‘Branding’ พลังของแบรนด์ การสืบทอด ‘ธุรกิจครอบครัว’ ผ่านคุณค่า จากรุ่นสู่รุ่น และสร้างการเติบโตแบบไม่รู้จบ

นอกจากการรักษาธุรกิจครอบครัว (Family Business) ให้ดำเนินต่อไปได้ การรักษายอดขายก็สำคัญไม่แพ้กัน ด้วยเหตุนี้ การทำธุรกิจครอบครัวให้ประสบความสำเร็จ จึงต้องอาศัยการวางแผน และจัดการวางระบบให้ชัดเจน เพราะธุรกิจครอบครัว มีความซับซ้อนมากกว่าธุรกิจทั่ว ๆ ไป กล่าวคือ ต้องรักษาสมดุลระหว่างความสัมพันธ์ คือ ธุรกิจ และครอบครัว 

โดยเฉพาะการมีธรรมนูญครอบครัว หรือ บันทึกข้อตกลงร่วมกันของคนในครอบครัว เกี่ยวกับการวางแผนและจัดการเรื่องต่าง ๆ ร่วมกัน ซึ่งสิ่งสำคัญ คือสมาชิกในครอบครัวต้องเปิดใจร่วมกันในทุก ๆ เรื่อง ดังนั้น การสร้างกฎและระเบียบของการเข้ามาทำงานของคนในครอบครัวให้เกิดความชัดเจน เพื่อเตรียมความพร้อมในการบริหาร ธุรกิจครอบครัว (Family Business)  ในการส่งมอบธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่นแบบไร้ปัญหาและลดความขัดแย้ง จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

 

ขณะเดียวกัน ในแง่ของความได้เปรียบ ของธุรกิจครอบครัว ที่ธุรกิจรูปแบบอื่นไม่มี คือสายสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัว ที่ย่อมมีความลึกซึ้งมากกว่าเจ้านาย และ ลูกน้อง เพราะความเป็นพ่อ-ลูก หรือเครือญาติ จะมีความรักใคร่ สามัคคี และมีเป้าหมายในการนำพาธุรกิจให้ก้าวสู่ความสำเร็จเหมือน ๆ กัน   

นอกจากนี้ เรื่องของการถ่ายทอดประสบการณ์ สูตรเด็ด หรือ เคล็ดลับบางอย่าง ที่เป็น Know How รู้เฉพาะคนในตระกูล เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้การส่งต่อสู่ทายาท ที่สามารถรักษาคุณค่าเหล่านี้ไว้ ช่วยสร้างเรื่องราวของแบรนด์ หรือ Story Telling ให้กลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ สู่การสร้างแบรนด์ของครอบครัว

บทความนี้ ขอยกตัวอย่างของธุรกิจครอบครัวไทย ที่มีการสร้างแบรนด์ให้ธุรกิจครอบครัว ผ่านคุณค่า สานต่อจากรุ่นสู่รุ่นจนประสบความสำเร็จ...อย่างยั่งยืน 

แบรนด์ผู้ผลิตและจำหน่ายซุปไก่สกัด รังนกสำเร็จรูป และผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อบำรุงสุขภาพ ที่มีจุดเริ่มต้นจากความต้องการที่อยากจะเห็นผลิตผลทางการเกษตรมีความก้าวหน้า จนนำมาสู่การตั้งโรงงานผลิตซุปไก่ดำสกัดแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งได้คิดค้นสูตรการผลิต ‘ต้นตำรับซุปไก่ดำสกัด’ ที่ต่อยอดจากความเชี่ยวชาญด้านการทำอาหารสูตรชาววัง พร้อมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์จากรังนกที่มีความสดใหม่ออกไปสู่ผู้บริโภค

