ดอกไม้กินได้! จากไอเดียธุรกิจเด็กไทย สร้างรายได้ แถมลดโลกร้อน
เทรนด์ “ดอกไม้กินได้” กำลังมาแรง โดยเฉพาะตามอาหารร้านหรู หรือเมนูมื้อพิเศษในโรงแรมชั้นนำ ซึ่งเชฟจะรังสรรค์จานด้วยการนำดอกไม้แสนสวยที่รับประทานได้ (Edible flowers) มาตกแต่ง เพื่อสื่อถึงความหรูหรา เพิ่มอรรถรสให้เมนูจานโปรดของคุณได้เป็นอย่างดี
ดอกไม้กินได้ (Edible flowers) คืออะไร?
ทราบหรือไม่ว่า ผู้คนนิยมนำดอกไม้ มาเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว จนถึงปัจจุบันแนวทางปฏิบัตินี้ ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
ในอดีตเรานำพืชชนิดต่าง ๆ มาประกอบอาหาร โดยรับประทานแทบทุกส่วนของพืช ไม่ว่าจะเป็นใบ ลำต้น หรือแม้แต่ส่วนของราก แต่ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้ว่าสามารถนำมารับประทานได้ นั่นก็คือ ส่วนของดอก
ดอกไม้กินได้ ตามนิยามของ Todd Seyfarth นักโภชนาการ เชฟหัวหน้าภาควิชาโภชนาการและโภชนศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยจอห์นสันแอนด์เวลส์ คือ “คำว่า กินได้ บ่งบอกว่าดอกไม้นั้นปลูกด้วยวิธีที่ปลอดภัยและสามารถนำมาประกอบอาหารได้ ซึ่งหมายความว่าไม่มีการใช้ยาฆ่าแมลงหรือสารกันบูดที่ไม่ปลอดภัยนอกจากนี้ยังหมายความว่าดอกไม้นั้นต้องไม่มีสารประกอบใด ๆ ที่ระบุว่าเป็นอันตรายหรือมีพิษตามธรรมชาติ”
จากคำนิยามข้างต้นทำให้เราสามารถสรุปได้สั้น ๆ ว่า ดอกไม้กินได้ คือ “ดอกไม้ที่เราสามารถนำมาบริโภคได้อย่างปลอดภัย โดยไม่มีการปนเปื้อนของยาฆ่าแมลงและสารที่จะทำให้เกิดอันตรายแก่มนุษย์”
อ้างอิงข้อมูลจาก AEC FOOD WHOLESALE PRATUNAM ระบุว่า นอกจากความสวยงามของดอกไม้ที่นำมาตกแต่งบนจานอาหารแล้ว ดอกไม้ที่กินได้ยังสามารถใช้เป็นส่วนประกอบในการปรุงรสชาติในจานได้ ตัวอย่างเช่น ดอกนัซเทอร์ฌัม (Nasturtium) จะมีรสเผ็ดที่คล้ายมัสตาร์ด สามารถกินได้ง่าย ดอกโบราจ (Borage) มีรสหวาน คล้ายกับความหวานของน้ำผึ้ง และดอกลาเวนเดอร์ (Lavender) ที่สามารถเพิ่มกลิ่นหอมสดชื่นให้กับเมนูอาหารได้ โดยแต่ละดอกจะเพิ่มความแตกต่างเล็กน้อยให้กับการรับประทานร่วมกับเมนูอาหารในแต่ละประเภท
นอกจากนี้ ดอกไม้ที่กินได้ สามารถนำมารังสรรค์เป็นเมนูต่าง ๆ ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องดื่ม อาหาร หรือขนมหวาน รวมถึงยังนำมาตกแต่งจานเพิ่มสีสันให้กับแต่ละเมนูได้อีกด้วย โดยนำดอกมาสกัดเป็นเครื่องดื่ม อย่าง ชา, กาแฟเย็น หรือค็อกเทล ช่วยเพิ่มความสบายท้องได้ และยังสามารถนำดอกไปสกัด แล้วนำน้ำที่ได้จากการสกัดมาทำเป็นน้ำเชื่อม หรือนำมาปรุงแต่งเป็นเนยที่มีกลิ่นหอมของดอกไม้
ไอเดียธุรกิจ ‘ดอกไม้กินได้’ เจาะตลาดพรีเมียม
สตาร์ตอัป เจ้าของธุรกิจดอกไม้กินได้ เกรดพรีเมียม ที่พัฒนาโดยใช้นวัตกรรมและอง์ความรู้ จนทำให้สามารถยืดอายุการเก็บรักษานานกว่าปกติถึง 2 เท่า รายเดียวในประเทศไทย โดยคุณธนธร อำไพกูล และคุณชนัญธิดา ทะพลี ศิษย์เก่าที่สำเร็จการศึกษาจาก มทร.ธัญบุรี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ร่วมตั้งธุรกิจสตาร์ตอัป โดยจับมือกับนักลงทุน เพื่อต่อยอดแนวความคิดและวิจัย ออกสู่เชิงพาณิชย์ “ดอกไม้กินได้ เกรดพรีเมียม” จำหน่ายให้กลุ่มโมเดิร์นเทรด และโรงแรมชั้นนำในประเทศไทย ใช้ประดับตกแต่งในอาหาร เพิ่มมูลค่าให้กับเมนูอาหารและเครื่องดื่ม
