"นวัตกรรมขยะวิทยา" หลักสูตรคัดแยกขยะให้เป็นทองคำ แก้ปัญหาขยะล้นเมืองของ SME ไทย สายกรีน

SME Update
11/11/2023
รับชมแล้วทั้งหมด 1739 คน
"นวัตกรรมขยะวิทยา" หลักสูตรคัดแยกขยะให้เป็นทองคำ แก้ปัญหาขยะล้นเมืองของ SME ไทย สายกรีน
banner

ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า ขยะมูลฝอยในประเทศไทยปี 2565 มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 25.7 ล้านตัน ซึ่งในจำนวนนี้มีขยะที่ถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์ หรือรีไซเคิลเพียงแค่ 34.2% ขยะที่ถูกกำจัดอย่างถูกต้อง 38.1% ส่วนอีก 27.6% เป็นขยะที่ถูกนำไปกำจัดอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างมาก และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ก่อให้เกิดมลพิษในระยะยาว


เครดิตภาพ จาก https://thaimsw.pcd.go.th/report1.php?year=2565


ในฐานะอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อน เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ลดปัญหาการกำจัดขยะแบบผิด ๆ ‘บริษัท วงษ์พาณิชย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด’ ซึ่งตั้งอยู่ใน จ.พิษณุโลก ได้จัดการอบรมในหลักสูตร ‘นวัตกรรมขยะวิทยา’ โดยมีการให้ความรู้ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานในเรื่องของประเภทขยะรีไซเคิล การรีไซเคิลรถยนต์ การรีไซเคิล e-Waste การแปรรูปขยะเป็น RDF3 การตลาด การจำหน่าย ไปจนถึงให้คำปรึกษาเกี่ยวกับขนาดการลงทุน พิจารณาความเป็นไปได้ของธุรกิจ



โดย ดร.สมไทย วงษ์เจริญ ผู้ก่อตั้งกลุ่มวงษ์พาณิชย์ กรุ๊ป บุคคลต้นแบบผู้มีประสบการณ์ด้านการสร้างสังคมทรัพยากรหมุนเวียน การสร้างสังคมรีไซเคิลมากว่า 48 ปี และได้รับรางวัลยกย่องมากมายทั้งในประเทศไทย และระดับสากล


หลักสูตรที่ว่านี้ เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.2000 จนถึงปัจจุบัน รวมเป็นระยะเวลา 23 ปีแล้ว ที่ผ่านมามีผู้เข้ารับการฝึกอบรมแล้วกว่า 12,000 คน ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ


รัฐบาลกานาทุ่มงบกว่า 10 ล้าน บินตรงมาร่วมหลักสูตร


ไม่นานมานี้ ประเทศกานา ทุ่มงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท ส่งทีมงานเดินทางมาฝึกการคัดแยกขยะให้เกิดมูลค่าในหลักสูตรนวัตกรรมขยะวิทยา ของบริษัท วงษ์พาณิชย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมวังจันทน์ริเวอร์วิว อ.เมืองพิษณุโลก โดยหวังแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมถึงลดขยะอย่างยั่งยืน


เครดิตภาพ จาก : phitsanulokhotnews.com


ดร.สมไทย ระบุว่า “เนื่องจากรัฐบาลกานา กระทรวงสาธารณสุขสิ่งแวดล้อมและการจัดการน้ำเสีย ได้ค้นหาจากแค็ตตาล็อกของสหประชาชาติ พบว่า จ.พิษณุโลก มีโรงเรียนสอนวิชานวัตกรรมขยะวิทยา จึงส่งคณะผู้แทนของรัฐบาลกานา กับหน่วยงานของบริษัท Jospong Group ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานการเก็บขยะทั้งกานาและแอฟริกา เดินทางมาที่พิษณุโลก ซึ่งเป็นเมืองโมเดลใช้ประโยชน์จากขยะ มีการสร้างสังคม BCG การมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ตามนโยบาย Circular economy การใช้ทรัพยากรหมุนเวียนจากขยะ สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย อย่างเป็นรูปธรรม”


