Booking.com แพลตฟอร์มด้านท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลก ได้รายงานเทรนด์ท่องเที่ยวปี 2020 ของนักท่องเที่ยวชาวไทยซึ่งมีข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม ซึ่งได้คาดการณ์ว่าปี 2020 จะเป็นปีแห่งการท่องเที่ยวเชิงสำรวจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยแรงขับเคลื่อนของเทคโนโลยี รวมถึงความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนความผูกพันที่ลึกซึ้งขึ้นต่อผู้คนและสถานที่ที่เราไปเยือน ด้วยความเชี่ยวชาญในฐานะผู้นำของแวดวงการเดินทางและเทคโนโลยี พ่วงด้วยผลสำรวจจากกลุ่มนักเดินทางมากกว่า 22,000 คนจาก 29 ประเทศ อีกทั้งข้อมูลเชิงลึกจากรีวิวของผู้เข้าพักกว่า 180 ล้านรายการที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว ทั้งหมดนี้นำมาสู่บทสรุปเทรนด์ท่องเที่ยวซึ่งเราคาดไว้ว่าจะกลายเป็นจริงในปีหน้าและปีต่อ ๆ ไป
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1.เที่ยว “เมืองรอง” จะมาแรงขึ้น
การเที่ยวเมืองรอง หมายถึง
การไปสำรวจจุดหมายที่เป็นที่รู้จักน้อยกว่า
เพื่อพยายามลดปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมืองและช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อม
โดยเทรนด์ท่องเที่ยวนี้จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปีที่จะมาถึง
ผู้เดินทางชาวไทยจำนวนมากกว่าครึ่ง (68%) อยากมีส่วนร่วมในการลดปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมือง
(จาก 54% ของผู้เดินทางทั่วโลก) ส่วน 65%
ต้องการเปลี่ยนแผนไปเที่ยวจุดหมายอื่นที่เป็นที่รู้จักน้อยกว่าแต่คล้ายกับของเดิม
หากพบว่าจะช่วยลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และเพื่อกระตุ้นความสนใจนี้ยิ่งขึ้น
ผู้เดินทางชาวไทยมากกว่าสามในสี่ 79% อยากให้มีบริการ
(แอปพลิเคชัน/เว็บไซต์)
แนะนำจุดหมายที่หากมีผู้ไปเที่ยวเพิ่มขึ้นแล้วจะช่วยสร้างผลเชิงบวกให้กับชุมชนท้องถิ่นนั้น
ๆ
2.ให้เทคโนโลยีคาดการณ์สิ่งที่ไม่คาดคิด
ผู้เดินทางชาวไทยมากกว่า 4 ใน
5 (82%) ซึ่งกล่าวว่าต้องการให้ผู้ประกอบการเทคโนโลยีเสนอ
“ไพ่เด็ด” และตัวเลือกสุดเซอร์ไพรส์
ซึ่งจะพาไปพบกับประสบการณ์แปลกใหม่อย่างแท้จริงสำหรับทริปในปีที่จะมาถึง
นอกจากนี้ผู้เดินทางไทยมากกว่าครึ่ง (64%) เน้นว่าระหว่างเดินทางจะใช้แอปพลิเคชันที่ทำให้เลือกดูและจองกิจกรรมแบบเรียลไทม์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
ในขณะที่ผู้คนจำนวนใกล้กัน (61%) มีแผนที่จะใช้แอปพลิเคชั่นซึ่งสามารถวางแผนกิจกรรมต่าง
ๆ ล่วงหน้า เพื่อให้มีคำตอบรวมอยู่ในที่เดียวและเพื่อตอบสนองความต้องการนี้ ในปี 2020
จะมีแอปพลิเคชันจำนวนมากยิ่งขึ้นมาพร้อมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่คอยเสนอคำแนะนำสำหรับผู้ใช้รายนั้น
ๆ โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นจุดหมาย ที่พัก และกิจกรรมน่าสนใจ
โดยอิงตามความชอบในปัจจุบัน ทริปก่อนหน้า และองค์ประกอบหลักที่อาจส่งผลกระทบได้
เช่น สภาพอากาศและความนิยม
3.สโลว์ไลฟ์ จะมาแทน #FOMO