คุณธนธร กล่าวว่า เริ่มจากเรามีที่ดิน เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ อยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี จึงคิดจะปลูกดอกไม้กินได้ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่นิยมประดับตกแต่งเมนูด้วยดอกไม้ เพิ่มสีสันให้น่ารับประทาน และสร้างความโดดเด่นมากขึ้น โดยส่งขายให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ รวมทั้งขยายฟาร์มปลูก ที่อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี และนครนายก เพื่อส่งจำหน่ายให้ลูกค้ากลุ่มโรงแรม ตัดดอกส่งขายแบบวันต่อวัน เพื่อคงความสดของดอกไม้ โดยการทำฟาร์มดอกไม้กินได้ ยังเป็นการสนับสนุนเกษตรกรในพื้นที่ให้มีรายได้เพิ่มจากการปลูกอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังเข้าร่วมโครงการบ่มเพาะผู้ประกอบการรายใหม่ฯ ล่าสุด บริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาจ้างกับคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มทร.ธัญบุรี เพื่อยกระดับความสามารถในการดำเนินงานและขยายกำลังการผลิต ภายใต้ชื่อ บริษัท แอท ฟลาวเวอร์ จำกัด เพื่อจำหน่ายดอกไม้กินได้เกรดพรีเมียม ซึ่งมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ (New Emerging Technology) มาใช้ยืดอายุดอกไม้ ให้เก็บได้นาน 2 สัปดาห์ จากปกติที่เก็บได้เพียง 5-6 วัน
ล่าสุด บริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาจ้างที่ปรึกษากับทางคณะ ผ่านศูนย์ความเป็นเลิศเทคโนโลยีชีวภาพ-นาโนและนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อพัฒนานวัตกรรมการยืดอายุการเก็บรักษาของดอกไม้กินได้ ผัก และผลไม้ เพื่อการส่งเสริมธุรกิจ ยกระดับ และพัฒนากระบวนการผลิตในเชิงพาณิชย์
คุณชนัญธิดา เจ้าของไอเดีย ผู้ร่วมตั้งธุรกิจสตาร์ตอัป ในฐานะกรรมการ บจก.แอท ฟลาวเวอร์ ระบุว่า สินค้าที่พัฒนาขึ้น ได้เข้าสู่ตลาด Modern Trade เมื่อเร็ว ๆ นี้ รวมถึงกำลังพัฒนากระบวนการผลิตเชิงพาณิชย์ พร้อมพัฒนาระบบขนาด Pilot Plan เพื่อขยายกำลังการผลิตสำหรับ รองรับการเติบโตทางธุรกิจ โดยมีแผนจะส่งออกไปยังต่างประเทศ เช่น ประเทศฝั่งตะวันออกกลางที่ชอบความหรูหรา ความสวยงามของเมนูอาหารที่ตกแต่งด้วยดอกไม้
นอกจากนี้ การปลูกต้นไม้ หรือดอกไม้ ยังสามารถดูดกลับก๊าซเรือนกระจกหรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผ่ากระบวนการสังเคราะห์แสงของพืช และปล่อยก๊าซออกซิเจนที่มนุษย์ใช้หายใจออกสู่บรรยากาศ
ดังที่ Greenpeace ได้ให้ข้อสรุปไว้ว่า “ต้นไม้เป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในการช่วยลดก๊าซเรือนกระจกของโลก” ทั้งยังทำคนมีไอเดียธุรกิจ ต่อยอดประโยชน์จากดอกไม้ ใส่นวัตกรรม นำไปเพิ่มมูลค่าให้กลายเป็นธุรกิจสุดปัง ที่อินเทรนด์สุด ๆ ในขณะนี้
อ้างอิง :
FB. เพจ At Flower-Edible Flower Farm
https://www.facebook.com/Atfloweredibleflowerfarm/
https://aectradecenter-th.com/article/cooking-flowers/
https://www.nsm.or.th/nsm/th/node/45025
Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333
