‘ข้อมูลเครดิต’
เครดิตบูโร (Credit Bureau) ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมหนี้สินในระบบที่ใหญ่ที่สุดของระบบการเงินไทย เป็นสัญญาณเตือนภัยทางเศรษฐกิจ โดยข้อมูลเหล่านี้จะได้มาจากธนาคาร สถาบันการเงิน และ Non-Bank ที่เป็นสมาชิกขององค์กรกลาง ทำให้สถาบันการเงินรู้ว่าการใช้บัตรเครดิตของแต่ละคนเป็นอย่างไร มีประวัติหนี้ดีหนี้เสียอย่างไร จ่ายครบ จ่ายตรงหรือไม่ และมีภาระหนี้มากน้อยแค่ไหนซึ่งในบ้านเราเรียกองค์กรกลางนี้ว่า บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด นั่นเอง
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
‘เครดิตบูโร’ สำคัญยังไง ทำไมต้องตรวจ?
เพื่อตรวจเช็กข้อมูลตัวเองในเรื่องประวัติการชำระสินเชื่อทั้งหมดที่เรามีว่าเป็นอย่างไร สะท้อนถึงพฤติกรรมและวินัยทางการเงินของเจ้าของข้อมูล
รวมถึงแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการชำระหนี้และความน่าเชื่อถือด้วย นอกจากนี้ยังเป็นการตรวจสอบให้กับตัวเองอีกด้วยว่าเอกสารสำคัญส่วนตัวของเรา
มีใครนำไปแอบอ้างทำอะไรหรือไม่
เหตุผลที่ต้องตรวจเครดิตบูโร
1. เตรียมตัวก่อนไปขอสินเชื่อ-กู้ซื้อบ้าน ซื้อรถ ขอบัตรเครดิต
ดังคำว่า “รู้เราก่อนไปหาเขา”
2. ตรวจว่ามี “หนี้งอก” หรือหนี้ที่ไม่ใช่ของเรา หรือไม่
3. ตรวจว่า “มีประวัติค้างชำระหรือไม่” ถ้าข้อมูลไม่ถูกต้อง
ขอแก้ไขได้
4. ตรวจว่า “เมื่อชำระหนี้ที่ค้างหมดไปแล้ว” มีสถานะปิดบัญชี
ยอดหนี้เป็นศูนย์ หรือไม่
5. ตรวจว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล” เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่
ถูกต้องหรือไม่
การตรวจเครดิตบูโรเป็นเหมือนการตรวจสุขภาพทางการเงินประจำปี
อย่างน้อยก็ช่วยให้รู้ว่าปีนี้ยังมีสุขภาพทางการเงินที่แข็งแรงหรือเปล่า ต้องปรับปรุงอะไรบ้าง
เพื่อจะได้วางแผนการเงินเผื่ออนาคต
แต่? เช็กเครดิตบูโรบ่อยๆ ทำไมเสี่ยงขอสินเชื่อไม่ผ่าน
เนื่องจากแต่ละธนาคารจะมีเกณฑ์ หรือเงื่อนไขในการให้สินเชื่อแตกต่างกัน
ซึ่งในกรณีที่คุณมีประวัติการเดินบัญชีที่หมิ่นเหม่เมื่อเทียบกับรายได้
การที่คุณเช็กบูโรบ่อยๆ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่ผ่านการขอสินเชื่อ เนื่องจากธนาคารคิดว่าคุณอาจจะขอสินเชื่อจากที่อื่นไม่ผ่านจึงต้องมาขอสินเชื่อกับที่นี่
ซึ่งสาเหตุที่ไม่ผ่านอาจจะเป็นเพราะคุณสมบัติอะไรบางอย่างก็เป็นได้
ต้องทำอย่างไร ให้การขอสินเชื่อง่ายขึ้น
ทำประวัติเราให้ดีก่อนทำการกู้เงิน
เมื่อเรายื่นขอสินเชื่อ ธนาคารจะส่งข้อมูลของเราไปยังบริษัทที่ชื่อว่าเครดิตบูโร
เพื่อตรวจดูประวัติการชำระสินเชื่อต่างๆ ว่าเรามีประวัติเป็นยังไง มีประวัติจ่ายเงินตรงเวลาแค่ไหน
หรือมีปัญหาอะไรหรือเปล่า หากชื่อของเราขึ้นในเครดิตบูโรว่ามีการค้างชำระ
หรือมีประวัติเสีย ธนาคารอาจจะเลื่อนการอนุมัติสินเชื่อหรือปฏิเสธการขอสินเชื่อของเราได้เลย
สมัครทีละสถาบันการเงิน
