ธุรกิจน้อยใหญ่ปรับตัวยังไง ในวันที่ Facebook ลดอัตราการมองเห็นลง
Facebook นับเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีคนใช้งานมากที่สุดของโลก ซึ่งนอกจากจะใช้เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารแล้ว Facebook ยังถูกใช้ในการดำเนินการทางธุรกิจอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการขายของ การโฆษณา การประชาสัมพันธ์ และการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งทุกวันนี้แทบจะทุกธุรกิจของโลก ก็ใช้ Facebook เป็นช่องทางหลักในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า เพื่อส่งและรับข้อมูลข่าวสารใหม่ๆ ซึ่งเป็นการเพิ่มยอดขายไปในตัว
แต่มาวันนี้หลังจากทั่วโลกก้าวเท้าเข้าสู่ปี 2018 ได้ไม่นาน Mark Zuckerberg CEO ของ Facebook ก็ได้ออกมาแจ้งผ่านทาง Facebook หลักของตัวเองว่า เขาจะทำการปรับลด Reach หรือ การเข้าถึงของ Public Post ลง จาก 5% เหลือ 4% ซึ่งหมายความว่า โพสต์สาธารณะทั้งหมดจากแบรนด์ และแฟนเพจต่างๆ รวมถึงเพจที่ขายของ และพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทั้งหลายนั้นจะถูกลดการมองเห็นลง แต่จะแสดงผลให้เห็นโพสต์ของเพื่อนและครอบครัวมากขึ้น
ด้วยการปรับตัวที่กะทันหันครั้งนี้ทำให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ และบริษัทน้อยใหญ่ ต้องกระตุ้นตัวเองและมองหาช่องทางใหม่ๆ ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้มากกว่าเดิม ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวมเคล็ดลับการรับมือการเปลี่ยนแปลงของ Facebook ในปี 2018 มาให้เรียบร้อยแล้ว
การประกาศปรับเปลี่ยนอัลกอริธึ่มของ Facebook นับเป็นเรื่องปกติของการทำธุรกิจ สิ่งสำคัญคือการปรับตัวของเราเองต่างหาก ซึ่งอันดับแรกเลยเพื่อให้เพจของเรานั้นยังคงขึ้นแสดงผลใน Feed กลุ่มเป้าหมายอยู่ต่อไป ให้ผลิตคอนเทนต์ที่มีคุณภาพออกมา เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วม มี Engagement ให้มากขึ้น เกิดยอดไลค์ ยอดแชร์ และคอมเมนต์ เพื่อให้ได้รับผลกระทบจากการลด Reach ให้เหลือน้อยที่สุด
จากที่ปกติเราอาจจะใช้งาน Facebook แค่เพียงอย่างเดียวในการทำธุรกิจ แต่เมื่อยอด Reach ลดลง ก็คงถึงเวลาที่จะขยับขยายสาขาเพิ่มเติม ไปเริ่มตีตลาดฝั่ง Twitter Google Instagram หรือ YouTube บ้างแล้ว ซึ่งยอดผู้ใช้งานของ Twitter ตอนนี้ก็เพิ่มสูงขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ทำให้สินค้าบางชิ้นการทำตลาดผ่าน Twitter นั้นอาจดีกว่าการขายผ่าน Facebook ที่มีการลด Reach ก็ได้
สำหรับบางธุรกิจแล้ว การเรียก Engagement จากลูกค้าอาจเป็นเรื่องที่ยากสักหน่อย ไม่เหมือนเพจที่นำเสนอเนื้อหาที่เบาสบาย ซึ่งจะมียอดคอมเมนท์ ยอดไลค์ ยอดแชร์ที่สูง ทำให้ธุรกิจหลายๆ อย่างต้องเตรียมเงินสำหรับการโฆษณาที่มากขึ้น เพื่อให้อัตราการเข้าถึงของกลุ่มเป้าหมายยังคงมากมายเท่าเดิม อีกทั้งยังช่วยให้ยอดขายคงที่ และดีขึ้นได้ไม่ต่างจากก่อนการปรับลดการมองเห็นอีกด้วย
Facebook Live ยังคงเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าและแฟนเพจเข้ามาใช้บริการ เพราะ Facebook ให้ความสำคัญกับ Live มาก เมื่อมีการ Live จากเพจเกิดขึ้น จะส่งการแจ้งเตือนไปยังคนที่กดไลค์ ตรงนี้เองที่จะเพิ่มโอกาสเข้าถึงของกลุ่มเป้าหมาย และเพิ่มยอดขายให้ดีขึ้นได้ตามเดิม และอีกหนึ่งวิธีในการตีตลาดยุค 2018 ก็คือการสร้างคอนเทนต์ VDO ขึ้น เพราะทุกวันนี้ Facebook ได้ให้ความสำคัญกับคอนเทนต์ VDO มาก สังเกตได้จากการให้ลงโฆษณาคั่นระหว่างการเล่นคลิป ตรงนี้เองที่จะทำให้ VDO ของเราเข้าถึงคนส่วนใหญ่ได้ดีกว่าการโพสต์คอนเทนต์ทั่วไป