เครดิตภาพ จาก : phitsanulokhotnews.com


ทั้งนี้ กระทรวงสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล ประเทศกานา กลุ่มบริษัท Jospong Group และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากปัญหาขยะ ได้ส่งผู้เรียนมา 30 คน เพื่อนำความรู้ไปใช้ประโยชน์แก้ปัญหามลพิษ ด้านขยะและสิ่งแวดล้อมของประเทศ เนื่องจากประสบปัญหาอย่างหนัก เช่น แม่น้ำลำคลองกลายเป็นเมืองที่มีขยะลอยน้ำสูง 2 เมตร สามารถเดินข้ามได้ พร้อมกับข้างถนนพื้นที่ 1,000 ไร่ เต็มไปด้วยขยะมากมายกองเป็นภูเขา มีกลิ่นควันไฟคละคลุ้ง เกิดภัยอันตราย


“การฝึกอบรมนานาชาติ หลักสูตร 12 วัน วิชานวัตกรรมขยะวิทยา หัวข้อ Urban mining business with recycling ที่จัดโดย บริษัท วงษ์พาณิชย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้รับการสนับสนุนจาก สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม สถาบันพัฒนาสี่แยกอินโดจีน”



เครดิตภาพ จาก : phitsanulokhotnews.com


หลักสูตรการอบรมประกอบด้วย ยุทธการเปลี่ยนขยะเป็นทรัพยากร เน้นการใช้ประโยชน์จากขยะ หลักการ Phitsanulok the city of recycling, การสร้างสังคม BCG, การใช้ทรัพยากรหมุนเวียนจากขยะกับการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของชาติ Circular economy ความรับผิดชอบของผู้ผลิต Exiended Producer Responsibiliy (EPR) และการออกแบบอีโคดีไซน์ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม


ความร่วมมือกับภาครัฐเพื่อการกำจัดขยะ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน


ขณะเดียวกัน บริษัท วงษ์พาณิชย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ร่วมมือกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ในการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยเฉพาะนโยบายที่เน้นการลดปริมาณของเหลือทิ้งโดยการนำกลับมาใช้ใหม่ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่วัสดุรีไซเคิล


เครดิตภาพ จาก : phitsanulokhotnews.com


ศ.(วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ระบุว่า “ความร่วมมืออย่างเป็นทางการระหว่าง วว. และบริษัท วงษ์พาณิชย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการประสานความร่วมมือในการถ่ายทอดองค์ความรู้ จากผลงานวิจัย ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม ประสบการณ์ด้านการคัดแยก และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับขยะ เพื่อสร้างโอกาสในการแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม สร้างงาน สร้างอาชีพ ลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน


วว. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมขับเคลื่อนเชิงบูรณาการของทั้ง 5 หน่วยงาน โดยจะนำองค์ความรู้ ประสบการณ์ บุคลากร มาช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งในการนำผลงานวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน


นอกจาก หลักสูตร ‘นวัตกรรมขยะวิทยา’ แล้ว บริษัท วงษ์พาณิชย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ยังมีบริการในส่วนของสถานที่เพื่อศึกษาดูงาน ฝึกอบรม ให้ความรู้การคัดแยกขยะเพื่อรีไซเคิลเชิงธุรกิจ การคัดแยกขยะเชิงธุรกิจ หลักสูตรนานาชาติ และการคัดแยกขยะเพื่อรีไซเคิลระดับชุมชน (Zero Waste Project) อีกด้วย


เครดิตภาพ จาก : phitsanulokhotnews.com


สำหรับบุคคล องค์กร หรือหน่วยงานที่สนใจ สามารถติดตามรายละเอียดการจัดอบรมได้ที่เพจเฟซบุ๊ก ‘Wongpanit - วงษ์พาณิชย์ สำนักงานใหญ่’ หรือเว็บไซต์ https://wongpanit.com/


