แม้จะมีการฉีดวัคซีนไประยะหนึ่งแล้ว
แต่ดูเหมือนเศรษฐกิจหลายๆ ประเทศก็ไม่มีเค้าว่าจะฟื้นตัวในเร็ววัน อย่างกรณีธุรกิจค้าปลีกใน
"สหราชอาณาจักร" หรืออังกฤษ
ก็ต้องเผชิญปัญหาวิกฤตโควิดฟาดหางเช่นเดียวกับธุรกิจทั่วโลก โดยข้อมูลจาก The
Centre for Retail ระบุว่า นับแต่ปี 2563
ยอดค้าปลีกในสหราชอาณาจักรได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด 19
ซึมยาวมาถึงปี 2564 ผลพวงจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
ทำให้คาดการณ์ว่ายอดค้าปลีกจะฟื้นกลับมาในปี 2565
มีการประเมินว่า เทรนด์ของธุรกิจค้าปลีกในสหราชอาณาจักรปีนี้จะมีการปรับเปลี่ยนไป จากข้อมูลของวารสารด้านการค้าปลีกอย่าง The Grocer และ Retail Gazette ระบุว่า ผู้บริโภคอังกฤษหันมาปรุงอาหารรับประทานเองมากขึ้น จากสถิติการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการปรุงอาหารที่เพิ่มขึ้นถึง 68% จากปี 2562 และยังปรากฎว่ามีคำค้นเกี่ยวกับการหาข้อมูลโดยการใช้คำที่สื่อถึงเรื่องอาหารที่มีราคาถูก โดยเฉพาะในโอกาสพิเศษ เช่น คำว่า Value หรือ Offer
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ขณะเดียวกันก็มีการสืบค้นเกี่ยวกับการใช้บริการอาหารเดลิเวอรีมากขึ้น
สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่นิยมจับจ่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น
จากมาตรการล็อกดาวน์ทำให้ต้องทำงานที่บ้าน จึงมีผู้บริโภคกลุ่มใหม่ เช่น
ผู้ที่มีอายุประมาณ 45 ปี ขึ้นไปเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะการเลือกซื้อสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน และกลุ่มแฟชั่น
และจากผลสำรวจทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร
โดย IHS
Markit ที่ทำการสำรวจในช่วงเดือนมกราคม 2564
ที่ผ่านมา พบว่าจากมาตรการล็อกดาวน์ทำให้ผู้บริโภคยังต้องจับจ่ายซื้อสินค้าไปประกอบอาหารรับประทานเอง
เพราะไม่ได้รับอนุญาตให้นั่งทานที่ร้าน จึงมีรายจ่ายการซื้ออาหารเฉลี่ยครอบครัวละ 50 ปอนด์
ประเภทอาหารที่นิยมซื้อมากขึ้น อาทิ
เครื่องปรุงอาหารสำหรับเด็ก เช่น เส้นพาสตา เนยถั่ว และช็อคโกแลต
และเป็นที่น่าสังเกตว่าอาหารสุขภาพก็มียอดขายเพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะอาหารมังสวิรัติเพิ่มขึ้นประมาณ 25%
และกลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น 29%
ข้อมูลการสำรวจยังพบอีกว่า
การซื้อสินค้าออนไลน์ได้รับความนิยมจากผู้สูงวัยมากขึ้น
โดยคาดว่ามีจำนวนผู้สูงอายุถึง 24% หรือประมาณ 6.4 ล้านคนที่ซื้อสินค้าประเภทของชำ (Grocery) ผ่านช่องทางออนไลน์
เพราะหวาดกลัวโควิด 19 ไม่กล้าไปเดินห้าง
ทำให้ร้านค้าออนไลน์ประเภทนี้มียอดขายเติบโต 10-30% อาทิ
ร้านค้าออนไลน์ OCADO เติบโต 37%
ไม่นับรวมร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็กที่มียอดขายเพิ่มขึ้น 20.9%
ประเด็นนี้ทำให้ห้างค้าปลีกในสหราชอาณาจักรต่างพัฒนาระบบคลังสินค้าและระบบขนส่ง
เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดขายปลีกออนไลน์เพิ่มขึ้น
มาจากสถานการณ์ด้านการผลิตสินค้าของสหราชอาณาจักรลดลง
ได้รับผลกระทบจากการกักตุนสินค้า ในช่วงที่เกิดความไม่แน่นอนว่าจะมีการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป
(Brexit
) และจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ระลอกใหม่
ทางสำนักงานสถิติสหราชอาณาจักรให้ข้อมูลว่า
สหราชอาณาจักร
เป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิดรุนแรงที่สุดในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก
(G7)
ผลจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์
ซึ่งมีแนวโนมว่านี่จะเป็นโอกาสของประเทศผู้ผลิตและส่งออกอาหารสำคัญอย่างไทย
ที่จะรุกตลาดอาหาร ทั้งประเภท เครื่องปรุงอาหาร อาหารสุขภาพ ของชำ อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการไทยควรต้องพัฒนาสินค้าและปรับปรุงกลยุทธ์การทำตลาดออนไลน์
(Online
Marketing) เพื่อรับการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์การบริโภคยุคใหม่