ช่วงที่ผ่านมาวงการ Influencer
ของไทยได้ปรากฏ AI Influencer อินฟลูเอนเซอร์ที่มีตัวตนเป็น AI โดยต้นเดือนตุลาคม
2564 ที่ผ่านมา SIA Bangkok ซึ่งเป็นเอเจนซี่รายใหม่ในไทย
เปิดตัว ‘ไอ-ไอรีน’ ซึ่งเป็น AI
Influencer นับเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย
ที่มีการจ้าง AI เป็นพรีเซนเตอร์เป็น AI ปัจจุบันไอรีนเป็น Brand Ambassador ของ AIS
ครั้งแรกของไทย แต่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกของโลก เพราะก่อนหน้าปี้ในปี 2019 วงการแฟชั่นทั่วโลกก็ต่างตะลึกกับ ‘Lil Miquela’ ที่เธอก็เป็น AI Influencer ของแบรนด์ Calvin Klein หรืออีกกรณีก่อนนี้คือ บริษัทจากเกาหลีสร้างได้สร้าง Rozy ซึ่งเป็น Al Influencer สาวชาวเกาหลีใต้ ที่ต่อมาเธอดังถึงขนาดที่ว่า มีงานโฆษณาเข้าแล้วกว่า 100 ชิ้น
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ภาพ : instagram ai_ailynn / roxy.gram
ปัจจุบันเทรนด์การใช้ AI
Influencer ผู้มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์แบบเสมือนจริงก็เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ
ซึ่งเทรนด์นี้ ถูกนำมาใช้เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่
โดยการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้เหมือนกับคนจริงๆ ในโลกเสมือนจริง แม้ไม่มีตัวตนก็ตาม
ถึงตรงนี้ทำให้เรามองไปถึงว่าในอนาคต ดาราภาพยนตร์
นักแสดงละคร หรือพิธีกร อาจโดน AI แย่งงานก็เป็นได้
เพราะด้วยการที่ถูกสร้างขึ้นด้วยการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ทำให้สามารถ ‘สร้าง’ Influencers ที่ไม่มีตัวตน
แต่มีความพิเศษในโลกเสมือนที่เด่นชัด AI จึงเป็นใครหรือ ‘อะไรก็ได้’ ที่อยากเป็นตามแต่ผู้ออกแบบจะสร้างให้เป็น
ดังนั้น เทรนด์การใช้ Virtual
Influencer จึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามการพัฒนาที่รวดเร็วของเทคโนโลยี
และแบรนด์สินค้า บริการ และธุรกิจเริ่มมองหาโอกาสจากเทรนด์นี้
โดยจุดแข็งที่ทำให้ Virtual
Influencer หรือการจ้างงาน AI Influencer คือ
เธอไม่ใช่มนุษย์ ดังนั้นความผิดพลาดที่อาจจะเกิดจากการกระทำตามนิสัยมนุษย์นั้นก็คงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนชื่นชอบ
หรือตรงนี้เราอาจจะบอกว่า AI Influencer มีความได้เปรียบกว่า
Influencer ที่เป็นคนจริงๆ
ได้เปรียบอย่างไรนะหรือ ?
AI ไม่เจ็บ ไม่แก่ และอาจจะไม่มีวันตาย
ต่างจากคนที่มีความเปราะบางแทบทุกด้าน และที่สำคัญ AI
ควบคุมได้ง่ายกว่า เพราะเป็นเทคโนโลยีสามารถควบคุมการทำงานได้ทุกขั้นตอน
และแบรนด์ยังสามารถใส่ความพิเศษ หรือคาแรคเตอร์ให้กับ AI Influencers ได้อีกด้วย ที่สำคัญ AI Influencer ยังสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ให้ผู้คนได้ติดตามราวกับเป็นคนจริงๆ
ดังนั้นนอกจากประเด็นเรื่องความมีตัวตนจริงๆ ในโลกจริง AI แทบจะได้เปรียบคนจริงๆ
ในทุกด้าน
ด้วยเหตุนี้ การสร้าง Virtual
Influencer ดูเหมือนจะเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมขึ้นในทั่วโลก
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักพัฒนาจากหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ, จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้
รวมถึงไทย ต่างก็สร้าง Virtual Influencer ขึ้นมาเพื่อเติมเต็มสีสันให้วงการ
Influencers และการทำ Digital Marketing แต่อย่างที่ทราบ
การใช้งาน Virtual Influencer ในปัจจุบันยังมีต้นทุนที่สูง แต่คาดว่าในอนาคตเทคโนโลยีนี้จะได้รับการพัฒนาไปอีกมาก
4 ประเภทของ AI
จริงหรือไม่ ต่อไปจะยิ่งฉลาดล่ำขึ้น
จากประเด็นเรื่อง Virtual
Influencer ที่มีการนำเทคโนโลยี AI มาส่งเสริมกิจกรรมด้านการตลาด
และเห็นได้ชัดว่า AI ได้กลาย Core Technology ในปัจจุบัน ทำให้นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกได้มีการประเมินว่าพัฒนาการของ AI
จะเกิดขึ้นใน 4 ประเภท
1. AI ที่ตอบสนองความต้องการของมนุษย์
: หรืออาจจะเรียกว่าเป็นยุคเริ่มต้นของเทคโนโลยี AI
ที่ถูกพัฒนามาเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ อาทิ
คอนเทนต์สตีมมิ่งต่างๆ
2. AI ที่สามารถเรียนรู้ได้
: มีหน่วยความจำ สามารถทำภารกิจการจำแนกประเภทที่ซับซ้อน
และใช้ข้อมูลในอดีตเพื่อทำการคาดการณ์ได้ หรือเรียนรู้ได้ ยกตัวอย่างเช่น AI
ที่ขับเคลื่อนรถยนต์อัตโนมัติ
3. AI ที่มีความคิดเช่นเดียวกับมนุษย์
: หรือมีความสามารถในการตัดสินใจเท่าเทียมกับมนุษย์
ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นต้นแบบของ AI Influencers ซึ่งปัจจุบันวิทยาการนี้กำลังได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งหุ่นยนต์ที่สามารถปฏิบัติงานกับมนุษย์ได้อย่างเข้าใจ
4. AI ที่เข้าใจตัวเอง
: เป็นขั้นพัฒนาของ AI ซึ่งจากข้อมูลในปัจจุบันระบุว่า
AI ระยะนี้ ยังไม่ได้รับการพัฒนาจนประสบความสำเร็จ เนื่องจากเราไม่มีฮาร์ดแวร์หรืออัลกอริทึมที่จะรองรับได้
แต่แนวโน้มในอนาคตอันใกล้นี้อาจเกิดขึ้นได้จริง ว่ากันว่า นี่จะเป็น AI ที่ซับซ้อนและมีความเข้าใจมนุษย์มากที่สุด
ถึงตรงนี้ท่านก็มีคำถาม โลกจะสร้าง AI
มาให้เข้าใจตัวเองทำไม แค่ทำตามคำสั่งได้ก็น่าจะพอ
แต่ในเมื่อเราไม่อาจจะปฏิเสธความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้ ผู้ประกอบการธุรกิจ SME
จึงต้องศึกษาเรื่องเหล่านี้ไว้บ้าง เพราะนี่จะเป็นเมกะเทรนด์ที่จะเปลี่ยนรูปแบบของการทำธุรกิจ
หรือกิจกรรมทางการค้า การตลาดในหลายด้าน จึงต้องศึกษาและติดตามอย่างเหมาะสมและเข้าใจ