จากกรณีล่าสุดที่สหราชอาณาจักรให้ความสนใจเข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือ
CPTPP (Comprehensive and Progressive
Trans-pacific Partnership) ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิก 11 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น แคนาดา เม็กซิโก เปรู ชิลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์
สิงคโปร์ มาเลเซีย บรูไน และเวียดนาม มีเพียง 7 ประเทศที่ให้สัตยาบันเข้าร่วม
ได้แก่ เม็กซิโก ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ แคนาดา ออสเตรเลีย และเวียดนาม
รวมทั้งมีข่าวว่าทั้งจีนและเกาหลีใต้ต่างให้ความสนใจการเข้ารวม CPTPP ด้วยเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ ประเด็นที่สังคมการค้าโลกกำลังจับตาคือ สหรัฐฯ จะกลับเข้าร่วมด้วยหรือไม่ ภายหลังจากที่ออกจากความตกลงนี้ไปในสมัยที่โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิปดีสหรัฐ
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า CPTPP กับโอกาสที่สหรัฐฯ จะเข้าร่วมเวทีนี้อีกครั้งนั้น
ประเมินว่าด้วยการที่สหรัฐฯ เป็นประเทศใหญ่ อาจจะให้ความสำคัญในการทำ FTA หรืออาจจะสร้างเวทีใหม่ขึ้นมา มากกว่าการหวนกลับมาเข้าร่วม CPTPP เนื่องจาก CPTPP ซึ่งแปลงกายมาจาก TPP แต่ได้มีการตัดประเด็นซึ่งเป็นข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ในขณะนั้นออก
ซึ่งหากจะเข้าร่วมอาจจะต้องเจรจาข้อเรียกร้องเดิมใหม่
ดังนั้นจึงมองว่าสหรัฐฯ อาจจะเลือกที่จะสร้างเวทีใหม่ของตัวเองขึ้นมา
เพื่อเจรจาเรื่องที่ต้องการมากกว่าการหวนกลับไปเจรจาในเวที CPTPP ซึ่งสหรัฐฯ ได้ออกจากการเป็นสมาชิกแล้ว
ด้วยเหตุนี้สำหรับประเทศไทยก็ต้องมองว่า
CPTPP มีความน่าสนใจอย่างไร ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกอยู่ 7
ประเทศและ 2 ประเทศที่ไทยไม่มี FTA ก็คือ เม็กซิโกและแคนาดา
รวมถึงล่าสุดที่สหราชอาณาจักรที่แสดงตัวอย่างชัดเจนว่าจะเข้าร่วมเวทีนี้
ก็อาจจะเพิ่มไปอีก 1 สมาชิกที่ไทยยังไม่มี FTA ดังนั้นสำหรับประเทศไทยการจะเข้าร่วม
CPTPP หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับความน่าสนใจของประเทศที่เข้าเป็นสมาชิกด้วย
ส่วนประเด็นที่สังคมกำลังจับตาในการเข้าร่วม
CPTPP ของไทย คือการต้องเข้าร่วมอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่
หรืออนุสัญญา UPOV 1991 การยกระดับคุณภาพมาตรฐานแรงงาน
และมีอีกหลายเรื่องที่ภาคสังคมของประเทศไทยยังมีข้อกังวล
ดังนั้นข้อสำคัญต้องก้าวข้ามความกังวลของคนในประเทศด้วย
โดยที่ผ่านมาไทยมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาเรื่องการเข้าร่วมเป็นสมาชิก CPTPP ซึ่งผลก็ออกมาว่าประเทศไทยยังไม่มีความพร้อมในหลายๆ
ด้านในการเข้าร่วม CPTPP และความท้าทายอาจมีมากกว่าความน่าสนใจ
“หากในอนาคต CPTPP มีประเทศที่สนใจเข้าร่วมมากขึ้น ก็อาจจะทำให้กลุ่มนี้ใหญ่ขึ้นและน่าสนใจมากขึ้น
ซึ่งในปีที่ผ่านมา สี จิ้นผิง ผู้นำของจีนได้กล่าวว่าจะพิจารณาเวทีนี้มากขึ้น
ซึ่งไทยก็ต้องติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป และศึกษาผลได้ ผลเสีย
ก่อนที่จะมองถึงความเป็นไปได้ในการก้าวข้ามความท้าทายต่อการเข้าร่วมเวที CPTPP” อธิบดีกรมเจรจาการค้าฯ กล่าวสรุป
ขณะที่จากข้อมูลล่าสุดที่มีความเป็นไปได้ว่า
นอกจากอังกฤษยังมีเกาหลีใต้และจีนที่อาจจะให้ความสนใจเข้าร่วม CPTPP
ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ไทยต้องกลับมาชั่งผลได้ผลเสียใหม่อีกครั้ง โดยล่าสุดที่ประชุม ครม.ได้มอบหมายให้คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
(กนศ.) เร่งจัดทำกรอบการทำงาน เพื่อติดตามแผนงานการดำเนินการเพื่อปรับตัวของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ โดยให้ร่วมมือกับหน่วยงานที่มีภารกิจต่อเนื่องรวมทั้งภาคส่วนต่างๆ
เช่น ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม โดยรวบรวมข้อมูลและจัดทำข้อเสนอแนะเกี่ยวกับความพร้อม
และเงื่อนไขเวลาในการขอเจรจาเข้าร่วม CPTPP หรือความไม่พร้อมของไทย
รายงานให้ ครม.รับทราบใน 90 วันเพื่อหาข้อสรุปต่อไป
ทำให้มีการประเมินว่าในช่วงเดือนพฤษภาคม 2564
นี้เราอาจจะทราบผลที่ชัดเจนว่า ไทยยังจะให้ความสนใจเข้าร่วม CPTPP อีกหรือไม่ ซึ่งมีประเด็นที่ต้องพิจารณา อาทิ ความมั่นคงต่อภาคเกษตรของไทย
เรื่องเมล็ดพันธุ์ มาตรการที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดเขตการค้าเสรี (Free
Zone) ความมั่นคงในด้านสาธารณะสุข
และรวมถึงการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า
ซึ่งประเด็นเหล่านี้จะต้องถูกนำมาประกอบการพิจารณาอย่างรอบคอบ