แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดัง Lazada Group ได้เปิดเผยข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นการค้าดิจิทัลบนแพลตฟอร์มของ Lazada โดยได้ทำการสำรวจผู้ขายออนไลน์ (Online Sellers) จำนวน 750 ราย ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 6 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย เวียดนาม มาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยพบข้อมูลที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ธุรกิจออนไลน์ส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รวมทั้งประเทศฟิลิปปินส์ หรือคิดเป็นร้อยละ 70 ของผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมด
คาดการณ์ว่าในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 ยอดจำหน่ายจะยังคงสามารถเติบโตสูงขึ้นมากกว่าร้อยละ
10
ในขณะที่ 1 ใน
3 ของผู้ตอบแบบสำรวจ หรือคิดเป็นร้อยละ 33 มีความมั่นใจอย่างยิ่งว่ายอดจำหน่ายจะเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยช่วง 6 เดือนแรกของปี
2564 พบว่าผู้ขายออนไลน์ร้อยละ 52 มีอัตราการเติบโตอยู่ในระดับสูง
และส่วนใหญ่ยังคงมองโลกในแง่ดีมาก ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความหลากหลายมากขึ้น
ระหว่างการซื้อสินค้าทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยพบว่าในปี 2563
ร้อยละ 47 ของผู้บริโภคลดการซื้อสินค้าทางออฟไลน์และเพิ่มการใช้จ่ายทางออนไลน์ถึงร้อยละ
30
นอกจากนี้การแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด 19
ได้เร่งการขยายตัวของการค้าดิจิทัล และทำให้เป็นสมรภูมิสำคัญสำหรับผู้ขายที่ต้องการขยายธุรกิจ
โดยเฉพาะผู้ขายกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
และได้รับประโยชน์สูงสุดจากการที่ผู้คนส่วนใหญ่ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน
- ร้อยละ 53 ของผู้ขายออนไลน์จากกลุ่มสินค้าดังกล่าวรายงานว่า
ธุรกิจมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้
- ผู้ขายออนไลน์ร้อยละ 48 จากกลุ่มสินค้าแฟชั่นระบุว่า ธุรกิจมีแนวโน้มดีขึ้นในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้
- ร้อยละ 75 คาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานจะดีขึ้นในไตรมาสที่
3 โดยร้อยละ 40 ของกลุ่มผู้ขายสินค้าดังกล่าวคาดว่าการเติบโตจะเกินกว่าร้อยละ
30 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปีก่อน
ทั้งนี้ จากผลการสำรวจของ Lazada
พบว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจออนไลน์เติบโตขึ้นก็คือ การพัฒนาข้อเสนอที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร
การขับเคลื่อนปริมาณการใช้งานของผู้ใช้และการใช้ ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึก
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Lazada
แข็งแกร่งในตลาดอีคอมเมิร์ซ
ด้วยความสามารถด้านโลจิสติกส์แบบ end-to-end ที่ควบคุมห่วงโซ่อุปทานได้อย่างสมบูรณ์
มีการลงทุนในคลังสินค้า ศูนย์คัดแยก และเทคโนโลยีดิจิทัลช่วยเสริม เครือข่ายพันธมิตรและการจัดการข้ามพรมแดน
นอกจากนี้ Lazada Group ยังใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่มีอยู่ และที่เกิดขึ้นใหม่เพื่อกำหนดประสบการณ์การค้าปลีกใหม่
การใช้ประโยชน์จากข้อมูลในแบบเรียลไทม์ช่วยให้ปรับเข้ากับความต้องการและเงื่อนไขที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว
รวมถึงมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการชำระเงินและบริการทางการเงินที่ปลอดภัย
และมีการพัฒนาตัวเลือกในการตอบสนองความต้องการให้ลูกค้า สามารถชำระเงินดิจิทัลผ่านโซลูชั่นต่างๆ
ที่ใช้งานได้ง่ายและไร้รอยต่อ ทั้งนี้ปัจจุบัน Lazada มียอดผู้เข้าชมเว็บไซต์กว่า 30 ล้านคนต่อเดือน
มีหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลายและมีตัวเลือกการซื้อที่รองรับตั้งแต่ C2C ไปจนถึง B2C ทำให้ Lazada ประสบความสำเร็จในดึงดูดผู้ซื้อออนไลน์เป็นอย่างมาก
และได้ตั้งเป้าหมายที่จะมีลูกค้า 300 ล้านคนให้ได้ภายในปี 2573
แหล่งอ้างอิง : https://www.ditp.go.th/