บริษัทด้านการเงินดิจิทัลของสหรัฐฯ Square Inc. เปิดเผยรายงานผลกระทบของโควิด 19
ต่อสถานการณ์การค้าและการชำระเงินทั่วโลก โดยระบุว่า 1 ปีหลังจากการแพร่ระบาด
อัตราการซื้อสินค้าและชำระเงินผ่านทางออนไลน์ได้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมและความชอบใหม่ๆ
ของผู้บริโภคต่อความสะดวกของระบบดิจิทัล
ที่ไม่จำเป็นต้องมีการพบปะหรือสัมผัสระหว่างเจ้าธุรกิจ ผู้ขาย และลูกค้า
ซึ่งเป็นผลมาจากทั้งความพยายามรักษาสุขภาพและความสะดวกสบาย
โดยก่อนการระบาดครั้งใหญ่ในปี 2563
จนถึงปัจจุบัน ส่วนแบ่งของจำนวนธุรกิจที่ซื้อ-ขายแบบไร้เงินสดปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าในสหรัฐฯ
ออสเตรเลีย แคนาดา และอังกฤษ และเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าในญี่ปุ่น
Square ได้ให้คำจำกัดความของธุรกิจแบบไร้เงินสด หรือ Cashless Businesses ว่า เป็นธุรกิจที่รับการชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด (ชำระเงินด้วยบัตรเดบิต/เครดิต หรือการชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัส) 95% ขึ้นไป
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
จากสถิติเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2563 ผู้ขายที่ใช้บริการของบริษัท Square ที่เป็นธุรกิจแบบไร้เงินสดในสหรัฐฯ มีเพียงร้อยละ 6.3 ก่อนจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเป็นร้อยละ 14 ในเดือนกุมภาพันธ์
2564 และในช่วงเวลาเดียวกัน
ส่วนแบ่งของธุรกรรมเงินสดลดลงจากร้อยละ 37.4 ในเดือนกุมภาพันธ์
2563 เป็นร้อยละ 30.5 ในเดือนกุมภาพันธ์
2564
นอกจากนี้ยังพบว่า ธุรกิจในสหรัฐฯ
ที่ใช้บริการของบริษัท Square มาตั้งแต่ปี 2558 มีการใช้เงินสดลดลงอย่างมากในช่วงปี 2563
ซึ่งหากไม่มีการแพร่ระบาดของโรค ปรากฏการณ์ดังกล่าวอาจจะต้องใช้เวลาเกือบ 3 ปี
เฟลิเป้ ชาคอน นักเศรษฐศาสตร์ของ Square กล่าวว่า “ปีที่แล้ว
ไม่มีการพูดถึงว่าธุรกิจไร้เงินสดและตัวเลือกการชำระเงินแบบดิจิทัลจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหรือไม่
และจะยั่งยืนเพียงใด
แต่วันนี้เราสามารถเห็นได้จากตลาดที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดอย่างออสเตรเลียที่การซื้อขายแบบไร้เงินสด
โดยเจ้าของธุรกิจและผู้บริโภคนั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2564
ตัวเลือกการชำระเงินทั้งแบบออนไลน์และแบบไม่ต้องสัมผัส
ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่เจ้าของธุรกิจและผู้บริโภค โดยร้อยละ 45 ของผู้ขายที่ใช้บริการของบริษัท Square ในสหรัฐฯ
หันมารับการชำระเงินออนไลน์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 30
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 และร้อยละ 74 รับการชำระเงินผ่านเครื่องอ่านแบบไม่สัมผัส ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 64 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563
ทั้งนี้
แนวโน้มการก้าวสู่การเป็นสังคมไร้เงินสดหรือ Cashless Society ของสหรัฐฯ ยังเป็นที่ถกเถียง
โดยบางกลุ่มเห็นว่า สหรัฐฯ จะไม่สามารถก้าวสู่การเป็น Cashless Society อย่างเต็มรูปแบบได้ในเร็ววันนี้ แต่ร้อยละ 22 ของเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐฯ
(เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 13 เมื่อปี 2562) คาดการณ์ว่า
สหรัฐฯ มีแนวโน้มจะกลายเป็นสังคมไร้เงินสดอย่างเต็มรูปแบบภายใน 10 ปีหรืออาจจะน้อยกว่านั้น
แหล่งอ้างอิง :