รู้หรือไม่? ใส่แมสก์เพียงแค่ลดเสี่ยง แต่สร้างภูมิต้านทานได้ด้วย

Edutainment
27/12/2020
รับชมแล้วทั้งหมด 2572 คน
รู้หรือไม่? ใส่แมสก์เพียงแค่ลดเสี่ยง แต่สร้างภูมิต้านทานได้ด้วย
banner

สถานการณ์โควิด 19 ในประเทศไทยกลับมาตึงเครียดอีกครั้งท่ามกลางการแพร่ระบาดครั้งใหม่ ที่กำลังแพร่กระจายเป็นวงกว้าง หลายพื้นที่ตกอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยงต้องเฝ้าระวัง จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นและเริ่มกระจายตัว กลายเป็นการระบาดวงกว้างเกิดขึ้นในประเทศไทยอีกระลอกหนึ่ง ในขณะที่วัคซีนป้องกันรักษาโรคยังอยู่ในช่วงของการทดลองวิจัย ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะได้เริ่มใช้ในช่วงปลายปี 2564 ฉะนั้นแล้วสิ่งที่สำคัญในเวลานี้ที่จะช่วยสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 และเซฟตัวเองให้ห่างไกลจากการกลับมาแพร่ระบาดใหม่ในไทย ก็คือ "การมีวินัยอย่างเคร่งครัด ไม่ประมาท และสวมหน้ากากป้องกันไว้เป็นการ์ดป้องกันโรคตลอดเวลา" 

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

ศาสตราจารย์นายแพทย์อมร ลีลารัศมี นายกแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ได้ออกมาเผยแพร่ให้ข้อมูลความรู้ในช่วงก่อนที่จะมีวัคซีนใช้ป้องกันรักษาในประเทศไว้ว่า “หน้ากากอนามัยคือวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ที่ดีที่สุด” ในขณะนี้ และจะทำให้คนไทยที่การ์ดไม่ตกรอดจากการแพร่ระบาดในครั้งนี้ โดยศาตราจารย์นายแพทย์อมร กล่าวว่า

ในช่วงนี้ก่อนถึงเวลาปลายปีหน้า ผมขอเรียนข้อเท็จจริงว่า ตอนนี้คนไทยได้ใช้วัคซีนป้องกันโควิด 19 ที่มีประสิทธิภาพดีมากและปลอดภัยจากฤทธิ์ข้างเคียงทั้งหลายอยู่แล้ว นั่นคือการสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อเข้าไปที่ชุมนุมชน หรือในที่มีคนแออัดและอากาศไม่ถ่ายเท

ทั้งนี้เพราะการสวมหน้ากากอนามัย คือด่านสกัดกั้นเชื้อไวรัสโควิด 19 มิให้เข้ารูจมูกและปากของเรา อย่าสวมหน้ากากอนามัยต่ำกว่ารูจมูก หากสวมกระชับก็ป้องกันโรคได้เด็ดขาด หากเกิดพลาดพลั้งรับเชื้อเข้ารูจมูกบ้าง จำนวนเชื้อจะน้อยมาก เชื้อจำนวนน้อยนิดนี้จะไปก่อโรค แต่จะไม่ปรากฏอาการใดๆ หรือมีเล็กน้อยเท่านั้น ท่านจะไม่ป่วยรุนแรง ไม่ถึงตายแน่นอน แต่กลับจะมีภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นได้ ทำให้ตัวเรามีภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นเองโดยที่ยังไม่ต้องไปฉีดวัคซีน

หากพลาดพลั้งไปรับเชื้อ ในขณะสวมหน้ากากอนามัยในที่อื่นๆ อีก ภูมิคุ้มกันของเราจะถูกกระตุ้นให้เกิดสูงขึ้นไปอีก และเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แตกต่างจากการไม่สวมหน้ากากอนามัย ซึ่งเมื่อรับเชื้อจะรับเต็มจำนวนเข้าไปในปอด และเสี่ยงต่อการป่วยหนัก เพราะร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันไม่ทัน เชื้อไวรัสจำนวนมากก็เข้าไปทำลายเซลล์จำนวนมากของเราด้วย และการต่อสู้เชื้อไวรัสจำนวนมากที่ร่างกายรับเข้ามาในทางเดินหายใจอย่างทันทีทันควันนั้น ร่างกายจะปล่อย Cytokine Storm ได้

Cytokine Storm คือสารที่เซลล์ภูมิคุ้มกันปล่อยออกมาต่อสู้เชื้อโรคจำนวนมาก แต่ปล่อยออกมามากเกินไป จนทำลายเซลล์ตนเองด้วย ทั้งสองกลไกนี้ทำให้เนื้อปอดถูกทำลายมากและพิการ สูญเสียหน้าที่แลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ ดังนั้นคนไทยต้องสวมหน้ากากอนามัย เมื่อเข้าไปในชุมชนที่เราไม่รู้จัก เพราะหากพลาดพลั้งเกิดรับเชื้อ ก็จะรับจำนวนน้อยมาก และไม่ป่วยรุนแรง แถมยังเกิดภูมิต้านทานโรคได้อีก ดังนั้นหน้ากากอนามัยคือวัคซีนป้องกันโควิด 19 ที่ดีที่สุด เพราะราคาหน้ากากอนามัยถูกมากกว่าวัคซีน ที่คาดว่าตกประมาณ 500 ถึง 1,000 บาท

 

