การเปิดประเทศและขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจของเมียนมา ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่มาแรงและน่าจับตามองเป็นพิเศษ สืบเนื่องจากรัฐบาลไทยและเมียนมา ได้ร่วมกันจัดพิธีฉลองการเปิดสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย/ตองยิน แห่งที่ 2 เชื่อมระหว่างเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง และอ.แม่สอด จ.ตาก โดยมีผู้นำทั้งสองประเทศร่วมเป็นสักขีพยาน
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประจำกรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ระบุว่า โครงการสะพานดังกล่าวได้เริ่มต้นก่อสร้างเมื่อปี 2558 โดยมีมูลค่าก่อสร้างประมาณ 4,132 ล้านบาท ประกอบด้วยการสร้างถนนฝั่งไทยความยาว 17.25 กม. ถนนฝั่งเมียนมาความยาว 4.15 กม. นอกจากนี้ยังมีสะพานข้ามแม่น้ำเมย และจุดควบคุมชายแดนด้วย
เป้าหมายสำคัญของสะพานแห่งนี้ เพื่อส่งเสริมการค้าการท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยโครงการนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือในเอเชียและยุโรปกับคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งเอเชีย และแปซิฟิก สหประชาชาติ (ESCAP) เพื่อพัฒนาและปรับปรุงระบบเครือข่ายถนนโดยรวมในภูมิภาค และช่วยลดปัญหาการจราจรบริเวณด่านชายแดนเมียวดี-แม่สอด
กระทรวงพาณิชย์เมียนมา ระบุว่า ปริมาณการค้าระหว่างไทย-เมียนมาในเดือนตุลาคม 2561-มกราคม 2562 มีมูลค่า 1,700 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยเป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของเมียนมารองจากประเทศจีน
ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลไทยมองว่าการสร้างสะพานนี้จะเป็นการสนับสนุนแผนการพัฒนาการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ ภายใต้ 5 กรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ ประกอบด้วย ความร่วมมืออนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMEC) กรอบความร่วมมือ (BIMSTEC) และกรอบความมือทวิภาคีไทย-เมียนมา
นอกจากสัญญานการเปิดประเทศ เน้นสานความสัมพันธ์และการเชื่อมโยงระบบคมนาคมและโลจิสติกส์ที่เป็นประโยชน์อย่างมากแล้ว นักลงทุนไทยต้องเกาะติดนโยบายการส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาลเมียนมา เพื่อแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ นิตยสารเมียนมาไทม์ ได้รายงานถึงนโยบายรัฐบาลเมียนที่มุ่งให้การสนับสนุนการลงทุนด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม ใน "รัฐยะไข่" โดยโฟกัสไปที่บริเวณแนวชายฝั่งรัฐยะไข่ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปยังเมียนมา พร้อมทั้งมีการกำหนดชายหาดที่เป็นจุดหมายใหม่สำหรับการท่องเที่ยว โดยชูจุดขายเรื่องความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ
รายงานจากกระทรวงโรงแรมและการท่องเที่ยวเมียนมา ระบุว่า ที่ผ่านมาการเปิดชายหาด Ngapali เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูง มีชาวต่างชาติเดินทางโดยรถยนต์จากเมืองย่างกุ้ง ซึ่งใช้เวลา 9-10 ชั่วโมง มากกว่า 60,000 คนต่อปี
ขณะที่คณะกรรมการด้านการลงทุนของเมียนมา (Myanmar Investment Commission : MIC) ได้ทำการสำรวจความเห็นนักลงทุน พบว่า นักลงทุนสนใจเข้าไปในลงทุนด้านการท่องเที่ยวสูงสุด เมื่อเทียบกับธุรกิจอื่น เช่น เกษตร ประมง หรือปศุสัตว์
แต่อย่างไรก็ตาม อุปสรรคสำคัญของนักลงทุน คือ ราคาที่ดินที่สูงมาก และยังขาดโครงสร้างพื้นฐานทางด้านคมนาคมที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งประเด็นนี้รัฐบาลท้องถิ่นรัฐยะไข่ ให้ข้อมูลว่าได้มีโครงการก่อสร้างถนนและสนามบินที่จะเริ่มเร็วๆ นี้ และยังมีโครงการใหม่ 5 โครงการ ได้แก่ การพัฒนาเมืองใหม่และสนามบิน Mrauk-U เขตนิคมอุตสาหกรรม Ponnagyum โครงการพัฒนา Kyaetaw - Mingan และการปรับปรุงสนามบิน Ngapali และโครงการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์บนเกาะ Manaung
หากโครงการทั้งหมดก่อสร้างแล้วเสร็จ เศรษฐกิจของเมียนมาน่าจะเติบโตและเป็นจุดที่น่าสนใจในอาเซียน
Bangkok Bank SME เราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพ คลิก www.bangkokbanksme.com หรือ โทร call center 1333