เที่ยวยุคใหม่แทนที่จะต้องคอยกลัวตกกระแส (Fear of Missing Out หรือ FOMO) และต้องเร่งรีบทำทุกอย่างให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ การเดินทางในปี 2020 นั้นจะพลิกโฉมไปเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยผู้เดินทางชาวไทยมากกว่าครึ่ง (61%) วางแผนที่จะใช้รูปแแบบการเดินทางที่ช้าลงเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และ 3 ใน 4 (78%) อยากเลือกเส้นทางที่ใช้เวลาเพิ่มขึ้นเพื่อสัมผัสประสบการณ์จากการเดินทางให้มากขึ้น รูปแบบการเดินทางซึ่งช่วยสนับสนุนความต้องการที่เปลี่ยนไป ก็จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขี่จักรยาน รถราง เลื่อนลาก เรือ รวมถึงเดินด้วยสองเท้าของนักเดินทางเอง ตามจริงแล้วผู้เดินทางชาวไทย 75% ไม่เกี่ยงว่าจะต้องใช้เวลาเดินทางไปจุดหมายนานขึ้น หากได้ใช้วิธีเดินทางแบบแปลกใหม่ นอกจากนี้ ผู้เดินทาง 73% อยากสัมผัสถึงความรู้สึกราวกับได้ย้อนเวลา ด้วยการนั่งรถไฟสายประวัติศาสตร์ (เช่น Flying Scotsman หรือ Orient Express) เฝ้ารอปีแห่งการเดินทางสุดพิเศษแบบค่อยเป็นค่อยไปได้เลย
4.เที่ยวทั้งที ต้องสัมผัสความสนุกได้แบบครบครัน
แทนที่จะเที่ยวแค่แบบเดียวตลอดทริป ในปี 2020
จะมีผู้เดินทางที่ต้องการทริปแบบ “ความสนุกครบครัน” เพิ่มขึ้น
โดยไปเยือนจุดหมายที่มอบประสบการณ์หลากหลายและมีสิ่งน่าสนใจ โดย 7 ใน
10 ของผู้เดินทางชาวไทย (71%) กล่าวว่าต้องการออกทริปยาว
ๆ
สักครั้งเพื่อไปยังสถานที่ที่มีกิจกรรมและสิ่งที่น่าสนใจสุดโปรดทั้งหมดอยู่ใกล้กัน
และอีก 77%
ยอมรับว่าจะเลือกจุดหมายที่มีกิจกรรมและสิ่งที่น่าสนใจสุดโปรดทั้งหมดอยู่ใกล้กันเพื่อจะได้ประหยัดเวลาเดินทาง
จากเทรนด์นี้จึงทำให้คาดได้ว่า
แวดวงการเดินทางจะพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้ผู้เดินทางสะดวกยิ่งขึ้น
โดยสร้างแผนเดินทางที่อัดแน่นด้วยความสนุกและสิ่งที่น่าสนใจหลากหลาย ข้อเสนอ
และเส้นทางที่จะทำให้ผู้เดินทางได้เที่ยวจุดหมายสนุกครบครันเหล่านี้อย่างเต็มที่
เมื่อพูดถึงจุดหมายที่มีครบทุกอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ธรรมชาติโดดเด่น
ซึ่งสามารถดื่มด่ำได้จากระเบียงห้องพักไปจนถึงสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์
สวนสุดตื่นตา และชายหาดสำหรับเล่นน้ำคลายร้อน เพื่อผ่อนคลายหลังออกสำรวจมากทั้งวัน
ปิดท้ายด้วยมื้อเย็นที่ร้านอาหารท้องถิ่นรสดั้งเดิม
จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้เดินทางที่ใช้บริการ Booking.com ต่างกล่าวว่าจุดหมายอันดับต้น
ๆ ที่สามารถมอบประสบการณ์ความสนุกแบบครบครันให้กับนักท่องเที่ยวได้ คือ
มอนเตวิเดโอ (อุรุกวัย) อิลญาเบลา (บราซิล) และนาฮะ (ญี่ปุ่น)
เมื่อเทียบกับจุดหมายอื่น ๆ
5.สัตว์เลี้ยงต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง
เจ้าของสัตว์เลี้ยงชาวไทย 52%
ยอมรับว่าในปีหน้าจะเลือกจุดหมายพักร้อน โดยอิงจากความเป็นไปได้ในการพาสัตว์เลี้ยงไปด้วย
และเจ้าของสัตว์เลี้ยงจำนวน 52% ก็ยินดีที่จะจ่ายเพิ่มเพื่อพัก ณ
ที่พักซึ่งเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง
เทรนด์นี้เห็นได้ชัดจากจำนวนที่พักซึ่งยินดีต้อนรับสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องบน
Booking.com แม้ว่าผู้ประกอบการที่พักจะตระหนักถึงความต้องการนี้
แต่ผู้ประกอบการที่พักทั่วโลกก็ยังคงมองหาวิธีใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