สถาบันการเงินจะรู้ว่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
ผู้สมัครกู้ได้ทำการยื่นขอสมัครสินเชื่อไปกี่ครั้งจากเครดิตบูโร
ซึ่งถ้ามีการยื่นขอสมัครเป็นจำนวนมาก สถาบันการเงินจะระมัดระวังในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ
เนื่องจากคิดว่าผู้กู้ที่มีความต้องการสินเชื่อมากมักจะมีความเสี่ยงสูง
สร้างหนี้
ข้อนี้คงสร้างความแปลกใจให้กับใครหลายๆ
คน เพราะการที่เราจะขอสินเชื่อนั้นเครดิตต้องดีไม่ใช่เหรอ มีหนี้สินแบบนี้จะขอสินเชื่อผ่านได้ยังไง
สาเหตุก็เพราะทุกครั้งที่คุณมีหนี้ เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล ประวัติหนี้สิน-การชำระหนี้ต่างๆ
จะถูกส่งไปรวบรวมที่เครดิตบูโร ทำให้สถาบันการเงินใช้ประกอบการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อได้
ดังนั้นผู้ที่ไม่เคยมีประวัติหนี้สินใดๆ จะทำเรื่องขอสินเชื่อให้ผ่านได้ยาก
เอกสารถูกต้องและพร้อม
สิ่งที่มีปัญหากันมากที่สุดของคนไปขอสินเชื่อกับทางธนาคาร ก็คือเอกสารไม่สมบูรณ์
ทางที่ดีที่สุดควรสอบถามกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร ว่าถ้าต้องการขอสินเชื่อนั้นต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง
แล้วมาเตรียมให้ครบ
การเดินบัญชีเรื่องสำคัญ
การเดินบัญชีหรือจะเรียกว่า “หมุนเวียนเงินในบัญชี”
สำหรับมนุษย์เงินเดือนเป็นเรื่องที่ปกติ เพราะมนุษย์เงินเดือนจะมีเงินเดือนโอนเข้ามาทุกเดือนเป็นเรื่องปกติ
แต่สำหรับคนที่ประกอบอาชีพอิสระนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ยากกว่า
สำหรับการเดินบัญชีที่ดีคือต้องมีเงินฝากเหลือทิ้งไว้ในบัญชี
เหมือนว่าเรามีเงินเก็บอยู่ในนั้น สร้างความน่าเชื่อถือให้กับธนาคารได้เป็นอย่างดี
ถ้ามีเงินเข้าและออกเท่ากันไม่มีเงินคงเหลือในบัญชีเลย
ธนาคารก็จะลดความน่าเชื่อถือลงไป
NPL มีผลต่อการขอสินเชื่อ
ในกรณีที่เป็นหนี้ NPL (Non-Performing
Loan) หรือเงินให้สินเชื่อที่ค้างชำระเงินต้นเกิน 90 วัน ซึ่งลูกหนี้ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขการชำระเงินได้ตามกำหนดจนทำให้เกิดเป็นหนี้เสีย
ย่อมส่งผลให้สถาบันการเงินหรือธนาคารมีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น
และทำให้โอกาสในการขอสินเชื่อใหม่มีโอกาสถูกปฏิเสธมากขึ้นตามไปด้วย
โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ซึ่งสถาบันการเงินหรือธนาคารจะต้องประเมินความเสี่ยงกลุ่มลูกค้าที่ไม่ยอมจ่ายหนี้ด้วยเช่นกัน
อาชีพและรายได้
เมื่อเราจะขอสินเชื่อนั้นอาชีพก็เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะอาชีพที่มั่นคงมากเท่าไหร่
ยิ่งเพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อให้คุณมากเท่านั้น เนื่องจากรายได้จะแสดงให้ธนาคารเห็นว่า
เรามีความน่าเชื่อถือที่จะชำระหนี้ได้ และถ้าธนาคารอนุมัติสินเชื่อไปจะได้รับเงินคืนกลับมาแน่นอน
แหล่งอ้างอิง :