การประยุกต์ใช้ AI ในวงการแพทย์

อย่างที่รู้กันดีว่าโลกของเราในปัจจุบันมีหุ่นยนต์เข้ามาทำหน้าที่แทนมนุษย์ในหลายๆ อุตสาหกรรม ซึ่งเจ้าหุ่นยนต์อัจฉริยะตัวนั้นก็คือ AI นั่นเอง โดยมนุษย์เราพัฒนา AI ขึ้นมาเพื่อช่วยในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันปัญหา Human Error โดยเฉพาะ AI วงการแพทย์ ได้เข้ามามีส่วนเสริมในอุตสาหกรรม Health Care มากอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งมันทำหน้าที่ได้หลากหลายโดยเฉพาะกับการปรับใช้ทั้ง 4 แบบนี้ที่จะทำให้อุตสาหกรรม Health Care ก้าวหน้าไปอีกขั้นอย่างเห็นได้ชัด!!

ทุกวันนี้ในวงการศัลยแพทย์ได้เริ่มนำหุ่นยนต์เข้ามาให้ความช่วยเหลือในการผ่าตัดบ้างแล้ว ซึ่ง AI นั้นจะทำหน้าที่ได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพกว่ามนุษย์ในหลายๆ เรื่อง เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลคนไข้ เพื่อแนะนำให้ศัลยแพทย์ใช้เครื่องมือที่ถูกต้องเหมาะสมกับคนไข้รายนั้น ลดเวลาในการเตรียมการผ่าตัดได้มาก

อีกทั้ง AI ผู้ช่วยผ่าตัดยังมีความสามารถในการแนะนำจุดผ่าตัดที่จะสร้างความเสียหายที่น้อยที่สุดต่อร่างกายผู้ป่วยได้อีกด้วย โดยให้ผู้ป่วยนั้นได้รับผลกระทบน้อยลง และทำให้บาดแผลเล็กลง สมานตัวเร็วขึ้น

นอกจากนี้ด้วยการพัฒนาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดของ AI ทำให้มันเรียนรู้จากการผ่าตัดครั้งก่อนหน้า และปรับเทคนิคต่างๆ ให้การผ่าตัดครั้งต่อไปดีขึ้น อีกทั้งยังผ่าตัดได้อย่างแม่นยำมากกว่าการผ่าตัดด้วยคน และสามารถผ่าตัดในส่วนที่มีความซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง

 

ถึงแม้แชทบอทจะเป็นเรื่องใกล้ตัว เพราะทุกวันนี้มีการใช้บริการกันอยู่มาก และเจ้าของเพจมากมายก็ตั้งค่าแชทบอทของตัวเองให้ตอบกลับลูกค้าจนเป็นเรื่องปกติ แต่ในวงการแพทย์นั้น แชทบอทได้ไปไกลกว่าที่เราคิดมาก เพราะมีทั้งแชทบอทที่เข้ามาช่วยในเรื่องการประเมินภาวะซึมเศร้า ช่วยลดการสูญเสียจากการฆ่าตัวตาย

มีทั้งแชทบอทที่จะช่วยตอบคำถามว่าอาหารที่เราต้องการรับประทานนั้นมีกี่แคลอรี่ รวมถึงช่วยแนะนำกิจกรรมออกกำลังกายที่จะช่วยเผาผลาญพลังงานทั้งหมดจากอาหารที่ทานเข้าไป ช่วยคำนวณทั้ง BMI และ BMR ทำให้การดูแลสุขภาพในหมู่คนที่ใส่ใจเรื่องอาหารการกินเป็นเรื่องง่ายขึ้น

สุดท้ายแชทบอทเองก็ได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อวินิจฉัยโรคอย่างง่ายๆ รวมถึงช่วยตอบปัญหาสุขภาพ และสอนในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้อีกด้วย นับว่า AI เป็นนวัตกรรมที่เข้ามาเปลี่ยนโลกทั้งใบของวงการแพทย์ให้สุขภาพของคนทั้งโลกดีขึ้นได้จริงๆ

 

เรื่องของความขาดแคลนทรัพยากรบุคคลนั้นสำคัญมากในที่ธุระกันดาร เพราะหลายๆ แห่งที่มีผู้ป่วยแม้จะเป็นโรคเล็กๆ น้อยๆ ที่ถ้าดูแลดีๆ ก็สามารถรักษาหายได้ง่ายๆ แต่สุดท้ายก็อาจจบชีวิตลงเพราะขาดแคลนคนมีความรู้ ความเชี่ยวชาญในการรักษาคอยแนะนำ ซึ่ง AI จะเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ได้เป็นอย่างดี

เพราะตอนนี้โลกของเรามี AI ที่คอยให้บริการตรวจโรคในพื้นที่ห่างไกลเทคโนโลยี ผ่านทางระบบ Cloud อยู่ ซึ่งทำการออกแบบมาเป็นเครื่องมือตรวจโรคขนาดเล็ก ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไปยัง AI ได้

โดยทีมแพทย์นำเลือดของผู้ป่วยเข้าเครื่องตรวจ และเครื่องจะคอยจับรายละเอียดภายในเลือด และส่งข้อมูลให้ AI วิเคราะห์ จากนั้นจะแสดงผลให้แพทย์ทราบว่าเป็นโรคที่มีความร้ายแรง หรือบางเบาเพียงใด ถ้าตรวจแล้วเป็นโรคร้ายแรงที่ต้องใช้เครื่องมือเยอะ AI จะทำการแจ้งเตือนให้โรงพยาบาลที่ใกล้เคียงรับรู้และมารับผู้ป่วยไปรักษาทันที ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดนี้ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีด้วยซ้ำ

 

เคยได้ยินมั้ยว่า ตำรับแพทย์แผนไทย แพทย์แผนโบราณ ยาจีน ยาสมุนไพรโบราณ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งศาสตร์ความรู้ด้านการแพทย์นั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ และจะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถนำทุกศาสตร์ที่มีประโยชน์มารวมเข้าด้วยกัน เกิดเป็นตำราแพทย์ขั้นสูงที่รวบรวมวิธีรักษาจากทุกนานาประเทศทั่วโลก ให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในความเป็นจริงสมองคนเราคงไม่สามารจดจำทุกสิ่งอย่างได้ขนาดนั้น แต่ถ้าเป็น AI ความฝันที่จะช่วยบูรณาการข้อมูลศาสตร์การแพทย์เข้าด้วยกันก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อหมด หมดปัญหาขีดจำกัดด้านภาษา แนวคิด ด้วยเทคโนโลยีการประมวลผลอัจฉริยะ ที่จะทำให้ได้ข้อมูลที่ดี และเหมาะสมที่สุดในการรักษาผู้ป่วย

ทุกคนก็คงพอจะมองเห็นโอกาสและความเป็นไปได้ รวมถึงความสำคัญของ AI ที่มีต่อวงการแพทย์ทั่วโลกแล้วใช่มั้ย ที่เหลือก็คงขึ้นอยู่กับเวลาว่าเมื่อไหร่มันจะถูกพัฒนาไปจนถึงจุดๆ นั้น และเราจะได้ใช้งานมันจริงๆ และมีความเสถียรเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป