สมอ.เชิญร้านค้าออนไลน์หารือคุมเข้มขายสินค้า

SME Update
08/03/2019
รับชมแล้วทั้งหมด 1967 คน
สมอ.เชิญร้านค้าออนไลน์หารือคุมเข้มขายสินค้า
banner
สืบเนื่องจากการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ หรือ E-Commerce ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และสะดวก ขณะเดียวกันก็ลดต้นทุนการจำหน่ายให้กับผู้ประกอบการ และขยายโอกาสทางการค้า ด้วยข้อดีของการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ที่ไม่ต้องมีหน้าร้านก็ขายสินค้าได้ ไม่ต้องเช่าพื้นที่ราคาแพง ประหยัดการจ้างงาน ไม่จำเป็นต้องมีพนักงานขายของ สามารถขายสินค้าได้ตลอด 24 ชม. มีการลงทุนน้อย สินค้าสามารถกระจายขายได้ไปทั่วโลก เจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าได้หลากหลาย และสามารถชำระเงินได้หลากหลายช่องทางหลายระบบ
ขณะที่ข้อมูลอีกด้านจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)ที่ระบุว่า ที่ผ่านมามีประชาชนจำนวนมาก ร้องเรียนการสั่งซื้อสินค้าไม่ได้คุณภาพตามที่โฆษณา รวมทั้งมีการลักลอบขายสินค้าหนีภาษีผ่านเว็บไซต์ ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย รวมทั้งเป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค และทำให้เกิดช่องโหว่การทำธุรกิจหนีภาษี ทำให้รัฐสูญรายได้เป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ปัญหาการขายสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ ขาดมาตรฐานผ่านทางเว็บไซต์ออนไลน์ได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยข้อร้องเรียนมีทั้งสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่ไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ใช้ไม่นานก็เสีย และยังมีการลักลอบขายสินค้าหนีภาษี โดยจะมาในรูปแบบเดิมๆ เหมือนขายตามตลาดนัด แต่เปลี่ยนมาขายออนไลน์แทน เช่น ขายราคาถูกกว่าปกติ บางส่วนก็อาจเป็นสินค้าปลอม

ปัญหาใหญ่ที่ทาง สมอ.พบมาก คือ การตามจับตัวได้ยาก เพราะขายผ่านเว็บไซต์ตัวกลาง ซึ่งเว็บเหล่านี้ไม่มีการตรวจสอบคุณภาพสินค้า หรือเป็นสินค้าที่ถูกกฎหมายหรือไม่ ไม่มีการแสดงตัวบุคคลของผู้ขาย เมื่อสอบถามไปที่เว็บไซต์กลาง เพื่อขอชื่อที่ใช้ระบุลงในคอมพิวเตอร์ (โดเมน) ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ยอมให้ข้อมูล เพราะถือว่าเป็นความลับของลูกค้า

E-Commerce

เชิญร้านค้าออนไลน์หารือ

ล่าสุด สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้มีการ เชิญผู้ประกอบการค้าออนไลน์รายใหญ่มาหารือในประเด็นดังกล่าว กว่า 50 ราย อาทิ บริษัท เซ็ลทรัล เจดี คอมเมิร์ซ จำกัด บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ซีพีแลนด์ จำกัด บริษัท ทีวีไดเร็ก จำกัด (มหาชน) บริษัท ไฮ ช้อปปิ้ง จำกัด ฯลฯ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานอาหารและยา กรมการค้าภายใน กรมศุลกากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ฯลฯ  เพื่อหารือแนวทางในการคุ้มครองผู้บริโภคจากการซื้อ/ใช้สินค้าที่ สมอ. ควบคุม

เนื่องจากปัจจุบันมีการซื้อขายสินค้าผ่านตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) กันอย่างแพร่หลาย โดยจากข้อมูลของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) พบว่าในปี 2561 E-Commerce ขยายตัวเพิ่มขึ้น 8% และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ สมอ. ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแล และคุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากการใช้ผลิตภัณฑ์ จำเป็นต้องหามาตรการในการควบคุมสินค้าบน E-Commerce เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าสินค้าที่ซื้อผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่น เป็นสินค้าที่มีความปลอดภัยตามมาตรฐาน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่เป็นมาตรฐานบังคับจำนวน 112 รายการที่ สมอ. ควบคุมโดยสามารถดูรายชื่อผลิตภัณฑ์ได้ที่ www.tisi.go.th ต้องมีความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ผู้ประกอบการที่จะจำหน่ายสินค้าดังกล่าวจะต้องจำหน่ายเฉพาะสินค้าที่มีเครื่องหมาย มอก. เท่านั้น หากฝ่าฝืนจะมีความผิดทางกฎหมาย

