สิ่งที่เกษตรควรรู้ เพื่อการเลือกใช้เทคโนโลยี Smart Farming อย่างเหมาะสม

SME Update
03/12/2021
รับชมแล้วทั้งหมด 8218 คน
สิ่งที่เกษตรควรรู้ เพื่อการเลือกใช้เทคโนโลยี Smart Farming อย่างเหมาะสม
banner

Smart Farming หรือการทำเกษตรสมัยใหม่ (Modern Agriculture) ที่มุ่งเน้นการจัดการผลิตด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี แนวคิดการเปลี่ยนผ่านการทำเกษตรสู่ยุคใหม่ซึ่งจะแตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง เนื่องจากการทำเกษตรกรรมในปัจจุบันรวมถึงในอนาคตจะต้องอาศัยเทคโนโลยีเพื่อมาเพิ่มคุณภาพการผลิต การเก็บเกี่ยวหรือแม้แต่การแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า

ด้วยเหตุนี้ จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ที่เทคโนโลยีมีส่วนสำคัญในการเร่งให้ภาคเกษตรมีการพัฒนา หรือปรับปรุงวิธีการผลิตรูปแบบเดิมไปสู่การทำเกษตรสมัยใหม่ ซึ่งจะมีเทคโนโลยีที่น่าสนใจและส่งผลโดยตรงต่อเกษตรกร


 


1.เกษตรอัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มคุณภาพผลผลิต เทคโนโลยีและนวัตกรรมการปลูกผักหรือพืชอายุสั้นด้วยเทคนิคใหม่ๆ เช่น การปลูกพืชไม่ใช้ การผลิตสาหร่ายเพื่อใช้เป็นอาหารสัตว์ การทำฟาร์มแนวตั้ง (Vertical Farming) โดยใช้แสงจากหลอดไฟ LED ทดแทนแสงจากดวงอาทิตย์ ซึ่งในปัจจุบันมีรูปแบบในการพัฒนาการเพาะปลูกไปอย่างมากมาย ทำให้เป็นทั้งโอกาสและการหาโอกาสใหม่ๆ ได้อีกด้วย

2. เทคโนโลยีในการผลิตอาหารและเพิ่มประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานอาหาร เช่น การใช้ AI, Machine Learning, IoT, Big Data, เซนเซอร์ควบคุมภูมิอากาศ ที่ส่งผลให้สามารถผลิตอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ แต่ประหยัดน้ำ ลดใช้พลังงาน และนำไปสู่การจัดการแบบไม่เหลือทิ้งในภาคเกษตร (Zero Waste) ซึ่งปัจจุบันธุรกิจด้านเกษตรทั่วโลกมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่องในแง่ของการนำเทคโนโลยีมาส่งเสริมผลิตภาพและประสิทธิภาพการทำงานตลอดห่วงโซ่อุปทานซึ่งเป็นแนวทางไปสู่การทำเกษตรสมัยใหม่ที่มีความยั่งยืน

3. การปรับปรุงพันธุ์ (Plant Breeding) เทคโนโลยีด้านการศึกษาพันธุกรรมของพืชด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ หรือองค์ความรู้ที่เรียกว่าจีโนมิกส์ (Genomics) ซึ่งเป็นการศึกษารหัสพันธุกรรมทั้งหมดของสิ่งมีชีวิต Genomics ประกอบด้วย การตัดต่อยีนหรือพันธุกรรม โดยในปัจจุบันการศึกษา Genomics ได้รับประโยชน์จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัล ตั้งแต่เทคโนโลยีที่ใช้เก็บข้อมูลปริมาณมากที่รวดเร็วและแม่นยำ

ตลอดจนการนำวิทยาการด้านการปรับปรุงและพัฒนาพันธุ์พืชมาเป็นส่วนเสริมสร้างให้เกิดเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่ดีกว่าเดิม หรือตรงตามความต้องการของผู้บริโภคมากกว่าเดิม อาทิ เช่น การพัฒนาสายพันธุ์ข้าวน้ำตาลน้ำที่เป็นที่ต้องการของผู้ป่วยเบาหวาน หรือในด้านปศุสัตว์ เช่น การพัฒนาสายพันธุ์โคเนื้อลายหินอ่อน 

ด้วยเหตุนี้ จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีไม่เพียงส่งผลดีต่อเกษตรกร แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาวงการเกษตรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายทางสู่มือผู้บริโภค โดยการผลิตสินค้าที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ใช้ปัจจัยการผลิตน้อยลง หรือเกิดความคุ้มค่าสูงสุด  ปลอดภัย สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม




อย่างไรก็ตาม การเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ ยังเป็นประเด็นที่เปิดกว้าง เนื่องจากจะต้องศึกษาในหลายๆ ด้านอย่างรอบคอบ แต่ก็พอจะให้คำจำกัดความได้คร่าวๆ โดยมี 3 ประเด็นหลักที่ควรพิจารณา คือ

1.เทคโนโลยี คือต้นทุน ดังนั้นผู้ใช้จึงต้องเลือกเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้เหมาะสม โดยคำนึงถึงราคาเปรียบเทียบของปัจจัยการผลิต ชนิดต่างๆ รวมทั้งราคาเปรียบเทียบระหว่างต้นทุนกับราคาผลิตผล และที่สำคัญคือราคาในการดำเนินการส่วนต่างๆ ด้วย เพราะอย่าลืมว่าการลงทุนด้านเทคโนโลยียังเกิดเป็นต้นทุนแฝง อาทิ การจัดการ ดูแลรักษาให้สามารถใช้งานได้สมบูรณ์