ทั้งนี้ สถานการณ์ปัญหา “ขยะมูลฝอย” ในปัจจุบัน กลายเป็นปัญหามลพิษที่สำคัญ เนื่องจากปริมาณการใช้งานที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดขยะพลาสติกในปริมาณมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน


ขณะที่ ประเทศไทย ให้ความสำคัญกับการจัดการ “ขยะพลาสติก” ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยได้กำหนด Roadmap การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ.2561-2573 เพื่อติดตามการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งแก้ไขปัญหาและสร้างความยั่งยืนในการจัดการขยะพลาสติกของประเทศ โดยมี 2 เป้าหมาย คือ การลดและเลิกใช้พลาสติก ด้วยการใช้วัสดุทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และนำขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ 100% ภายในปี 2570




หากประชาชน ผู้ประกอบการ ร้านค้า ไม่ว่าจะเป็นองค์กรใหญ่หรือแม้แต่ SME หันมาให้ความสนใจกับปัญหาขยะพลาสติกมากขึ้น เช่น เจ้าของธุรกิจ เปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน ลดขยะ นำบรรจุภัณฑ์ไปรีไซเคิลอย่างถูกต้อง ใช้วัสดุที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่ำ เก็บข้อมูลปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการทำกิจกรรมทางธุรกิจ ฯลฯ



สิ่งเหล่านี้ จะสร้างการมีส่วนร่วมและแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกในประเทศให้น้อยลง ก้าวสู่เป้าหมายที่ทุกประเทศ จะร่วมกันลดก๊าซเรือนกระจก ทำให้อุณหภูมิของโลกไม่เพิ่มขึ้นเกิน 1.5-2.0 องศาเซลเซียส ภายในศตวรรษนี้ และในปี 2050 เพื่อโลกที่น่าอยู่อย่างยั่งยืน


อ้างอิง :

https://www.phitsanulokhotnews.com/2023/07/11/175626

https://www.thairath.co.th/news/local/north/2708623

https://wongpanit.com/



Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

‘TikTok For All’ Update เทรนด์ใหม่ปี 2024 พร้อมกลยุทธ์เพิ่มโอกาส SME ไทยสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

‘TikTok For All’ Update เทรนด์ใหม่ปี 2024 พร้อมกลยุทธ์เพิ่มโอกาส SME ไทยสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

TikTok ตอกย้ำการเป็นแพลตฟอร์มเอนเตอร์เทนเมนต์ที่น่าเชื่อถือสำหรับทุกคน ทั้งครีเอเตอร์ คอมมูนิตี้ผู้ใช้งาน และธุรกิจทุกขนาดในไทย ด้วยการเปิดตัว…
pin
1369 | 14/02/2024
ทอดไม่ทิ้ง! เปลี่ยน ‘น้ำมันเหลือทิ้ง’ เป็น ‘น้ำมันเครื่องบิน’ โอกาสใหม่ SME ไทย เติบโตอย่างยั่งยืน

ทอดไม่ทิ้ง! เปลี่ยน ‘น้ำมันเหลือทิ้ง’ เป็น ‘น้ำมันเครื่องบิน’ โอกาสใหม่ SME ไทย เติบโตอย่างยั่งยืน

ขณะที่ยานพาหนะต่าง ๆ ทั้ง รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รถไฟ และเรือ ต่างมุ่งสู่การใช้เชื้อเพลิงพลังงานทดแทน ที่เป็นพลังงานสะอาดกันแล้ว แต่สำหรับการเดินทางโดยอากาศยาน…
pin
1756 | 26/01/2024
"นวัตกรรมขยะวิทยา" หลักสูตรคัดแยกขยะให้เป็นทองคำ แก้ปัญหาขยะล้นเมืองของ SME ไทย สายกรีน