน 

สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<

5 วิธี ‘สร้างสรรค์’ คอนเทนต์ให้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย

พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไป SME จะรับมืออย่างไร