ประสิทธิภาพของหน้ากากอนามัยที่มีต่อการป้องกันโรคโควิด 19

โดยปกติทั่วไปแล้วหน้ากากอนามัย ถูกผลิตมาเพื่อใช้สวมใส่ปกป้องระบบทางเดินหายใจจากเชื้อโรคต่างๆ ได้แก่ เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา รวมถึงมลพิษที่อาจเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจของมนุษย์ จัดเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค จากผู้ป่วยไปสู่ผู้สัมผัสที่อยู่ใกล้ชิดอีกด้วย หากมีการสวมใส่อย่างถูกวิธี หน้ากากอนามัย จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดต่อของโรคโควิด19 สามารถลดการแพร่กระจายของละอองฝอยขนาดใหญ่และขนาดเล็กได้ถึง 80% โดยต้องสวมใส่ให้กระชับกับใบหน้า ใช้ป้องกันละอองฝอยขนาดใหญ่ได้ดี แต่ใช้ป้องกันละอองฝอยขนาดเล็กได้ไม่เต็มที่และมีให้เลือกใช้ 3 ประเภท ด้วยกัน

1. หน้ากากอนามัยแบบเยื่อกระดาษ 3 ชั้น ใช้สวมในขณะผ่าตัด (surgical face mask) เพื่อป้องกันเลือดหรือสารคัดหลั่งของผู้ป่วยที่อาจกระเด็นเข้าปากและจมูกของแพทย์ผ่าตัด และป้องกันน้ำลาย เสมหะ หรือสารคัดหลั่งจากระบบทางเดินหายใจของแพทย์ผ่าตัด ที่อาจก่อให้เกิดการปนเปื้อนในขณะที่ทำการผ่าตัด สามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อและท้องตลาดทั่วไป ราคาไม่แพง

2. หน้ากากชนิด N95 เป็นหน้ากากที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าหน้ากากอนามัยแบบเยื่อกระดาษ 3 ชั้น ลักษณะพิเศษของหน้ากากชนิดนี้ คือสามารถครอบลงไปที่บริเวณหน้า จมูก และปากอย่างมิดชิด (บางรุ่นจะมีช่องสำหรับหายใจ) สามารถป้องกันเชื้อโรคที่มีขนาดอนุภาคขนาดเล็ก 0.3 ไมครอน เช่น เชื้อไวรัส ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เชื้อไวรัสหัด เชื้อไวรัสอีสุกอีใส เชื้อแบคทีเรีย เช่น วัณโรคและเชื้อรา และป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ด้วย

3. หน้ากากอนามัยกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 สามารถป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จะมีช่องระบายอากาศและความชื้น จึงหายใจสะดวกขึ้น ความสามารถในการป้องกันเชื้อโรคที่มีอนุภาคขนาดเล็ก เช่น เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เชื้อไวรัสหัด เชื้อไวรัสสุกใส และเชื้อวัณโรคนั้น ขึ้นอยู่กับมาตรฐานการผลิตของแต่ละแบรนด์

ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ก็เป็นเครื่องมือป้องกันการติดต่อและการแพร่ระบาดของโรคโควิดได้ทุกระลอกไม่ว่าจะกลับมาแพร่ระบาดใหม่สักกี่ครั้ง ขอแค่สวมใส่อย่างมิดชิด รักษาระยะห่างทางสังคม พกเจลแอลกอฮอล์ ล้างมือเป็นประจำสม่ำเสมอ ก็เป็นเกาะป้องกันให้อยู่รอดปลอดภัย ห่างไกลจากเชื้อโรค ระหว่างรอให้มียารักษาโรคหรือวัคซีนออกมาใช้ได้ทั่วโลก.

 

แหล่งอ้างอิง

https://rtarf.mi.th/index.php/

https://w2.med.cmu.ac.th/  


5 เรื่องต้องพึงระวัง...เที่ยวปีใหม่ปลอดภัย ปลอดโรคภัย

10 ประเด็นสุขภาพคนไทยในปี 2563


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

เปรียบเทียบ IG Algorithm แบบเก่า vs ใหม่

เปรียบเทียบ IG Algorithm แบบเก่า vs ใหม่

รู้หรือไม่? Instagram Algorithm มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ! Bangkok Bank SME สรุปมาให้แล้วว่า IG Algorithm แบบเก่ากับแบบใหม่ต่างกันอย่างไร…
pin
23 | 13/03/2025
30+ เครื่องมือ AI สำหรับธุรกิจในปี 2025

30+ เครื่องมือ AI สำหรับธุรกิจในปี 2025

ปฏิเสธไม่ได้ว่า Generative AI ได้กลายมาเป็นผู้ช่วยคนสำคัญสำหรับการทำธุรกิจในวันนี้.โดยผลสำรวจของ Gartner พบว่า 42% ในปี 2025 มากกว่า 60%…
pin
30 | 27/02/2025
ตรุษจีนยุคใหม่ไร้ Foodwaste เคลียร์ของไหว้เป็นเมนูเด็ด แถมลดโลดร้อน

ตรุษจีนยุคใหม่ไร้ Foodwaste เคลียร์ของไหว้เป็นเมนูเด็ด แถมลดโลดร้อน

ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมยังคงเป็นประเด็นที่คนทั่วโลกให้ความสนใจ เพราะยิ่งนับวัน การคืบคลานเข้ามาของสภาวะโลกร้อนที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อหลายภาคส่วน…
pin
1247 | 07/02/2024
รู้หรือไม่? ใส่แมสก์เพียงแค่ลดเสี่ยง แต่สร้างภูมิต้านทานได้ด้วย