กลยุทธ์เปลี่ยนธุรกิจครอบครัวสู่ยุคดิจิตอล

แต่ด้วยบรรยากาศของร้านที่ตั้งอยู่บริเวณอ่างเกษตร ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำที่มองเห็นทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่ และการตกแต่งร้านด้วยไม้ดอกไม้ประดับที่สวยงาม ประกอบกับฝีมือการทำตลาดออนไลน์ของทายาทซึ่งเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่อย่าง ณัฏฐ์ จุฑารัตนากูล ก็ทำให้ร้านกาแลกลายเป็นร้านอาหารที่ถูกรีวิวในอันดับต้นๆ ที่ใครมาเที่ยวเชียงใหม่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

แม้จะเรียนจบแพทย์ แต่ความเป็นคนรุ่นใหม่ที่เติบโตมาพร้อมกับการเรียนรู้เทคโนโลยี บวกกับประสบการณ์ที่ได้ซึมซับงานธุรกิจครอบครัว เมื่อถึงวันที่โลกธุรกิจเชื่อมต่อกันง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ณัฏฐ์จึงมีมุมมองที่จะปรับวิธีการทำตลาดของร้านกาแลใหม่ให้ต่างไปจากเดิม เพื่อให้เข้ากับโลกยุคใหม่

“การตลาดแต่ก่อนจะเป็นลักษณะของปากต่อปาก การทำตลาดของเราแต่ก่อนมีแค่ลงหนังสือท่องเที่ยว แต่ผมคิดว่ามันน่าจะมีอะไรสักอย่างที่ทำให้เข้าถึงคนได้มากขึ้น หรือนำเสนอสิ่งที่เรามีให้คนเห็นมากขึ้น ผมรู้สึกว่าดอกไม้หรือบรรยากาศที่ดีๆ คนจะชื่นชอบ เลยเป็นที่มาให้คิดว่าจะทำอย่างไร ผมเริ่มทำการตลาดออนไลน์จาก facebook ก่อน ทำเพจขึ้นมา แล้วไปเรียนคอร์สมาคอร์สหนึ่ง ตอนแรกที่บ้านไม่เข้าใจเพราะว่าเราเรียนหมอมา เห็นนั่งกดคอมฯ ทั้งวัน มันไม่มีประโยชน์ แต่ผมเชื่อว่าเส้นทางที่ทำออนไลน์มันจะปรับเปลี่ยนโฉมของร้านได้”

แต่การลงมือทำก็ไม่ง่ายนักเมื่อณัฏฐ์พบว่า ช่วงแรกๆ ที่เขาเริ่มทำเพจนั้น แทบจะไม่มีคนติดตามเลย ทั้งๆ ที่ช่วงนั้นเขาใช้เวลาทุ่มเทกับการทำเพจมากถึงวันละ 18 ชั่วโมง

“ผมรื้อทุกอย่างที่เกี่ยวกับการทำ facebook มาตอบ inbox เอง เพราะรู้สึกว่าการจ้างแอดมินมันไม่ถึงตัวแขก พอทำเองเราก็จะรู้และแก้เดี๋ยวนั้น จนมีคน inbox เข้ามา 500 คน ในช่วงแรก จากนั้นประมาณ 57 วัน เราสามารถสร้างผู้ติดตามได้เป็นแสนคน ตัวเลขมันเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ แขกก็เยอะขึ้น ภาพรวมของร้านก็เริ่มจะเปลี่ยนไป มีกลุ่มคนที่ไม่ได้อยู่เชียงใหม่เข้ามาตามเพจ บางคนเข้ามาแล้วชอบติดตามดอกไม้ บรรยากาศ ลักษณะที่ผมทำเพจ คือจะทำแบบหลอนไปเรื่อยๆ ให้เห็นเป็นประจำ ให้รู้สึกว่ามาเชียงใหม่ก็ต้องมาร้านเรา ร้านอาหารหลายๆ ร้านเวลาโพสต์จะมุ่งเน้นที่รูปอาหารให้น่าดู น่ากิน ผมลองแล้วรู้สึกว่ามันไม่เวิร์ค เลยลองเปลี่ยนเรื่องอาหารเป็นเรื่องของความสุข เป็นเรื่องของบรรยากาศ ความประทับใจ ปรากฏว่าคนชอบเยอะ พอทำไปแล้วมันเปรี้ยง คนแชร์ต่อเยอะ เลยได้ลูกค้าออนไลน์เยอะมาก”