คุณสิทธิวัฒน์ นันทะพานิชสกุล กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า บริษัทเป็นธุรกิจครอบครัวซึ่งมีการก่อตั้งมานานกว่า 40  ปี ในช่วงแรกเริ่มจากคุณตา เป็นผู้บุกเบิกนำไก่ดำพันธุ์มองโกลจากประเทศจีน เข้ามาเลี้ยงในประเทศไทย จากนั้น จึงมุ่งพัฒนาจนสามารถขยายพันธุ์ให้ประสบความสำเร็จเป็นจำนวนมากพร้อมกับตั้งชื่อ ‘ฟาร์มไก่ดำเฉลิมเกียรติ’ ซึ่งถือเป็นฟาร์มไก่ดำแห่งแรกของประเทศไทย และได้ขยายพันธุ์ให้เกษตรกรไปเลี้ยงจนมีฟาร์มไก่ดำหลายแห่งทั่วประเทศเจาะตลาดผ่านช่องทางที่หลากหลายให้ง่ายต่อการเข้าถึง

โดยภายหลังจากที่ คุณสิทธิวัฒน์ ได้เข้ามาดูแลธุรกิจครอบครัว (Family Business) ได้มุ่งเน้นแนวทางการจัดจำหน่ายสินค้าผ่านการทำการตลาดออนไลน์ อาทิ Facebook, เว็บไซต์, แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ LINE OA พร้อมกับรูปแบบ Home Shopping ซึ่งปัจจุบันมีการนำเสนอสินค้าผ่านแพลตฟอร์มหลากหลายรูปแบบ ทั้งช่องทางโทรทัศน์และเทเลเซลล์โดยพาร์ทเนอร์ ซึ่งจะต่างจากแบรนด์ใหญ่รายอื่นที่มีการทำตลาด โดยใช้งบประมาณในการซื้อโฆษณาตามสื่อหลักหรือป้ายบิลบอร์ดแล้ววางจำหน่ายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดเป็นหลัก

ปัจจุบันสินค้าของเรา สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นทั้งคนวัย 50 ปีขึ้นไป ที่มีความเข้าใจในสรรพคุณของซุปไก่ดำสกัดได้เป็นอย่างดี พร้อมกันนี้ยังสามารถเจาะกลุ่มคนที่มีอายุน้อยลงระหว่าง 40 - 30 ปี ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ และต้องการซื้อไปฝากพ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่เพิ่มมากขึ้นได้”  

คุณอรวรรณ ล้อบุณยารักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเอเซีย ไรซ์ โปรดักส์ จำกัด ธุรกิจครอบครัว ซึ่งนำนวัตกรรมการผลิตที่เป็น Know How ของตนเอง สร้างคุณภาพที่แตกต่าง พร้อมปั้นแบรนด์ ให้เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ส่งออกเส้นก๋วยเตี๋ยวข้าวไทยรายใหญ่ของเมืองไทย

คุณอรวรรณ ย้อนความให้ฟังว่า ครอบครัวทำธุรกิจผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยวมานานกว่า 40 ปี เป็นธุรกิจครอบครัวที่สานต่อจากรุ่นสู่รุ่น บุกเบิกโดยคุณพ่อจากโรงงานเล็ก ๆ ใน จ.แพร่ ผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยวสดขายส่งในท้องถิ่นและจังหวัดใกล้เคียงในพื้นที่ภาคเหนือ ก่อนจะพัฒนาสู่การทำเส้นอบแห้ง ที่ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ช่วยให้ธุรกิจครอบครัว (Family Business) เติบโตอย่างรวดเร็ว

ด้วยประสบการณ์ยาวนาน เป็นที่ยอมรับและเชื่อถือของลูกค้าซัพพลายเออร์ บริษัทผู้ผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยวอบแห้งเพื่อส่งออกรายใหญ่ของไทย ยอดผลิตกว่า 1,000 ตันต่อเดือน ส่วนใหญ่เป็นลักษณะรับจ้างผลิต (OEM) ให้กับลูกค้ารายใหญ่ต่าง ๆ จึงไม่สามารถกำหนดตลาดได้เอง

ดังนั้น เมื่อ คุณอรวรรณ ผู้เป็นหนึ่งในทายาทธุรกิจที่เข้ามารับช่วงต่อ เกิดแนวคิดที่จะต่อยอดธุรกิจด้วยการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ โดยการสร้างแบรนด์ของตนเอง และใส่นวัตกรรมเพื่อสร้างความแปลกใหม่ลงเส้นก๋วยเตี๋ยวอบแห้ง ภายใต้แบรนด์ ‘THAI Flavour’  ซึ่งรสชาติความอร่อยนั้น เส้นที่ผสมแป้งมันจะมีความเหนียว และมันมากกว่า ส่วนเส้นที่ทำจากข้าวล้วนๆ จะอ่อนนุ่ม เปรียบเหมือนกำลังกินข้าวสวยเลยทีเดียว

