ปี 2563 เศรษฐกิจของเวียดนามมีมูลค่า
343,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้เวียดนามมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่
40 ของโลก และอันดับที่ 4 ในอาเชียน
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) คาดการณ์ว่า
เศรษฐกิจของเวียดนามกำลังอยู่ในเส้นทางที่จะแซงหน้าทั้งมาเลเซียและสิงคโปร์ แม้ว่าการแพร่ระบาดของโควิด
19 ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ส่งผลกระทบต่อฐานการผลิตด้านอุตสาหกรรมอย่างหนัก
แต่เวียดนามยังคงมีการเติบโตของ GDP ร้อยละ 5.64 รายได้จากการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563
แม้ว่า GDP เพิ่มขึ้นช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ก็ยังเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.82 ในปี 2563 ซึ่งแสดงให้เห็นว่านโยบาย กลยุทธ์การควบคุม การแพร่ระบาดของโควิด 19 การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของเวียดนามมีประสิทธิภาพ
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญของธนาคารแห่งชาติสิงคโปร์
(Development
Bank of Singapore : DBS) ได้แสดงทรรศนะในเรื่องนี้ว่า
เศรษฐกิจของเวียดนามคาดว่าจะเติบโตร้อยละ 6-6.5 ในทศวรรษหน้า หากสามารถทำได้จริงเศรษฐกิจเวียดนามจะเติบโตแซงหน้าสิงคโปร์ภายในปี
2573
จากการเปิดเผยข้อมูลของ Standard
Chartered เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ระบุว่า
บริษัทในอาเซียนมุ่งเน้นไปที่โอกาสภายในภูมิภาคและคาดว่าจะเติบโตแข็งแกร่งในอีก 12
เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ผลสำรวจของผู้บริหารระดับสูงยังระบุด้วยว่า
ปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับการเติบโตในภูมิภาคคือ
การเข้าถึงตลาดผู้บริโภคในอาเซียนที่มีขนาดใหญ่และกำลังเติบโต
การเข้าถึงตลาดโลกที่มีข้อตกลงการค้าเสรีและความพร้อมของแรงงานที่มีทักษะและความสามารถ
ซึ่งความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP)
จะดึงดูดการลงทุนในอาเซียนมากขึ้น
โดยผู้ตอบแบบสอบถามได้กล่าวว่า
กำลังวางแผนที่จะเพิ่มการลงทุนใน 3-5 ปีข้างหน้า โดยร้อยละ 80 มุ่งเน้นไปที่การขยายธุรกิจในสิงคโปร์
เพื่อรับโอกาสในการขายและการผลิต ตามด้วยประเทศไทยและเวียดนาม
Michele Wee CEO ของ Standard
Chartered Vietnam ได้ระบุว่า
เวียดนามยังคงเสนอโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนที่น่าสนใจด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง
ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ตลาดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ ต้นทุนแรงงานที่ต่ำ
พนักงานจำนวนมาก ข้อตกลงการค้าเสรี และทำเลที่ตั้งที่เอื้ออำนวย เพื่อให้บริษัทในอาเซียนมองเห็นโอกาสการลงทุนในเวียดนาม
แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด
19
แต่เวียดนามยังคงเป็นหนึ่งในประเทศในเอเชียที่มีเศรษฐกิจเติบโตในเชิงบวกช่วง
6 เดือนแรกของปี 2564 การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการเติบโตของภาคบริการ
ช่วยให้เศรษฐกิจของเวียดนามเติบโตได้ดีกว่าประเทศอื่นๆ ในเอเชีย
อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19
ซึ่งมีความซับซ้อน ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดทางการค้าทั่วโลก
ดังนั้นรัฐบาลเวียดนามจึงได้มีนโยบายทั้งป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 และความพยายามในการฟื้นตัวด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างมีประสิทธิผล เพื่อรักษาเสถียรภาพ
ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ปรับปรุงผลผลิตและความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งจะทำให้เวียดนามก้าวไปสู่หนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพ
และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เวียดนามเศรษฐกิจเติบโตก็คือ
การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่นักลงทุนสามารถใช้ประโยชน์จากข้อตกลงทางการค้าต่างๆ
ของเวียดนาม และจากการคาดการณ์ของธนาคาร DBS จะยิ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น
แหล่งอ้างอิง :
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงฮานอย