นับว่าเป็นเรื่องธรรมชาติของผลไม้สดทุกชนิดที่จะมีอายุของผลเมื่อนำออกมาวางจำหน่าย บางชนิดอยู่ได้นาน บางชนิดอยู่ได้ในระยะเวลาสั้นๆ แต่ในเวลานี้คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้คิดค้นนวัตกรรมเพื่อนช่วยชะลอความสุกของมะม่วง เกิดเป็น “นวัตกรรมป้ายสีบอกความสุกมะม่วง และนวัตกรรมชะลอความสุก” ช่วยลดอัตราการเสียหายของผลผลิตเมื่อนำออกมาวางจำหน่าย
นวัตกรรมชะลอความสุก เป็นการทำงานร่วมกันของสารละลายกระตุ้นการสร้างสารสีคลอโรฟิลล์ ให้มีปริมาณที่มากขึ้น พร้อมชะลอการทำงานของเอนไซม์ที่ทำหน้าที่สลายคลอโรฟิลล์ในมะม่วงด้วยการฉีด 1 ครั้งที่ผลก่อนห่อจะสามารถชะลอความสุกของมะม่วงได้ยาวนานถึง 30 วัน โดยไม่ทิ้งสารตกค้าง ต่อมาคือถุงห่อแอคทีฟ สำหรับห่อมะม่วงที่อยู่บนต้นก่อนการเก็บเกี่ยว 1 เดือน ที่ถุงห่อจะมีการเจาะรูเพื่อเป็นหน้าต่างให้แสงสามารถส่งถึงผลได้ ทำให้ผิวมะม่วงสามารถสร้างสารคลอโรฟิลล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในเวลาที่เก็บเกี่ยวผลมะม่วงจะมีสีเขียวของคลอโรฟิลล์เป็นวงกลมอยู่ที่ตัวผล
ในส่วนของนวัตกรรมป้ายสีบอกความสุกของมะม่วง คือ แถบสีอินดิเคเตอร์ที่จะแสดงการสุกของมะม่วงใน 4 ระยะ ได้แก่ สีเขียว (มะม่วงดิบ) สีเหลืองอ่อน (เริ่มสุก) สีเหลือง (พร้อมรับประทาน) สีเหลืองเข้ม (สุกเกิดมาตรฐาน) ซึ่งแถบสีดังกล่าวสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับผลผลิตที่ปลูกทั้งในแบบปกติ และออร์แกนิคได้อย่างมีประสิทธิภาพและพร้อมวัดผลได้อย่างแม่นยำ
ความน่าสนใจของนวัตกรรมในครั้งนี้อยู่ที่ต้นทุนต่ำ เฉลี่ยอยู่ที่ไม่เกิน 2 บาทต่อมะม่วง 1 ผล สารกระตุ้นคลอโรฟิลล์เฉลี่ยเพียง 20 สตางค์ต่อการฉีด 1 ครั้ง ถุงแอคทีฟ มีราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5-3 บาทต่อถุง และแถบสีอินดิเคเตอร์ มีต้นทุนเพียง 5 สตางค์ต่ออัน ทำให้นวัตกรรมเหล่านี้สามารถช่วยให้เกษตรกรวางขายผลผลิตได้ในราคาที่สูงขึ้น ช่วยให้ผลผลิตสามารถจำหน่ายได้เต็มจำนวน เนื่องจากไม่มีผลผลิตที่ช้ำหรือเน่าเสีย ส่งผลดีต่อภาคการเกษตร และทางผู้บริโภคได้ผลผลิตที่มีคุณภาพเช่นกัน
เป็นเรื่องที่น่าติดตามดูว่าในอนาคตจะมีนวัตกรรมที่ช่วยชะลอความสุกของผลไม้สดได้มากมายหลายชนิดนอกจากมะม่วงหรือไม่ ? เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องจับตามอง เพื่อประโยชน์ต่อการทำการเกษตรของตนเอง
Bangkok Bank SME เราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพ คลิก www.bangkokbanksme.com/loan หรือสายด่วน 1333