วิสัยทัศน์จากรุ่นหนึ่ง ส่งต่อสู่ทายาทรุ่นถัดมา นำมาสู่การขยายไปพร้อมปรับใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ ให้ครบโซลูชั่นการค้าและบริการ และไม่ลืมที่จะคำนึงถึงการทำธุรกิจที่มุ่งสู่ความยั่งยืน (Sustainability) ควบคู่ไปด้วย จนมาถึง ‘ทายาทรุ่นสาม’ 

คุณณัชพล สว่างเดชารักษ์ ผู้จัดการโรงเลื่อยจักรท่าเสา ผู้บริหารรุ่นใหม่ เจนเนอเรชันที่สาม ได้สานต่อทั้งในแง่การบริหารกิจการและ Vision ที่มาจากคุณตาและคุณพ่อ ทำให้ตอบโจทย์การทำธุรกิจในทุกมิติและได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

โดยบริษัท ขยายธุรกิจจาก ‘โรงเลื่อย’ ที่ผลิตแต่ไม้สักแปรรูป เป็นโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งผลิตผลิตภัณฑ์ครบวงจร เริ่มต้นด้วยการปรับปรุงระบบการผลิตให้มีมาตรฐานและคุณภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน พร้อมขยายกำลังในการผลิต และใช้ระบบเทคโนโลยีสี UV Coating เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อทำไปสักระยะ มีโรงเลื่อยที่แปรรูปไม้ได้หลากหลายมากขึ้น 

ด้วยส่วนของ Production ที่มีโรงงาน ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ จึง Manage ได้ทั้งหมด การผลิตจึงมีการควบคุมตั้งแต่ต้น เป็นคนปลูกเอง ได้ไม้กลม ๆ มา แต่การใช้งานเป็นแผ่น ต้องคิดว่าจะทำยังให้คุ้มค่าการใช้ประโยชน์ บวกกับการมีโรงเลื่อยของตัวเอง แนวทางการเลื่อยจึงออกแบบให้ได้เปอร์เซ็นต์การใช้งานมากที่สุด ซึ่งเป็นงานฝีมือที่มีเทคนิคแบบเฉพาะของครอบครัว...ที่น้อยคนจะรู้ 

ในฐานะของทายาท จึงไม่ใช่แค่การสืบทอดธุรกิจ จากสิ่งที่รุ่นบุกเบิกสร้างไว้ แต่ยังได้เรียนรู้ต่อยอดและพัฒนาสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง ควบคู่การนำวิสัยทัศน์การสร้างคุณค่าเพื่อให้ลูกค้าได้ประโยชน์และทำลายสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด เป็นสิ่งที่ผลักดันให้ “โรงเลื่อยจักรท่าเสา” ก้าวสู่ความสำเร็จที่มาพร้อมความยั่งยืนครบทุกมิติ 

‘เรื่องเล่า’ (Telling) ที่ส่งผ่านการทำธุรกิจ สั่งสมและบ่มเพาะจากการทำงานร่วมกันในครอบครัวกลายเป็นการซึมซับเคล็ดลับต่าง ๆ ตกทอดสู่ทายาท เมื่อรุ่นต่อไปเข้ามาบริหาร จึงไม่ใช่แค่เพียงการสืบทอดเท่านั้น แต่ยังเป็นการนำคุณค่ามาปรับปรุงและพัฒนาให้คงไว้ จากรุ่นสู่รุ่น สร้าง ‘Branding’ อันทรงพลัง ให้ ‘ธุรกิจครอบครัว’ ที่ส่งต่อผ่านวิธีการเหล่านี้ เติบโตอย่างแข้มแข็งได้ทุกยุคสมัย และกลายเป็นแนวทางการทำธุรกิจครอบครัว ให้อยู่รอด...อย่างยั่งยืน