Diamond Grains ใช้สื่อออนไลน์ผสม LINE@ เน้นผูกมิตรลูกค้า ยอดขายพุ่ง !

คุณชนิสรา  โททอง และ คุณวุฒิกานต์  วงศ์ดีประสิทธิ์ คือผู้ก่อตั้งแบรนด์ Diamond Grains ซึ่งคุณชนิสรา เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจให้ฟังว่า “Diamond Grains เป็นธุรกิจที่ผลิตขนมคุกกี้กราโนล่าซีเรียลเพื่อสุขภาพ ที่สามารถทานเป็นอาหารเช้า หรือทานร่วมกับขนม ไอศกรีม จุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจนี้เริ่มเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ตอนนั้นตนเองอายุ 19 ปี ซึ่งตอนนั้นมีความคิดที่อยากทำธุรกิจอะไรสักอย่างร่วมกับแฟนขึ้นมา ก็เลยจับเทรนด์คนรักสุขภาพ ซึ่งในช่วงนั้นเทรนด์นี้ยังไม่มาแรงเหมือนปัจจุบัน ก็เลยมุ่งทำสินค้าให้กับตลาดคนรักสุขภาพในหมู่วัยรุ่น ฉะนั้น เราจึงตั้งใจทำสินค้าเป็นขนมเบเกอรี่ที่ไม่มีแป้ง เช่น คุกกี้คาสเตอร์ ฯลฯ ซึ่งสินค้าจำพวกนี้ในตลาดก็มีอยู่นะ แต่ไม่มีใครที่ไม่ใช้แป้งสาลีเลย ดังนั้น ทุกผลิตภัณฑ์ที่เราผลิตขึ้นมาจะไม่ผสมแป้ง และค่อย ๆ ปรับสูตรสินค้าให้เข้ากับสมัยใหม่จนกลายเป็นกราโนล่าซีเรียล” ส่วนเงินทุนการทำธุรกิจ คุณวุฒิกานต์ ได้เล่าให้ฟังว่า “เงินทุนทั้งหมดเราใช้หลายรอบ กว่าจะสร้างเนื้อสร้างตัวได้ก็ใช้ไปประมาณ 7-8 ล้านบาท โดยเงินเหล่านี้ใช้สร้างโรงงานผลิตขนม และนำมาหมุนเวียนทดลองลองผิดลองถูกกับสินค้าตลอด อีกทั้งผลิตภัณฑ์ของเราผ่าน อย. ตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว เพราะช่วงแรกที่ทำไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร แต่จะทำอะไรต้องทำให้สุด” เริ่มเจาะตลาดด้วยการเข้าห้างสรรพสินค้า คุณชนิสรา  เล่าว่า “ในช่วงแรกเรามีความคิดอยากทำขนมขายเข้าห้างฯ แต่สุดท้ายเมื่อลองทำจริง ๆ สินค้าประเภทคุกกี้ทางเลือกค่อนข้างเยอะ ขณะเดียวกันก็ค้นพบช่องว่างของลูกค้าว่า ทุกคนต้องทานอาหารเช้า ซึ่งสินค้ากราโนล่าซีเรียลเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เราจึงมีความคิดต่อว่า ถ้าเราทำเป็นซีเรียลอาหารเช้าน่าจะดีกว่า อีกทั้งด้วยความที่เรามีสูตรอยู่แล้ว เพียงแค่ต้องนำมาปรับปรุงเพิ่ม ก็น่าจะตอบโจทย์ตลาดได้ดียิ่งขึ้น” อุปสรรคก่อนมาเป็นแบรนด์ Diamond Grains คุณชนิสรา  เล่าว่า “ในช่วง 3-4 ปีแรก แทบไม่มีรายได้เข้ากระเป๋าสักบาทเดียว นำเสนอขายสินค้าร้านไหนเขาก็ปฏิเสธ ต้องไปขอร้องให้เขาช่วยวางขายสินค้าให้หน่อย  ซึ่งถ้าทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ แบรนด์และสินค้าคงไม่มีทางเติบโตได้แน่นอน แต่ด้วยเรามีแรงบันดาลใจกับคนข้าง ๆ จึงตัดสินใจลองดูอีกสักตั้ง ด้วยการโฟกัสสองมือของตัวเอง