โจทย์ยากแห่งปี 2019 ก็ยังคงเป็นการทำอย่างไรให้ลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมาย อ่านคอนเทนต์ที่คุณเขียน เรื่องนี้ไม่ต้องหยิบยกงานอ้างอิงจากสำนักไหนให้เมื่อย เอาตัวคุณเป็นบรรทัดฐานนั่นแหละ ลองสังเกตดูว่าคุณใช้การตัดสินใจกี่วินาทีในการตัดสินว่า Content Marketing ไหนน่าสนใจหรือเลื่อนผ่านไปอย่างไม่ใยดี
อาจใช้เวลาเพียงส่วนเสี้ยวของวินาที ในการตัดสินใจ
ดังนั้นจงอย่าแปลกใจว่าทำไมเราเขียนบทความที่เราคิดว่า ออกมาดี แต่ไม่มีคนสนใจอ่าน เพราะในโลกออนไลน์เต็มไปด้วยบทความต่างๆมากมาย ผู้บริโภคจะใช้เวลาเพียงหลักวินาทีในการตัดสินใจว่าจะอ่านบทความของคุณหรือไม่ ด้วยเหตุนี้ความน่าสนใจที่ต่างกันจึงกลายมาเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดว่าจะมีคนสนใจอ่านบทความของคุณหรือไม่เหมือนเดิม คือเอาตัวเราเป็นที่ตั้ง วินาทีแรกที่เราเห็นคืออะไร ภาพ หรืออาจจะชื่อเรื่อง ดังนั้นประเด็นสำคัญที่จะสามารถดึงดูดผู้คนให้สนใจอ่านบทความของเราคือภาพเปิด หรือชื่อเรื่อง คุณกำหนดหัวข้อได้น่าสนใจแค่ไหน การใช้หัวข้อที่ดีและหวือหวา มีส่วนสำคัญในการคลิกเข้าไปอ่าน
ทั้งยังต้องตอบโจทย์ผู้อ่านให้ได้ว่า กลุ่มเป้าหมายของธุรกิจคุณคือใคร สนใจเรื่องอะไร และคุณจะสามารถตอบสนองต่อสิ่งที่พวกเขาอยากจะรับรู้ได้หรือไม่ และส่วนใหญ่ ตีโจทย์ไม่แตก ดังนั้น เชื่อเถอะว่าคุณหวังได้ แต่จะ ‘คาดหวัง’ ว่าผู้อ่านจะตอบสนองต่อบทความที่คุณเขียนไม่ได้
แต่มันก็ไม่ถึงกับจะทำสิ่งยากๆ เหล่านี้ไม่ได้เสมอไป อย่าลืมสิว่าเราต้องหาเลี้ยงครอบครัวกับสิ่งเหล่านี้ ดังนั้นมาหาแนวทางเพื่อสร้าง Content Marketing ที่สามารถสร้างการคลิกและเข้าไปอ่านในสิ่งที่เขียนต้องการจะสื่อสารออกไป ซึ่งก็จะพอมีแนวทาง แต่ก่อนอื่น ลืมๆ หลักการเขียน แบบ SEO ที่นักการตลาดและคนเขียนคอนเทนต์แบบเดิมๆ ที่เดินตามหลังฝรั่งไปก่อน แล้วมาหาแนวทางที่เราคาดว่าเป็นไปได้ด้วยกัน
1.ตอบสนองความคาดหวังและแก้ปัญหา : การบ้านที่ต้องทำคือการศึกษาพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ช่วงอายุ ระดับการศึกษา รายได้ ความสนใจ พฤติกรรมทุกอย่างที่ควรมี ไม่รู้ละ ไปหามา จะไปขู่เข็ญ ดิจิทัล มาร์เก็จติ้ง หรือยามหน้าปากซอย อย่างไร หรือใครก็ตามแต่ที่เกี่ยวข้องเอามาให้หมด เอามาดู ศึกษา และแยกแยะ เช่น พฤติกรรมความสนใจในสินค้าแต่ละประเภท ช่วงเวลาในการใช้อินเตอร์เน็ต ตลอดจนถึงข้อร้องเรียนหรือปัญหาที่เคยสร้างความไม่พอใจให้ลูกค้า เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นนี้เป็นโจทย์การเขียนบทความในการแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ตรงกลุ่ม
2.รูปแบบการนำเสนอต้องชี้ชวนให้ชัดเจน : จริงอยู่ว่าคนทำคอนเทนต์ก็ไม่ใช่กูรูในศาสตร์ทุกแขนง แต่ในเมื่อคุณเป็นคนมีค่า ทั้ง ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าผ่อนคอนโด กินใช้ จิปาถะ ก็ย่อมต้องสามารถอวตารให้ตัวคุณเองเป็น Professor ในเรื่องที่คุณพยายามจูงใจให้ผู้อ่านคล้อยตามและเชื่อมั่นในสิ่งที่คุณเสนอให้ได้ ซึ่งไม่ยาก ก่อนจะเขียนต้องทำความเข้าใจสิ่งที่เขียนอย่างถูกต้อง และอธิบายในรูปแบบที่เข้าใจง่าย แต่ต้องชวนติดตาม รู้จักตั้งคำถาม สงสัย และวิเคราะห์แยกแยะ เพราะผู้อ่านอาจไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเช่นกัน การนำเสนอข้อมูลที่เข้าถึงและทำความเข้าใจได้ง่ายที่สุด สรุปทุกอย่างมาให้เป็นเค้าโครงที่สามารถนำไปใช้งานจริงได้ยิ่งดี
3.ดึงดูดความสนใจ : เมื่อคุณรู้แล้วว่าผู้อ่านต้องการอะไร หรือมีปัญหาอะไร และเข้าใจการนำเสนอ ต่อมาคืองานที่ยากที่สุด คือการใช้คำที่ดึงดูดความสนใจกับผู้อ่าน เพราะนอกจากข้อมูล วิธีการแก้ปัญหา ยังต้องสามารถนำเสนอให้ดึงดูดความสนใจ เรื่องนี้ ทำได้ในหลายรูปแบบ เช่น การใช้คำฮิตในขณะนั้น จะประโยคเด็ดของใครก็แล้วแต่ หยิบมันมาให้สามารถให้ประกอบบทความด้านการตลาดของคุณให้ได้ เช่น...ก็มาดิค๊าบ !ซื้อ 2 แถม 4 อะไรทำนองนี้ หรือแนวทางการดึงกระแสสังคมที่นักการตลาดชอบใช้ เช่น สามีนอกใจ ใครคบซ้อน เราสามารถเอามาเป็นแนวทางในการสร้างคอนเทนต์การตลาดได้หมด ประเด็นหลักในหัวข้อนี้ จึงสรุปว่าให้หยิบยกเรื่องดังๆ มาปั้นให้เป็นงานเขียนเพื่อขายของนั่นเอง
4.เน้นย้ำถึงความสำคัญ : ประมาณว่า ถ้าไม่อ่าน พรุ่งนี้ต้องเกิดสงครามโลกอย่างแน่นอน ดังนั้นหาวิธีจากคำแนะนำก่อนหน้านี้ทั้งสามข้อ ให้จูงใจ และมาถึงจุดที่ ผู้อ่านเองสามารถตระหนักได้เองว่า มัน ‘สำคัญ’ และจะเกิดประโยชน์อย่างมากเพียงแค่ใช้เวลาอ่านสิ่งที่เราเขียนเพียงไม่กี่นาที ตรงนี้ฝึกกันได้ง่ายที่สุด แต่ก็ยากที่จะบรรลุผลที่หวังไว้
5.ท้าทายความเชื่อเดิมๆ : ประเด็นนี้อยากให้ทำอย่างมีสติ อะไรที่ไม่ถูกไม่ควรก็อย่าริทำ แต่สำหรับงานด้านการเขียนคอนเทนต์การตลาด ลูกเล่นสำคัญในการสร้างความงุนงง สงสัย และตั้งคำถามได้ดีที่สุดคือการเขียนในทำนองเบี่ยงเบนความเชื่อเดิมๆ เพราะร้อยทั้งร้อย ผู้อ่านมีชุดความเชื่อแบบเดิมๆ ยกตัวอย่างเช่น เราบอกว่า โลกคือศูนย์กลางของจักวาล , กลยุทธ์ขายสินค้าที่ดีที่สุดคือไม่ต้องขาย , แมลงวันจะถูกนำมาใช้ในวงการเพลง อะไรทำนองนี้ นี่คือการ จั่วหัวเรื่องแบบท้าทายความเชื่อ และค่อยไปเฉลยเอาท้ายๆ ว่าจริงๆ แล้วมันคืออะไร ที่สำคัญ ทุกอย่างต้องดูเหมาะสม จบให้สวย ไม่อย่างนั่นผู้อ่านจะตีตราว่าข้อเขียนของคุณนี่ช่างเลอะเทอะ เหลวไหล
สำหรับแนวทางการทำ Content Marketing ทั้ง 5 ข้อ เราเพียงให้แนวทางสำหรับคนที่เริ่มต้นอยากสร้างคอนเทนต์เพื่องานขายด้วยตัวเอง ซึ่งยังมีวิธีการอีกมาก ทั้งการใช้คำ การเลือกภาพที่ต้องการสื่อ การทำบทความ SEO ที่จำเป็นหากคุณอยากถูกค้นเจอในเสิร์ซเอนจิ้น และอีกหลายอย่าง แต่เราเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้คุณสามารถหาอ่านได้จากเว็ปไซต์ด้านดิจิทัลมาเก็จติ้งทั่วๆไปได้ แต่รูปแบบการเขียนและแนวทางการพัฒนาบทความการตลาดของคุณต่างหาก คือส่วนสำคัญในสิ่งที่คุณอยากนำเสนอเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้อ่าน และตอบสนองคุณได้ตรงจุด
Bangkok Bank SME เราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพ คลิก www.bangkokbanksme.com หรือ โทร call center 1333