เพื่อยกระดับการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ เช่น
ที่นอนสุนัข สปาสัตว์เลี้ยง เมนูรูมเซอร์วิส
หรือแม้แต่ห้องอาหารที่ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อสัตว์เลี้ยง
เรียกได้ว่าสัตว์เลี้ยงที่เดินทางพักร้อนพร้อมเจ้าของสามารถตั้งตารอประสบการณ์ระดับ
5 ดาวได้อย่างแน่นอน
6.ทริปครอบครัว สร้างความทรงจำดี ๆ ด้วยกัน
ปี 2020 เป็นปีแห่ง “ทริปสองวัย”
ลืมคำว่าช่องว่างระหว่างวัยไปได้เลย
เพราะจะมีปู่ย่าตายายจำนวนมากขึ้นที่พร้อมไปพักร้อนอย่างยิ่งใหญ่กับหลาน ๆ
โดยไม่ได้พาคนเป็นพ่อแม่ไปด้วย ชาวไทยในรุ่นปู่ย่าตายายเกือบ 3 ใน
4 (74%) ยอมรับว่าการใช้เวลากับหลาน ๆ
ทำให้ตนเองได้รู้สึกย้อนวัย โดยอีก 56%
เชื่อว่าเหล่าพ่อแม่ก็อยากมีเวลาเป็นส่วนตัวบ้างโดยไม่มีเด็ก ๆ มารบกวน
เมื่อจับคู่กับความจริงที่ว่าผู้สูงวัยทุกวันนี้แข็งแรงกว่า ชอบผจญภัยมากกว่า และกระตือรือร้นที่จะได้รู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็ก
อีกทั้งกระฉับกระเฉงกว่าเมื่อก่อน เราก็จะได้เห็นว่า “ทริปสองวัย”
ซึ่งมีกิจกรรมสุดแอคทีฟมากมายให้คนสองวัยได้เข้าร่วมนั้น
จะได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีกในปีหน้า
7.เที่ยวเชิงอาหาร ยังมาแรง
ผู้เดินทางต่างให้ความสำคัญกับเรื่องอาหารเป็นอันดับแรก
ๆ โดยต่างแย่งกันจองร้านอาหารดัง ๆ สำหรับหลายคนแล้ว
การเลือกจุดหมายและช่วงที่จะเดินทางนั้นเริ่มต้นจาก(และขึ้นอยู่กับว่า)สามารถจองร้านเพื่ออิ่มอร่อยกับอาหารที่อยากทานมาก
ๆ ได้หรือไม่ ซึ่งหลายครั้งหลายคราจะเป็นร้านซึ่งมีคิวยาวเหยียดต่อเนื่องเป็นเดือน
ๆ นอกจากนี้ ความหิวก็ยังถูกกระตุ้นด้วยเนื้อหาและคำแนะนำมหาศาลบนโซเชียลมีเดีย
จึงไม่ได้มีเพียงร้านอาหารชื่อดังเท่านั้นที่ผู้เดินทางต่างพยายามอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อจองโต๊ะ
“ร้านลับ” ซึ่งเป็นสถานที่โปรดของคนท้องถิ่นมาอย่างยาวนาน
เสิร์ฟเมนูที่ทำจากวัตถุดิบท้องถิ่นที่ผู้คนมากมายอยากลิ้มลอง
ที่สำคัญ ผู้เดินทางจะเปลี่ยนแผนท่องเที่ยวโดยอิงจุดหมายที่เหมาะกับการไปรับประทานอาหารเป็นหลัก โดยอยากไปดื่มด่ำรสชาติก่อนใคร และต้องการไปเยือนร้านเป็นรายแรก ๆ หรือก่อนที่จะกลายเป็นร้านดังออกสื่อต้องจองโต๊ะไปอีกร้าน
8.วางแผนเที่ยวหลังเกษียณ
ผู้เดินทางชาวไทยสามในสี่ (73%) วางแผนที่จะทำให้ทริปโลดโผนขึ้นเมื่อเกษียณแล้ว
และมากกว่าหนึ่งในสี่ (28%) ของคนที่เกษียณแล้วก็กำลังวางแผน Gap
Year กล่าวคือเอาเวลาไปเที่ยวนานหลายเดือนโดยไม่ให้มีเรื่องอะไรมาขัดจังหวะ
ซึ่งเป็นการเดินทางที่ผู้เดินทางชาวไทยเกือบ 3 ใน
4(73%) เห็นพ้องว่าสามารถทำตอนอายุเท่าไรก็ได้ และเนื่องจากการเกษียณและการเดินทางการเป็นเรื่องที่ควบคู่ไปด้วยกันสำหรับกลุ่มคนในหลายช่วงอายุ
จึงคาดว่าจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผู้เดินทางสามารถเริ่มกระบวนการวางแผนผ่านเงินเก็บสำหรับ
“ทริปหลังเกษียณ” โดยเป็นไปในลักษณะที่เปิดโอกาสให้ผู้เดินทาง ปันเงินไว้สำหรับทริปพักร้อนที่ยาวที่สุดในชีวิต
ท่านผู้อ่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับเทรนด์ท่องเที่ยวปี 2020 ของ Booking.com ได้จาก https://travelpredictions2020.com