พร้อมเดินหน้าสู้ต่อ” “หลังจากนั้น เราจึงเริ่มต้นใช้สื่อออนไลน์ โดยเน้นโพสต์รูปภาพอาหาร และสร้างปฏิสัมพันธ์ผ่านการคอมเม้นต์ ส่งผลให้เกิดการลองสั่งซื้อ รวมทั้งเกิดการบอกปากต่อปาก จนกลายเป็นเหตุผลที่แท้จริงของการอยู่รอดมาถึงทุกวันนี้” “ปัจจุบันเรามีช่องทางออนไลน์ที่ค่อนข้างแข็งแรง ทั้งโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ ดังนั้น ทาง Modern Trade ก็เริ่มมองเห็นเรา ร้านค้าสุขภาพติดต่อเข้ามา จึงทำให้เรารู้ว่าการสร้างแบรนด์ไม่จำเป็นต้องสร้างให้โด่งดัง แต่ควรสร้างแบรนด์ให้ลูกค้าเข้าถึงง่าย ซึ่งที่มาของการทำแบรนด์ดิ้งนี้ เกิดขึ้นขณะที่เราทำธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จนค้นพบตัวเองว่าต้องสร้างแบรนด์ไปในทิศทางไหน ปรับตามที่ลูกค้าต้องการเรื่อยๆ โดยความรู้สึกจะบอกเราเอง กระทั่งเราตั้งชื่อแบรนด์ว่า Diamond Grains เป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างใส่ใจ ละเอียด เนี้ยบ ประณีต อาร์ตเวิร์คสวย ซึ่งแบรนด์ Diamond Grains เริ่มใช้จริง ๆ เมื่อปีที่แล้วในวันแม่ที่ผ่านมา โดยวัตถุดิบที่นำมาผลิตส่วนใหญ่เป็น ข้าวโอ๊ต เม็ดมะม่วง น้ำตาลที่ใช้ไม่ขัดสี น้ำมันที่ใช้เป็นน้ำมันรำข้าว เป็นต้น ซึ่งสังเกตได้เลยว่า ทุกอย่างดีต่อสุขภาพทั้งหมด” Diamond Grains ใช้สื่อออนไลน์เข้าถึงลูกค้าเป็นหลัก ส่วนขายในหน้าห้างฯ เป็นเพียงช่องทางที่ทำให้ลูกค้าสะดวกในการซื้อเท่านั้น คุณชนิสรา  เล่าต่อว่า “ล่าสุดใช้บริการของ LINE@ เนื่องจากเดิมเราใช้ไลน์ธรรมดา แต่มีการสั่งซื้อสินค้าเข้ามาจำนวนมาก กำลังการผลิตไม่ทัน แถมน้องแอดมินก็ตอบไม่ทันเช่นกัน  เพื่อให้ลูกค้าแฮปปี้กับเราด้วยการตอบที่ฉับไว เราจึงหันมาใช้บริการ LINE@ ซึ่งมีฟีเจอร์มากมายรองรับการใช้งานของร้านค้า สามารถใช้น้องแอดมินได้ถึง 3-4 คน บางครั้งลูกค้าไม่สะดวกเข้าไปดูสินค้าในเว็บไซต์ก็สามารถสอบถามได้ทาง LINE@ เพราะเราจะให้ความสำคัญต่อการพูดคุยกับลูกค้าเป็นอย่างมาก และจากประสบการณ์ทำตลาดที่ผ่านมา ช่องทางสื่อออนไลน์ทุกช่องทาง นับว่าเป็นกลุ่มการค้าที่ดีที่สุด” “อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ถูกใจ LINE@ ก็คือ Greeting Message  ซึ่งเป็นข้อความอัตโนมัติ ที่จะส่งไปหา ลูกค้าทันทีที่แอด LINE@ โดยเราสามารถใส่วิธีการสั่งสินค้าหรือข้อความที่อยากบอกลูกค้าได้” “ขณะนี้สินค้า Diamond Grains มีขายผ่านเว็บไซต์เป็นหลัก ขายผ่านห้างสรรพสินค้า และขายตามร้านสุขภาพทั่วไป ทั้งนี้ต่อไปจะพัฒนาสินค้าต่อเนื่อง แต่ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมเอาไว้ เพื่อรักษาฐานตลาดและกลุ่มลูกค้าทั้งหมด” คุณชนิสรา  กล่าวทิ้งท้าย