สิ่งหนึ่งที่ณัฏฐ์บอกว่าทำได้ดี คือการตกแต่งร้านอาหารด้วยไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิด ซึ่งเป็นอีกธุรกิจของครอบครัว ทำให้คนที่มาร้านอยากถ่ายรูป แม้บางครั้งอาจต้องรอคิวนานก็ไม่เบื่อ ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่สำคัญ เพราะเมื่อถ่ายรูปแล้วทุกคนก็มักจะแชร์หรือส่งต่อให้เพื่อน ทำให้บางวันร้านอาหารกาแลของเขาสามารถเข้าถึงผู้คนได้นับล้านคนเลยทีเดียว

“ผมเชื่อว่าเราควรแบ่งเบาภาระพ่อแม่ได้เมื่อมันถึงเวลาที่ต้องช่วย ผมเชื่อว่าถ้าเรารอให้ทุกอย่างในชีวิตพร้อม ชาตินี้ก็ไม่ต้องทำอะไร หลายๆ คนเริ่มจากสิ่งที่ไม่รู้ อย่างผมมีความรู้เรื่องหมอ ที่บ้านมีธุรกิจดอกไม้ และร้านอาหาร ผมก็ทำพวกนี้ก่อนแล้วต่อยอด ผมเริ่มจากมองว่า base line อะไรที่มีดีอยู่แล้ว เราต่อยอดได้ไหม เพราะออนไลน์เป็น shop ที่เปิด 24 ชม. ถ้าได้พื้นที่ตรงนั้นไปแล้วมีคนติดตามเยอะๆ ก็แทบจะหยิบจับอะไรเป็นเงินไปหมด แต่ที่ยากคือตอนเริ่ม ถ้าจะทำออนไลน์ ผมเชื่อว่า facebook ยังเป็นอันดับหนึ่งอยู่ดี”

นอกจากการพัฒนาช่องทางออนไลน์ด้วยการลงมือทำเองทั้งหมดแล้ว ณัฏฐ์บอกว่าข้อดีของการที่เจ้าของมาทำเองทำให้มองเห็นภาพรวมของปัญหา และแก้ไขได้ทันที เช่นเดียวกับที่เขาได้ปรับระบบการเช็คบิลที่ร้านใหม่ จากเดิมเป็นการจดบิลซึ่งทำได้ช้า มาเป็นการใช้ระบบ POS เพื่อเก็บเงิน ถือเป็นการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิตอลของร้านอาหารเก่าแก่แห่งนี้

หลังจากปรับโฉมธุรกิจร้านอาหารกาแลของครอบครัวให้เข้ากับยุคดิจิตอลแล้ว ในอนาคตณัฏฐ์ยังเตรียมจะขยายธุรกิจขายดอกไม้ออนไลน์ด้วย เพราะหลังจากที่เขาลองทำออนไลน์มาระยะหนึ่ง ทำให้ได้พบกับช่องทางตลาด ได้เจอกับผู้ซื้อโดยตรงมากขึ้น รวมถึงรายใหญ่ๆ ที่ยังไม่เคยรู้จักกันด้วย ทำให้ตอนนี้ดอกไม้ของเขาถูกส่งขายไปทั่วประเทศ ซึ่งณัฏฐ์บอกว่ากำลังไปได้ดีและยังไม่มีใครทำจริงจัง หากจะมีคู่แข่งก็คงจะยาก เพราะครอบครัวของเขาทำธุรกิจเพาะปลูกไม้ดอกไม้ประดับมานาน 30-40 ปีแล้ว ทำให้มีประสบการณ์สูงในด้านการผลิต ส่วนการตลาดนั้น ด้วยเครื่องมือของโลกยุคดิจิตอลคือสื่อออนไลน์ ก็เชื่อว่าจะเป็นช่องทางกระจายสินค้าหรือนำสินค้าไปถึงผู้บริโภคจำนวนมากได้ไม่ยากนัก

สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษา Bangkok Bank SME เราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้านทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ สายด่วน 1333