รู้ยัง?...หน้ากากอนามัยชนิดไหนป้องกันโควิดได้ผลดีที่สุด
ดูจากสถานการณ์ในปัจจุบันแล้ว
ชีวิตเรายังอาจจะต้องอยู่กับหน้ากากอนามัยป้องกันโควิด 19 ไปอีกสักระยะหนึ่ง
หลังจากที่เมื่อปีที่แล้วทั้งปีหน้ากากอนามัยได้กลายมาเป็นอวัยวะชิ้นที่ 34
ของเราไปแล้ว (ชิ้นที่ 33 คือโทรศัพท์มือถือ)
แม้ว่าตอนนี้เริ่มมีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 แล้วก็ตาม
แต่ผลของวัคซีนยังไม่เป็นที่น่าพอใจจนหลายคนอาจจะยอมสวมหน้ากาก-ล้างมือไปตลอดก็ได้
ดังนั้นหน้ากากอนามัยยังคงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมนุษย์ทุกคน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสมหัตภัยโควิด 19 แม้จะมีการใส่หน้ากากกันมาเป็นปีแล้ว แต่ก็ยังถกเถียงกันอยู่ว่าเราควรจะสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือไม่ และทุกคนก็อยากรู้ว่าหน้ากากอนามัยแบบไหนสามารถป้องกันไวรัสโควิดได้ดีที่สุด
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ล่าสุดมีการวิจัยจาก Duke University in Durham (DUD) ซึ่งเป็นโรงพยาบาลการแพทย์
ตั้งอยู่ที่ นอร์ธ คาโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา
โรงพยาบาลแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องการวิจัยค้นคว้าทางการแพทย์ โดยในช่วงวิกฤติของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด
19 นั้น DUD ได้ทำการทดลองประสิทธิภาพของหน้ากากอนามัยหลายๆ
ชนิดที่นิยมสวมใส่ เพื่อป้องการไวรัสโควิด 19
ซึ่งได้ข้อสรุปสำหรับประสิทธิภาพ 5 หน้ากากอนามัยดังนี้
หน้ากากป้องกันฝุ่น
N95 เป็นหน้ากากที่มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่น PM2.5 ไวรัส และแบคทีเรีย ค่อนข้างดี เพราะสามารถปิดกั้นการแพร่กระจายของละอองทางเดินหายใจประมาณ
99% นอกจากนี้ลักษณะของหน้ากาก N 95 จะครอบไปที่ปากและจมูกอย่างมิดชิด
จึงทำให้เชื้อไวรัสไม่สามารถลอดผ่านได้ ผลการวิจัยชี้ชัดว่าหน้ากาก N 95
เป็นตัวเลือกสำหรับป้องกันเชื้อไวรัสโควิดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
หน้ากากทางการแพทย์แบบ
3 ชั้น ที่ผลิตจากพลาสติกพอลิโพรพิลีน
มีความปลอดภัยมาเป็นอันดับสอง เนื่องจากป้องกันเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสได้สูงถึง
95%
หน้ากากผ้า cotton ต้องเป็นหน้ากากที่ทำจากผ้าฝ้าย
100% หนา 2 ชั้นและมีวัสดุสังเคราะห์อีกชั้นหนึ่ง
สามารถป้องกันละอองฝอยที่ปล่อยออกมาผ่านการไอ,จาม, พูดคุย ในระยะ 2.5 นิ้ว ซึ่งผ้ายิ่งหนายิ่งดี แต่อาจจะมีปัญหาตรงที่หายใจไม่สะดวก
FACE SHIELD เป็นอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อไวรัสที่ตาและใบหน้า
ปกติเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ป้องกันการกระเด็นของเลือดและสารจากร่างกายผู้ป่วย
ทางการแพทย์ใช้เมื่อต้องล้างของสารคัดหลั่ง เก็บขยะหรือเก็บผ้าใช้แล้วของผู้ป่วย แต่ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด
19 FACE SHIELD ถูกนำมาใช้แทนการสวมหน้ากากด้วย จากการทดสอบผลปรากฏว่าช่วยลดการสัมผัสเชื้อไวรัสถึง
96% เมื่อสวมใส่ในระยะห่างจากคนที่สนทนาด้วย 18 นิ้ว
ผ้าพันคอ ในกรณีฉุกเฉินที่คุณไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย
แต่หากจำเป็นต้องพูดคุยกับคนอื่นๆ
ผ้าพันคอหรือผ้าเช็ดหน้า อาจเป็นตัวเลือกใกล้มือที่หยิบฉวยมาปิดจมูกได้
ผลการศึกษาพบว่าป้องกันได้น้อยมาก เพราะละอองฝอยน้ำมูกน้ำลายจากอาการไอ แม้จะสวมใส่หน้ากากยังสามารถสูดดมเข้าไปได้
แต่ถ้า....ไม่ใส่หน้ากากเลย
ผลการศึกษาล่าสุดแสดงให้เห็นว่า หยดของเหลวจากการพูดการไอหรือการหายใจออกสามารถเดินทางและลอยอยู่ในอากาศได้ถึง
26 ฟุตในเวลาไม่กี่นาที แม้ว่าคุณติดเชื้อโควิดแต่ไม่มีอาการของโควิด19
ก็ยังสามารถแพร่เชื้อได้
ดังนั้นการไม่ใส่หน้ากากจึงมีความเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อรวมทั้งติดเชื้อได้สูงมาก
แต่อย่างไรก็ตามไม่มีหน้ากากชนิดใดที่จะสามารถป้องเชื้อไวรัสจากโควิด
19 ได้ผล 100% ดังนั้นทุกคนควรระวังด้านสุขอนามัยควบคู่ไปกับการสวมหน้ากากดังนี้
1. ล้างมือก่อนใส่หน้ากากอนามัย
2. ตำแหน่งของหน้ากากควรไว้เหนือจมูกและปาก
และตรวจสอบให้แน่ใจว่าพอดีกับด้านข้างของใบหน้า
3. รักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากผู้อื่น
4. ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำอย่างน้อย
20 วินาที
5. เมื่อกลับถึงบ้านแล้วให้ถอดหน้ากากออกอย่างระมัดระวัง
ควรล้างหน้ากากในเครื่องซักผ้า
6. อย่าสัมผัสตาจมูกหรือปากของคุณเมื่อถอดหน้ากาก
และควรล้างมือทันทีหลังจากนั้น
สุดท้าย หากทุกคนช่วยกัน
สำนึกต่อส่วนรวมร่วมกัน ป้องกันตนเองและระมัดระวังอยู่เสมอ
ก็จะทำให้เราสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากสำบากนี้ไปได้ในที่สุด