ช่วงหน้าฝนแบบนี้นี่บอกเลยว่าหลายๆ
คนคงถอดใจนอนอยู่บ้าน ไม่อยากออกไปเที่ยวไหนให้เสียความรู้สึกแน่ๆ
เพราะกลัวฝนจะตกลงมาจนสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ต้องหมองไป แต่สำหรับคนรักความเป็นธรรมชาติ
หน้าฝนนี่แหละ
โอกาสที่คุณจะได้ซึมซับบรรยากาศที่หาไม่ได้ง่ายนักและเรียกว่าได้ใกล้ชิดธรรมชาติแบบที่คนปกติจะไม่มีโอกาสได้สัมผัส
การเที่ยวแนวธรรมชาติหน้าฝนแบบนี้ มีหลายระดับ เพราะ ‘ป่าหน้าฝน’บ้านเรามีหลายเลเวล เอาแบบโหดสุดๆ
ชนิดที่มีส่วนเสี้ยวเวลาหนึ่งคิดว่า ‘นี่เราเป็นคนหรือแพะภูเขา’ ถ้าคุณเป็นนักท่องเที่ยวป่าสายโหดคุณจะเข้าใจ
แต่สำหรับคนทั่วไป
ที่อยากสัมผัสธรรมชาติหน้าฝน และไม่อยากทรมานสังขาร
เรามีจุดท่องเที่ยวป่าหน้าฝนแบบเบาๆ สวยๆ สายฝนโปรยและสองเรา มาฝากกัน
เที่ยวป่าหน้าฝนดียังไง
ข้อดีของการเที่ยวป่า กางเต็นท์
นอนเล่นหน้าฝนแบบนี้นี่มีข้อดีเยอะมาก
เพราะนอกจากจะได้สัมผัสธรรมชาติแบบในมุมที่เราไม่เคยคาดคิดแล้ว
ยังทำให้เราได้ปลดปล่อยตัว ปลดปล่อยใจให้เป็นอิสระอีกต่างหาก
ลำพังแค่นอนเล่นอยู่บ้านได้กลิ่นไอฝนเย็นฉ่ำพัดมาก็รู้สึกผ่อนคลายแล้วใช่มั้ยล่ะ
แล้วจะดีแค่ไหนถ้าเราได้ไปนอนท่ามกลางธรรมชาติแบบนั้น มันจะมีแต่ความเงียบ กลิ่นอายแห่งความสุขที่ฟุ้งตลบอบอวลจนคุณเองได้เคลียร์ความเหนื่อยล้าออกไปจนหมดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนแน่นอน
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
5 ที่เที่ยวหน้าฝนในประเทศไทย
1. อีต่อง ปิล็อก กาญจนบุรี
เปิดประเดิมด้วยความธรรมชาติสุดแสนจะเรียบง่ายกับหมู่บ้านอีต่อง ของจังหวัดกาญจนบุรี ที่ให้บรรยากาศย้อนยุคแห่งความเงียบสงบ คุณจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตริมน้ำที่ปราศจากความวุ่นวาย และมีม่านหมอกปกคลุมตลอดเวลา โดยเฉพาะหน้าฝนแบบนี้ จะดึงเอาความรู้สึกพิเศษของอีต่องออกมาได้มากกว่าปกติ อากาศเย็นๆ จะทำให้รู้สึกสบายไปตลอดทริปการเดินทาง พร้อมความเงียบสงบที่บอกเลยว่าหาได้ยากในยุคสมัยนี้ เรียกได้ว่าที่นี่เป็นสถานที่แห่งการพักผ่อนหน้าฝนอย่างแท้จริง
ใครว่าฝนตกแบบนี้ต้องขึ้นเขาให้หนาวกายหนาวใจอย่างเดียว สำหรับคนที่ไม่อยากเหนื่อย แต่อยากสัมผัสความเย็นชุ่มฉ่ำก็จัดไปกับนครนายกได้เลยใกล้ๆ ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงแล้ว กับคลองมะเดื่อ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสุดแสนสบายๆ แถมได้สัมผัสป่าสวย น้ำใสและเย็นฉ่ำ เรียกว่าที่นี่ของดีใกล้กรุงสำหรับคนที่โหยหาความเป็นธรรมชาติแต่เวลาน้อย
3. ภูทับเบิก เพชรบูรณ์
หน้าฝนแบบนี้จะพลาดภูทับเบิกไปไม่ได้แน่ๆ เพราะขึ้นชื่อเป็นสถานที่ยอดฮิตช่วงหน้าฝนเลยก็ว่าได้ ซึ่งจุดเด่นข้อดีของภูทับเบิกคือมีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ยิ่งหน้าฝนนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง หมอกจัดๆ ลมเย็นๆ ปลิวมาให้สัมผัสแน่นอน แม้คนเยอะสักหน่อย ใครอยากสัมผัสธรรมชาติแบบไม่กลัวเหงา ที่นี่แหละตอบโจทย์ได้ดีสุด
4. ทุ่งดอกกระเจียว ชัยภูมิ
สายฝนโปรย
ท่ามกลางท้องทุ่งดอกบัวสวรรค์ ใครเคยไปจะซึ้งกับคำนี้ดี ที่ทุ่งดอกกระเจียวจังหวัดชัยภูมิ
ดอกไม้ที่เรียกได้ว่ามากับสายฝนเลยก็ว่าได้
เพราะจะบานสะพรั่งไปทั่วเมื่อเข้าสู่หน้าฝน
ยิ่งที่ชัยภูมิเนี่ยทุ่งดอกกระเจียวจะสวยสะดุดตามองเห็นไปได้ไกลลิบเลย
ใครที่อยากสัมผัสความสวยงามของธรรมชาตินี้ก็ไปเที่ยวกันได้ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน ไปจนถึงเดือนสิงหาคมนู่นเลย แวะเวียนไปเยี่ยมชมกันได้ที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม และอุทยานแห่งชาติไทรทอง ลองไปเก็บภาพแห่งความสุขเหล่านี้กันได้เลย
5. เขากระโจม ราชบุรี
จากกรุงเทพฯ แค่เพียง 2-3 ชั่วโมง
ราชบุรีนี่แหละตอบโจทย์ที่สุด เพราะไม่ต้องเหนื่อยเดินทางไกล
สัมภาระทุกอย่างแบกใส่รถคันเดียวไปได้แน่นอน
ยิ่งหน้าฝนแบบนี้นะขึ้นไปสูดอากาศบนยอดเขานี่เป็นอะไรที่ดีต่อใจที่สุดแล้ว
เหมือนได้พาวเวอร์แบงก์ลูกใหญ่ชาร์จไฟให้ยังไงยังงั้นเลย
เขากระโจมนี้เป็นอีกหนึ่งที่ที่มอบบรรยากาศแห่งความหนาวเย็น
รวมถึงมีหมอกปกคลุมให้ความรู้สึกเหมือนได้ขึ้นดอยสูงๆ ไปสัมผัสกับแสงแรกของวัน
กับกาแฟสักแก้วท่าจะดี
ทั้ง 5
สถานที่ที่เราแนะนำเป็นการท่องเที่ยวแบบ เบาๆ ที่ไปได้กันทุกคน
แถมบนนยากาศก็สวยซึ้งตราตรึงใจ แล้วคุณจะรักป่าหน้าฝน