E-Commerce

นำเข้าไม่มีใบอนุญาตปรับ 1ล้าน ขายปรับสูงสุด 5 หมื่น

สำหรับบทลงโทษในกรณีมีการทำหรือนำเข้าผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมโดยไม่ได้รับใบอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับร้านค้าที่ไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษ คือ จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 5,000 ถึง 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ทาง สมอ.เน้นย้ำชัดเจนว่า ไม่ได้ห้ามให้ขายสินค้าเพียงแต่มีสินค้าบางรายการที่มีกฎหมายควบคุมว่าจะต้องมีคุณภาพได้มาตรฐาน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้บริโภค หากจะขายก็จะต้องขายเฉพาะสินค้าที่มีเครื่องหมาย มอก. เท่านั้น

ทั้งนี้จากการสืบค้นข้อมูลพบว่าปัจจุบันมีผู้จำหน่ายสินค้าออนไลน์ที่เป็นสินค้ามาตรฐานบังคับอยู่เป็นจำนวนมาก สามารถเลือกซื้อสินค้าได้โดยง่าย และสะดวก ประกอบกับสินค้ามีราคาถูก จึงทำให้ร้านค้าออนไลน์ในลักษณะนี้เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งต้องมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค

ที่สำคัญผู้บริโภคควรเลือกซื้อสินค้าด้วยความรอบคอบ สังเกตเครื่องหมายมาตรฐานทุกครั้งก่อนซื้อเพื่อความมั่นใจและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินและอย่าได้หลงเชื่อซื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน เมื่อใช้แล้วอาจเกิดอันตรายจากการใช้ผลิตภัณฑ์นั้นได้
Bangkok Bank SME ราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพ คลิก www.bangkokbanksme.com หรือ โทร call center 1333

Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

‘TikTok For All’ Update เทรนด์ใหม่ปี 2024 พร้อมกลยุทธ์เพิ่มโอกาส SME ไทยสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

‘TikTok For All’ Update เทรนด์ใหม่ปี 2024 พร้อมกลยุทธ์เพิ่มโอกาส SME ไทยสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

TikTok ตอกย้ำการเป็นแพลตฟอร์มเอนเตอร์เทนเมนต์ที่น่าเชื่อถือสำหรับทุกคน ทั้งครีเอเตอร์ คอมมูนิตี้ผู้ใช้งาน และธุรกิจทุกขนาดในไทย ด้วยการเปิดตัว…
pin
1294 | 14/02/2024
ทอดไม่ทิ้ง! เปลี่ยน ‘น้ำมันเหลือทิ้ง’ เป็น ‘น้ำมันเครื่องบิน’ โอกาสใหม่ SME ไทย เติบโตอย่างยั่งยืน

ทอดไม่ทิ้ง! เปลี่ยน ‘น้ำมันเหลือทิ้ง’ เป็น ‘น้ำมันเครื่องบิน’ โอกาสใหม่ SME ไทย เติบโตอย่างยั่งยืน

ขณะที่ยานพาหนะต่าง ๆ ทั้ง รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รถไฟ และเรือ ต่างมุ่งสู่การใช้เชื้อเพลิงพลังงานทดแทน ที่เป็นพลังงานสะอาดกันแล้ว แต่สำหรับการเดินทางโดยอากาศยาน…
pin
1662 | 26/01/2024
จับกระแส 'เทรนด์ธุรกิจ' ปี 2024 ใครได้ไปต่อ ใครมาแรง SME ไทยต้องรู้

จับกระแส 'เทรนด์ธุรกิจ' ปี 2024 ใครได้ไปต่อ ใครมาแรง SME ไทยต้องรู้

ปี 2024 นี้ ธุรกิจไหนมาแรง ธุรกิจไหนน่าจับตา เทรนด์ธุรกิจใดกำลังมาแรง Bangkok Bank SME สรุปมาไว้ในบทความนี้ เพื่อเป็นแนวทางแก่ SME และผู้ที่กำลังคิดจะเริ่มต้นทำธุรกิจทุกท่าน…
pin
1917 | 25/01/2024
สมอ.เชิญร้านค้าออนไลน์หารือคุมเข้มขายสินค้า