รู้ก่อนเข้าสู่สนามออนไลน์
ใครเป็นใครในแพลตฟอร์ม ‘ช้อปปี้’ ซึ่งตลาดอีคอมเมิร์ซที่เปิดกว้างในปัจจุบัน
ผู้ค้าออนไลน์ทุกวันนี้คงไม่ได้มองที่ตลาดในประเทศเพียงอย่างเดียว
แต่อาจจะมองถึงโอกาสในตลาดอาเซียนด้วย
และจากการสำรวจ
‘Online
Seller Archetypes’ โดย Sea (Group) เพื่อจับ Insight ว่าบทบาทของอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มมากขึ้น
จากกระแส Disruption และการแพร่ระบาดของโควิด 19
ส่งแรงกระเพื่อมไปถึงผู้ค้าออนไลน์ในภูมิภาคอาเซียนอย่างน่าสนใจ
โดยสำรวจจากผู้ค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มช้อปปี้ราว
42,000 ราย จากทั้งหมด 6 ประเทศ ประกอบไปด้วยประเทศไทย สิงคโปร์ เวียดนาม
ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ชี้ว่ารูปแบบการรับอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มมาใช้งานมีความหลากหลาย
และสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ The Homemaker, The Student,
The Never-too-late, The Moonlighter และ The
Highly-digital
ซึ่งใช้งานอีคอมเมิร์ซเพื่อตอบโจทย์ความจำเป็นที่แตกต่างกัน ทั้งในแง่การพัฒนาคุณภาพชีวิตและการเสริมศักยภาพธุรกิจ สะท้อนให้เห็นถึงแรงกระเพื่อมจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ที่สนับสนุนให้เกิดความยืดหยุ่น และความสามารถในการปรับตัวในผู้ค้าออนไลน์หลากหลายกลุ่มในสังคมวงกว้าง
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
Insight
ผู้ค้าออนไลน์ 5 กลุ่มอาเซียน น่าจับตามอง
1.
กลุ่มแม่บ้าน-พ่อบ้าน (The Homemaker Entrepreneurs)
บนแพลตฟอร์มช้อปปี้มีผู้ค้าออนไลน์กลุ่ม
The
Homemaker จำนวนไม่น้อย โดยเกือบทั้งหมดเป็นคุณแม่ในช่วงวัย 30 ที่ต้องรับหน้าที่ดูแลบ้าน และความเป็นอยู่ของสมาชิกในครอบครัวจำนวน 4 คนโดยเฉลี่ย นอกจากนี้ราว 60% ของ The
Homemaker ระบุว่า ‘การนำรายได้มาใช้ในการดูแลครอบครัว’
เป็นแรงจูงใจหลักในการค้าขายผ่านอีคอมเมิร์ซ
และปัจจัยสำคัญที่ทำให้เลือกช่องทางอีคอมเมิร์ซในการทำธุรกิจ
ได้แก่ ‘ความยืดหยุ่นของเวลาการทำงาน’ ซึ่งทำให้ The
Homemaker สามารถดำเนินธุรกิจและดูแลครอบครัวควบคู่กันไปได้
โดยไม่ต้องเสียสละอย่างใดอย่างหนึ่งไป โดยเฉพาะในช่วงที่จำเป็นต้องรักษาระยะห่าง
ซึ่งทั้งพ่อแม่และลูกๆ ถูกจำกัดพื้นที่ให้ทำงานและเรียนอยู่ในบ้าน
ดังนั้นแม่บ้านจำเป็นต้องทำ 2 หน้าที่ในเวลาเดียวกัน
ทั้งในบทบาท ‘ผู้ประกอบการ’ และ ‘ผู้ดูแลลูกและสมาชิกครอบครัว’
2.
กลุ่มนักเรียน-นักศึกษา (The Student Entrepreneurs)
กลุ่ม The Student ได้แก่ กลุ่มคนรุ่นใหม่ในวัยเรียนที่ค้าขายออนไลน์ควบคู่ไปกับการเรียน มีรายได้จากการขายสินค้าออนไลน์เป็นรายได้หลัก และนำรายได้ไปใช้เพื่อการศึกษาในอัตราที่สูงโดดเด่นจากกลุ่มอื่นๆ อย่างชัดเจน หากเปรียบเทียบกับผู้ค้าออนไลน์กลุ่มอื่นๆ แล้ว The Student มีเงินออมส่วนบุคคลค่อนข้างน้อย อีกทั้งยังต้องเข้าเรียนเต็มเวลาตามที่หลักสูตรการศึกษานั้นๆ กำหนด จึงทำให้มี ‘ความอ่อนไหวทางด้านการเงินและปัญหาการจัดการเวลา’ สูง
ดังนั้นอีคอมเมิร์ซจึงเข้ามาเป็นโซลูชันที่ช่วยให้คนรุ่นใหม่เหล่านี้
ได้ทดลองทำการค้าขายตามไอเดียและความสร้างสรรค์ของตนได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น
ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย มีต้นทุนต่ำและระดับความเสี่ยงที่ต่ำ
นับเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ The Student ผันตัวมาเป็นผู้ประกอบการบนโลกอีคอมเมิร์ซได้ง่ายยิ่งขึ้น
3.