2.ความเหมาะสมตามขนาดฟาร์ม ขนาดเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเลือกใช้เทคโนโลยีให้เหมาะกับขนาดของพื้นที่ ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ สภาพดิน สภาพน้ำ พืชที่ปลูก และยังต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับความรู้ความสามารถของเกษตรกรด้วย

3.เหมาะสม ไม่ได้แปรว่าทันสมัย  ดังนั้น ความเหมาะสมในการเลือกลงทุนด้านเทคโนโลยีไม่ใช่เลือกเทคโนโลยีที่ดูทันสมัยที่สุด แต่ควรเลือกที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด โดยการนำข้อ1 และ ข้อ 2 มาพิจารณาประกอบ




เทคโนโลยีด้านเกษตรอะไรบ้างเกษตรกรสนใจ

ด้านการเตรียมปัจจัยและวางแผนการผลผลิต อาทิ การใช้ซอฟต์แวร์เพื่อ วิเคราะห์คุณสมบัติของดิน น้ำ ปุ๋ย สภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศ การใช้ปัจจัย รวมถึงการจัดการภายในฟาร์มด้วย

ด้านการให้ปัจจัยและติดตามกระบวนการผลิต อาทิ การปรับเปลี่ยนรูปแบบการเพาะปลูกโดยไม่ใช้ดิน การคำนวณการให้ปัจจัยด้านการเติบโตแก่พืชที่เหมาะสม การควบคุมวัชพืช หรือแม้แต่การใช้แขนกล หุ่นยนต์ หรือ โดรน มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต รวมถึงด้านปศุสัตว์ เช่น การใช้เซนเซอร์สามารถตรวจสุขภาพ พฤติกรรมการดื่มและกินอาหาร

ด้านส่งเสริมการตลาด อาทิ การพัฒนาช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตรในรูปแบบแพลตฟอร์มทั้งออนไลน์และออฟไลน์ หรือแม้แต่การใช้ Applicationเพื่อช่วยให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนระยะเวลาเพาะปลูกให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตรงกับช่วงที่ราคาดี สามารถจัดการความเสี่ยงทางการตลาด

รวมทั้งการเชื่อมโยงข้อมูลตลอดห่วงโซ่อุปทานทำให้เกิดระบบบริหารจัดการสามารถวิเคราะห์และพยากรณ์ความเสี่ยงจากปัจจัยความไม่แน่นอน ทำให้เกษตรกรวางแผนเพาะปลูก แผนการตลาด และการจัดส่งให้เร็วและแน่นอนล่วงหน้าได้ และเพื่อลดการสูญเสีย

 

ประเด็นเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกษตรกรควรนำไปพิจารณาประกอบการตัดสินใจในการเลือกที่จะปรับปรุง หรือพัฒนาการทำเกษตร สู่การทำเกษตรสมัยใหม่โดยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มความสามารถในการขายสินค้า และรวมทั้งเพิ่มรายได้จากมูลค่าของสินค้าที่เพิ่มขึ้นได้อีกด้วย

Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

ส่องอนาคต ‘ไฮโดรเจนสีเขียว’ ทำไม? ถึงกลายเป็นแหล่งพลังงานใหม่ของไทย ไปสู่ Net Zero ไวขึ้น

ส่องอนาคต ‘ไฮโดรเจนสีเขียว’ ทำไม? ถึงกลายเป็นแหล่งพลังงานใหม่ของไทย ไปสู่ Net Zero ไวขึ้น

ปัจจุบันประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก มีโจทย์สำคัญต้องเร่งแก้ นั่นคือ ภาวะโลกเดือด และปัญหาด้านพลังงาน ซึ่งทั้ง 2 เรื่อง เป็นปัญหาใหญ่ที่มีความเชื่อมโยงกัน…
pin
30 | 15/12/2024
8 สูตรลับ Festive Marketing เพิ่มยอดขายแบบประหยัด แต่ครองใจลูกค้าทุกเทศกาล

8 สูตรลับ Festive Marketing เพิ่มยอดขายแบบประหยัด แต่ครองใจลูกค้าทุกเทศกาล

กลยุทธ์ Festive Marketing คืออะไร?Festive Marketing หรือการตลาดช่วงเทศกาล เป็นกลยุทธ์การตลาดที่มุ่งเน้นการสร้างแคมเปญและกิจกรรมทางการตลาดที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลต่าง…
pin
26 | 13/12/2024
พลิกโฉมอุตสาหกรรม อะลูมิเนียมไทย ให้คาร์บอนต่ำ สู่เส้นทางอุตสาหกรรมสีเขียว

พลิกโฉมอุตสาหกรรม อะลูมิเนียมไทย ให้คาร์บอนต่ำ สู่เส้นทางอุตสาหกรรมสีเขียว

วิกฤตการณ์สภาพภูมิอากาศโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ กำลังส่งผลกระทบต่อทุกชีวิตบนโลกใบนี้ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เร่งให้เกิดภาวะโลกร้อนคือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานสูงอย่างอุตสาหกรรมโลหะ…
pin
34 | 07/12/2024
สิ่งที่เกษตรควรรู้ เพื่อการเลือกใช้เทคโนโลยี Smart Farming อย่างเหมาะสม