กลุ่มผู้ประกอบการมืออาชีพจากโลกออฟไลน์ (The Never-too-late
Entrepreneurs)
ผู้ค้ากลุ่ม
The
Never-too-late คือผู้ประกอบการที่เดิมทำธุรกิจอยู่บนช่องทางออฟไลน์
และมีความเชี่ยวชาญจากประสบการณ์การทำธุรกิจที่ยาวนานกว่า 10
ปี
ทั้งนี้
พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตามสภาวะแวดล้อม ก็กดดันให้กลุ่ม The
Never-too-late ต้องเข้ามาใช้อีคอมเมิร์ซอย่างกะทันหัน
ไม่เพียงเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน รักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าที่มีอยู่
แต่ยังต้องการหาโอกาสขยายธุรกิจสู่ตลาดใหม่ๆ อีกด้วย
แม้ว่า
The
Never-too-late จะมีความเชี่ยวชาญจากประสบการณ์การทำงานจริงเป็นจุดแข็ง
แต่ก็มีจุดอ่อนเช่นกัน คือการที่พวกเขาเป็นกลุ่มที่มีประสบการณ์ร่วมกับเทคโนโลยีดิจิทัลน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับผู้ค้าออนไลน์กลุ่มอื่นๆ
สถิติจากรายงานชี้ว่าสัดส่วนยอดขายบนอีคอมเมิร์ซโดยเฉลี่ยของผู้ค้ากลุ่มนี้อยู่ที่
28% เท่านั้น ยังเติบโตได้อีกมากหาก Reskill-Upskill ผู้ประกอบการและพนักงาน เพื่อปลดล็อกข้อจำกัดให้ธุรกิจใช้ประโยชน์จาก Digital
Tools ได้เต็มที่มากขึ้น
4.
กลุ่มทำอาชีพเสริมคู่งานประจำ (The Moonlighter
Entrepreneurs)
กลุ่ม
The
Moonlighter คือ
กลุ่มพนักงานประจำที่ขายสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซเป็นอาชีพเสริม
โดยมองว่าอีคอมเมิร์ซใช้งานง่าย
ช่วยให้จัดการร้านค้าและคำสั่งซื้อได้ตามเวลาที่สะดวก และต้นทุนต่ำ
จึงตัดสินใจนำเข้ามาใช้เป็นโซลูชันในการรักษาระดับความพึงพอใจของทั้งนายจ้างและลูกค้าบนโลกออนไลน์
เนื่องจากงานประจำคือความมั่นคง
ส่วนอีคอมเมิร์ซเป็นแหล่งที่มาของรายได้หลัก ยิ่งไปกว่านั้น 2 ใน 3 ของ The Moonlighter เป็นกำลังหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว
พวกเขาจึงมีมุ่งมั่นและจริงจังกับการทำธุรกิจส่วนตัวบนอีคอมเมิร์ซ กลุ่ม The
Moonlighter มีความสามารถในการใช้ Digital Tools เป็นอย่างดีอยู่แล้ว หากเติมความรู้ในการบริหารธุรกิจเข้าไป
ก็จะทำให้มีศักยภาพการขยายธุรกิจสูง
5. กลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์มืออาชีพ (The Highly-Digital)
กลุ่ม
The
Highly-Digital คือกลุ่มคนที่สังคมมักจะนึกถึงเมื่อเราพูดคำว่า “พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์”
โดยพวกเขาขายสินค้าออนไลน์เป็นอาชีพหลักเพียงอาชีพเดียว
มีความแอคทีฟบนอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มสูง
บริหารจัดการร้านค้าออนไลน์ด้วยตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยสร้างยอดขายจากช่องทางอีคอมเมิร์ซได้มากกว่า
50%
ของยอดขายทั้งหมด นับเป็นกลุ่มที่มีทักษะการทำธุรกิจบนช่องทางดิจิทัลสูงที่สุดในกลุ่มผู้ค้าออนไลน์ทั้งหมด
โดยกลุ่ม The Highly-Digital มักเป็นคนช่วงอายุ 30 ปี โดย 66% ระบุว่าต้องการหารายได้เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว
และอีก 57% ระบุว่าต้องการนำรายได้ไปลงทุนต่อเพื่อขยายธุรกิจบนอีคอมเมิร์ซ
นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด
19 เข้ามาเร่งกระบวนการ
Digital Transformation ให้เร็วขึ้น หลายๆ
ประเทศมีความพยายามที่จะสนับสนุนและส่งเสริม SMEs ให้อยู่รอดด้วยการใช้
Digitalization ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างไรก็ตามการใช้มาตรการเยียวยาหรือส่งเสริมศักยภาพ
SMEs แบบ One-size-fit-all อาจไม่ใช่คำตอบ
เนื่องจากธรรมชาติของผู้ค้าออนไลน์มีความหลากหลาย
ทั้งด้านภูมิหลัง แรงจูงใจ และการนำอีคอมเมิร์ซไปปรับใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม ‘Hidden Entrepreneur’ อย่าง The Homemaker และ The Student
ที่แตกต่างไปจากภาพผู้ประกอบการในความคิดของสังคมส่วนใหญ่อย่างชัดเจน
ถือเป็นแรงกระเพื่อมที่สำคัญในการต่อยอดสู่แผนส่งเสริมศักยภาพคนไทยด้วยอีคอมเมิร์ซ
และยังสามารถขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Digital Nation อย่างต่อเนื่อง เตรียมความพร้อมสู่การเป็นแรงงานและผู้ประกอบการรุ่นใหม่แห่งอนาคต
ที่ไม่เพียงเพื่อช่วยยกระดับทักษะดิจิทัล ยังเพิ่มโอกาสในการทำงานและสร้างรายได้ที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน